5 กฎการกินอาหารช่วงเทศกาล เลือกอย่างไร? ให้ภาวะ 'เบาหวาน' สงบ
แนะนำ 5 กฎการกินอาหารช่วงเทศกาล เลือกอย่างไร? ให้ภาวะ 'เบาหวาน' สงบ แต่ยังคงรสชาติที่ชอบได้เหมือนเดิม!
KEY
POINTS
- เลือกรับประทานอาหารประเภทย่างหรือต้มยำน้ำใส แทนอาหารทอดและแกงกะทิเพื่อลดไขมันและควบคุมระดับน้ำตาล
- เน้นอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low-GI) เช่น ผักใบเขียว ธัญพืชต่างๆ เพื่อช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคส
- ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศปรุงรสชาติอาหารแทนซอสปรุงรสที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำจิ้มไก่ หรือซอสหอยนางรม
- เลือกทานผลไม้สดที่มีกากใยสูงและหวานน้อย เช่น ฝรั่งหรือส้มโอ แทนขนมหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
ข้อมูลจากสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation) ระบุว่า ปัจจุบันมีชาวไทยอายุ 20–79 ปี กว่า 6 ล้านคนที่กำลังเผชิญกับโรคเบาหวาน หรือคิดเป็นอัตราความชุก 10.2% เพิ่มขึ้นจาก 7.5% ในปี 2554
ที่น่ากังวลคือ ผู้ป่วยถึงหนึ่งในสามยังไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังป่วย
ตัวเลขนี้สะท้อนความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่พฤติกรรมการกินอาจเปลี่ยนไปจากปกติ
หนึ่งในความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนคือ หลายคนมักคิดว่าการเป็นโรคเบาหวานหมายความว่าต้องงดอาหารที่ชอบโดยสิ้นเชิง หรือจำเป็นต้องรับประทานเฉพาะขนมไร้น้ำตาลและอาหารรสจืดเท่านั้น ทั้งที่ในความเป็นจริง ความต้องการด้านอาหารของแต่ละคนแตกต่างกัน และผู้ป่วยเบาหวานยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารไทยที่อร่อยได้เช่นเดิม เพียงปรับเลือกวัตถุดิบ ปริมาณ และวิธีปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
แอ๊บบอต ประเทศไทย ชี้ให้เห็นถึง 5 เคล็ดลับปรับเมนูอาหารแบบไทย ๆ เพื่อช่วยผู้ป่วยเบาหวานในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและก้าวสู่ภาวะเบาหวานสงบได้ง่ายขึ้น ดังนี้
1. เลือกอาหารย่างแทนอาหารทอด
อาหารทอดมักเป็นเมนูประจำงานเทศกาล และเป็นสิ่งที่หลายคนอดใจได้ยาก อาหารที่ผ่านการทอดมักมีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ลองงดเมนูทอด ในช่วงเทศกาล เช่น กล้วยทอด ปอเปี๊ยะทอด และหันมาเลือกอาหารย่าง เช่น ปลาเผา ไก่ย่าง หรือสะเต๊ะหมู/ไก่ ซึ่งให้โปรตีนสูง ไขมันเลวต่ำ และยังคงรสชาติอร่อยโดยไม่เพิ่มน้ำมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดช่วงเทศกาลมากกว่า
2. ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low-GI)
อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำมีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสและทำให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น ตัวเลือกของอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำที่หาได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ผักใบเขียว (คะน้า, กวางตุ้ง) ข้าวโอ๊ต ถั่วเขียว ข้าวบาร์เลย์ เผือก และข้าวโพดหวาน นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์โภชนาการเฉพาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เช่น กลูเซอนา สามารถใช้ทดแทนมื้ออาหารหรือเสริมมื้ออาหารเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
3. เปลี่ยนจากแกงกะทิเป็นต้มยำน้ำใสหรือแกงจืด
แม้เมนูแกงกะทิจะมีรสชาติเข้มข้นและอร่อย แต่ก็มีไขมันอิ่มตัวสูง ลองเปลี่ยนเป็นต้มยำน้ำใสหรือแกงจืดที่ปรุงด้วยผักและโปรตีนไขมันต่ำ เช่น กุ้งหรือไก่ เมนูเหล่านี้ให้รสชาติไทยแบบคุ้นเคย แต่เบากว่า และอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และโปรตีน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลระดับน้ำตาลในเลือดช่วงเทศกาล
4. ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศแทนซอสปรุงรสที่มีน้ำตาล
สมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้ สะระแหน่ โหระพา และข่า ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้กับอาหารโดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาล ในขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงซอสปรุงรสที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม เช่น น้ำจิ้มไก่ หรือซอสหอยนางรม ซึ่งมักมีน้ำตาลแฝงอยู่ ควรอ่านฉลากโภชนาการอย่างละเอียด และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี น้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาลแทน
5. เลือกผลไม้สดแทนขนมหวานและเครื่องดื่มหวาน ๆ
ในช่วงเทศกาลที่เต็มไปด้วยขนมหวาน เครื่องดื่มหวาน และของหวานประจำเทศกาล ปริมาณน้ำตาลและพลังงานที่ได้รับอาจเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว การปรับพฤติกรรมง่าย ๆ เช่น สั่งหวานน้อยหรือไม่หวาน และเลือกผลไม้สดที่มีใยอาหารสูงและมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ส้มโอหรือฝรั่ง ซึ่งหวานตามธรรมชาติ จะช่วยลดความเสี่ยงจากระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ขณะเดียวกันก็ยังตอบโจทย์ความอยากของหวานในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองได้ดี
“การใช้ชีวิตอยู่กับโรคเบาหวานไม่ได้หมายความว่าเราต้องละทิ้งรสชาติอาหารหรือวิถีการกินแบบดั้งเดิม สิ่งสำคัญคือการเติมเต็มร่างกายด้วยโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุล และปรับวิถีชีวิตที่ช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อเสริมพลังให้ผู้ป่วยก้าวไปสู่เป้าหมายภาวะเบาหวานสงบได้จริง” ทพญ.ดร.อรุณี ลายธีระพงศ์ ผู้อำนวยการการแพทย์ด้านโภชนาการของแอ๊บบอต ประจำประเทศไทย กล่าว


