posttoday

นายกอบต.ทะลุกรอบ กระบอกไม้ไผ่สร้างฝันให้ชุมชน

01 กุมภาพันธ์ 2553

"ธนาคารอาหารชุมชน" นายกอบต.ถั่นตั้งใจให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชด้วยผัก จึงเริ่มต้นด้วยการทำแผนแม่บทชุมชนขึ้น....

"ธนาคารอาหารชุมชน" นายกอบต.ถั่นตั้งใจให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชด้วยผัก จึงเริ่มต้นด้วยการทำแผนแม่บทชุมชนขึ้น....

โดย...วิชยันต์ บุญโชติ

อย่าได้เข้าใจผิดว่านี่คือ การโฆษณาสินค้าโอท็อป ประเภทผลิตภัณฑ์กระปุกออมสิน แต่นี่คือไอเดีย ระดมทุนซื้อที่ดิน 11 ไร่ตั้ง "ธนาคารอาหารชุมชน" และไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะที่ดิน 11 ไร่ที่ว่านี้เป็นโครงการ 2 หลังจากที่กระบอกไม้ไผ่โครงการแรกหาทุนซื้อที่ดินได้แล้ว 7 ไร่

 

นายกอบต.ทะลุกรอบ กระบอกไม้ไผ่สร้างฝันให้ชุมชน ถั่น จุลนวล

ด้วยความเป็นนักคิดที่มีไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาชุมชนบ้านเกิดโดยไม่รอความหวังจากภาครัฐ นานหลายปีมาแล้วที่ ถั่น จุลนวล หนุ่มใหญ่วัย 47 ปี ผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากคนในตำบลเลือกให้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จากการทุ่มเท พลังความคิดและแรงกายให้บ้านเกิด ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายแนวคิดในโอกาสต่างๆ และนี่คือที่มาของโครงการระดมทุนแบบบ้านฯ

ทุกวันนี้นอกจากจะปฏิบัติงานตามหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แล้ว หากได้รับเชิญให้ไปนำเสนอโครงการกองทุนจัดซื้อที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์ที่ไหน อุปกรณ์ติดตัวที่นายกอบต.ถั่นจะขาดเสียไม่ได้ก็คือ กระบอกไม้ไผ่คู่ชีพที่จะต้องนำติดตัวไปด้วยเสมอ

"ผมคิดว่าจะทำอย่างไรให้เราได้เงินมาซื้อที่ดินโดยที่ไม่ต้องอาศัยงบของทางราชการ ผมคิดง่ายๆ โดยนำตัวเลขประชากรประเทศไทย 65 ล้านคน คิดว่า 1 คน บริจาคเงินให้เราคนละ 1 บาท ก็รวมแล้ว 60 กว่าล้านบาท"

จากวันที่ความคิดปรากฏเป็นรูปร่าง นายกอบต.นักคิดคนนี้จึงเริ่มออกรับบริจาคเงินไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะไปในสถานที่ราชการหรือพื้นที่ทั่วไป ทุกครั้งที่ไปติดต่อราชการที่ไหนก็จะนำกระปุกออมสินไม้ไผ่ ติดตัวไปด้วยเสมอ และรับบริจาคคนละ 1 บาท จนทุกวันนี้เรียกได้ว่า หากเห็นนายกอบต. แต่ไม่เห็นกระบอกไม้ไผ่คู่กายก็แสดงว่าไม่ใช่นายกอบต.ถั่นตัวจริง

"ผมจะนำไปทุกที่ บางครั้งไปราชการที่กรุงเทพฯ ก็เอาขึ้นเครื่องบินหรือนำขึ้นรถไปด้วย ส่วนในพื้นที่แถบนี้ไม่ต้องห่วงเลย ไม่มีใครไม่รู้จักกระบอกไม้ไผ่ออมสิน มันกลายเป็นอุปกรณ์ที่ต้องนำติดตัวไปด้วยทุกที่ทุกเวลา"

และแล้วภายในเวลา 1 ปี ที่ดินที่เคยหมายปองไว้จำนวน 7 ไร่ ก็เป็นความจริง หลังข่าวการรับบริจาค 1 บาทกระจายออกไป ใครพบเห็นก็ช่วยเหลือ และไม่ได้มีเฉพาะเหรียญ 1 บาทตามเจ้าของโครงการที่ต้องการเท่านั้น หลายคนเต็มใจให้หลายบาท หลายคนให้เป็นหลักร้อย หลักพัน และเขายังคงเดินหน้ารับบริจาคบาทเดียวอีกเพื่อขยายพื้นที่ในโครงการต่อไปให้ครอบคลุมทั้งตำบล

"ธนาคารอาหารชุมชน" นายกอบต.ถั่นตั้งใจให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชด้วยผัก จึงเริ่มต้นด้วยการทำแผนแม่บทชุมชนขึ้น โดยใช้พื้นที่หมู่ 6 บ้านหนองเสาธงเป็นหมู่บ้านนำร่อง จากทั้งหมด 9 หมู่ จากนั้นจึงมาคิดถึงรายรับ-รายจ่ายที่ชาวบ้านจะต้องใช้จ่ายแต่ละวันในแต่ละครัวเรือน จนถึงสรุปเป็นรายจ่ายประจำหมู่บ้าน จึงเห็นว่าหากทุกครัวเรือนได้มีการเพาะปลูกพืชผักที่จำเป็น อาทิ พริก ตะไคร้ มะเขือ ต่างๆ โดยไม่ต้องซื้อก็ทำให้รายจ่ายในครอบครัวลดลง

