สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ หากเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 “พรรคประชาชน” ยังนำทั้งพรรคและตัวบุคคล ชี้ประชาชนต้องการผู้นำใหม่ ควบคู่ความมั่นคงเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่
KEY
POINTS
- สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จากพรรคประชาชน ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 23.97%
- อันดับ 2 คือ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ จากพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนน 21.95% และอันดับ 3 คือ อนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนน 16.25%
- ส่วนอันดับ 4 และ 5 ได้แก่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ และ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามลำดับ
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ถ้ามีการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. 2569” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,232 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 16-19 ธันวาคม 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
1.ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใดแบบบัญชีรายชื่อ
- อันดับ 1 ประชาชน 24.55%
- อันดับ 2 เพื่อไทย 21.62%
- อันดับ 3 ภูมิใจไทย 17.74%
- อันดับ 4 ประชาธิปัตย์ 7.84%
- อันดับ 5 พลังประชารัฐ 6.32%
- อื่นๆ (รวมไทยสร้างชาติ, เศรษฐกิจ, กล้าธรรม, ไทยสร้างไทย, ประชาชาติ, ไทยก้าวใหม่, เสรีรวมไทย ฯลฯ) 10.91%
- ยังไม่ตัดสินใจ 11.02%
2. ประชาชนจะเลือก สส.เขต สังกัดพรรคใด
- อันดับ 1 ประชาชน 23.48%
- อันดับ 2 เพื่อไทย 21.53%
- อันดับ 3 ภูมิใจไทย 16.04%
- อันดับ 4 ประชาธิปัตย์ 7.12%
- อันดับ 5 พลังประชารัฐ 6.81%
- อื่นๆ (กล้าธรรม, รวมไทยสร้างชาติ, เศรษฐกิจ, ไทยสร้างไทย, เป็นธรรม, ประชาชาติ ฯลฯ) 11.49%
- ยังไม่ตัดสินใจ 13.53%
3. ประชาชนอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
- อันดับ 1 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (ปชน.) 23.97%
- อันดับ 2 ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ (พท.) 21.95%
- อันดับ 3 อนุทิน ชาญวีรกูล (ภท.) 16.25%
- อันดับ 4 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ปชป.) 7.30%
- อันดับ 5 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (รทสช.) 3.41%
- อื่นๆ (พล.อ.ประวิตร, พล.อ.รังษี, คุณหญิงสุดารัตน์, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์, ร.อ.ธรรมนัส ฯลฯ 11.84%
- ยังไม่ตัดสินใจ 15.28%
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า พรรคประชาชนยังนำทั้งในระดับพรรคและตัวบุคคล ขณะที่ เพื่อไทย การยกเครื่องอาจยังไม่เห็นผลชัด แต่การรีแบรนด์ผ่านตัวบุคคลที่มาพร้อมความสดใหม่ทำให้ดึงคะแนนกลับมาได้ ด้านภูมิใจไทยแม้แนวโน้มคะแนนลดลง แต่ช่องว่างยังไม่มากและมีโอกาสพลิกเกม เมื่อฝ่ายหนึ่งมีความเชื่อมั่นเป็นฐาน อีกฝ่ายมีความสดใหม่เป็นแรงส่ง และอีกฝ่ายมีความได้เปรียบทรัพยากร การช่วงชิงจังหวะจากนี้จึงเป็นการบ้านที่ทุกพรรคเร่งทำ เพื่อส่งประชาชนให้ทันวันเลือกตั้ง
ด้าน ผศ.อัญชลี รัตนะ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า แนวโน้มการตัดสินใจของประชาชนไทยต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 ก.พ.2569 ถูกหล่อหลอมด้วยความรู้สึกที่ก้ำกึ่งระหว่างความต้องการการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง และความต้องการความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่จับต้องได้จริง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2568 ทั้งความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านและภัยธรรมชาติ เมื่อแยกเป็นประเด็นย่อยต่อการตัดสินใจเลือกพรรคการเมือง พบว่า ประชาชนให้น้ำหนักกับอุดมการณ์ที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยและการเสนอทางออกใหม่ ๆ ให้กับประเทศ
ขณะที่การเลือก สส. แบบแบ่งเขตยังเป็นพื้นที่ของการพึ่งพาและความไว้วางใจในตัวบุคคล ผู้สมัครที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเป็นที่พึ่งพาในยามวิกฤตหรือมีการดูแลพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มักจะได้รับความนิยมสูงกว่ากระแสพรรคเพียงอย่างเดียว
ส่วนการเลือกผู้นำประเทศ ประชาชนยังคงมองหาบุคคลที่มีส่วนผสมของความรอบรู้เท่าทันโลกยุคดิจิทัลและมีความสามารถในการบริหารจัดการปัญหาปากท้องและหนี้ครัวเรือนอย่างเบ็ดเสร็จ