ด้วยภาพในอดีตที่เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผัก จนเรียกได้ว่าแทบทุกบ้านจะต้องปลูกไว้ในบริเวณ แต่ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้หายไปด้วยการก่อสร้าง ปลูกสวนยางพารา เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ามาปรับพื้นที่ทำให้พืชเล็กพืชน้อยพลอยล้มตายไปด้วย จึงจำเป็นต้องหันมาใส่ใจในเรื่องนี้ แต่ติดขัดตรงที่ดินที่จะนำมาใช้เป็นแปลงเพาะปลูกตามโครงการ เนื่องจากในหมู่บ้านนำร่องไม่มีที่ดินสาธารณประโยชน์อยู่เลย แต่ปัญหาดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้ถูกปล่อยให้เป็นตัวถ่วงที่จะทำให้โครงการล่าช้าหรือถูกยกเลิกไป

เริ่มต้นด้วยการลงทุนที่แทบไม่ต้องลงทุน นายกอบต.ถั่น บอกว่าเขาเกิดและโตขึ้นมาก็เห็นกอไผ่หน้าบ้าน ต้นไผ่ให้สารพัดประโยชน์ในวิถีชีวิตของคนชนบท เขาจึงเริ่มด้วยการไปตัดไม้ไผ่ที่อยู่ใกล้บ้านมาตัดแต่งเป็นกระบอก เจาะช่องไว้สำหรับหยอดเหรียญเข้าไปได้ ดูลักษณะเป็นกระปุกออมสินหรือกระบอกรับบริจาค จากนั้นจึงออกประชาสัมพันธ์ให้บุคคลทั่วไปได้ทราบถึงที่มาที่ไปของกระบอกดังกล่าว

"ช่วงแรกๆ ที่มีการเปิดโครงการก็ได้รับบริจาคมามากมาย จึงจัดซื้อที่ดินได้มา 7 ไร่ และก็เริ่มดำเนินงานทันที ตอนนี้สร้างโรงเรือนหลังใหญ่ไว้สำหรับทำปุ๋ย ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกต้นไผ่ และกำลังสร้างสำนักงานเล็กๆไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ไปดูแลธนาคารอาหาร"

 

นายกอบต.ทะลุกรอบ กระบอกไม้ไผ่สร้างฝันให้ชุมชน

นายกอบต.กระบอกไม้ไผ่ ยังมีไอเดียต่อยอดอีกขั้นด้วยการตั้งใจว่าจะปลูก 7 ไร่ 7 เรื่อง 700 พร้อมอรรถาธิบายหลักการง่ายๆ คือ ในที่ดิน 7 ไร่นี้จะทำสิ่งต่างๆ 7 เรื่อง คือ ปลูกไผ่ไว้กินหน่อ ทำปุ๋ยอินทรีย์ เลี้ยงปลา ปลูกพืชสมุนไพร ปลูกผักสวนครัว ทำโรงเรือนเพาะเห็ด และสุดท้ายคือเลี้ยงไก่ ครบ 7 เรื่อง ส่วน 700 ก็ตั้งใจจะให้ชาวบ้านที่เข้ามาทำงานในโครงการได้มีรายได้เพิ่มข??้นวันละ 700 บาท

ทุกวันนี้ใครที่ได้ไปเยือน ต.ควนรู จะเห็นได้ว่าแทบทุกครัวเรือนมีการปลูกพืชผักในท่อ นั่นก็เป็นความคิดที่เกิดจากนายกอบต.คนนี้

"อบต.ให้แต่ละหมู่บ้านจัดลำดับการจัดทำว่าหมู่บ้านไหนได้ทำก่อนทำหลังตามลำดับจนครบ 9 หมู่บ้าน มอบให้ทุกครัวเรือน ครัวเรือนละ 10 ลูก รวมทั้งตำบลก็ประมาณ 1,600 ครัวเรือน ก็ต้องทำท่อประมาณ 1.6 หมื่นลูก ตอนนี้เกือบจะครบทุกครัวเรือนแล้ว สมมติครัวเรือนหนึ่งต้องใช้จ่ายซื้อพืชผักต่างๆ ที่นำมาปรุงอาหารครัวเรือนละ 5 บาทต่อวัน ทั้งหมด 1,600 ครัวเรือน คิดเป็นเงินทั้งตำบลวันละ 8,000 บาท เดือนละ 2.4 แสนบาท ปีละเกือบ 3 ล้านบาทแต่โครงการปลูกพืชสวนครัวในท่อซีเมนต์นี้ใช้งบประมาณเพียง 9 แสนบาท เรียกได้ว่าเก็บกินได้ครึ่งปีก็ได้ทุนคืน ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการดำเนินงาน"

นอกจากนี้??ล้ว ทางอบต.ควนรู ยังได้เตรียมโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรไว้อีกหลายโครงการ อาทิ โครงการออกปากดำนาภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยจะเชิญชวนชาวบ้านมาร่วมกันดำนาในพื้นที่เตรียมไว้ 15 ไร่ ซึ่งเป็นแปลงสาธิต หลังจากนั้นข้าวที่ได้มาทางศูนย์ข้าง ชุมชนควนรูก็จะมารับซื้อในราคาที่สูงกว่า ท้องตลาด ยังมีโครงการสำหรับปี 2553 ซึ่งได้วางแผนไว้อีกหลายโครงการ เช่น โครงการเยาวชนรักษ์ถิ่น มหกรรมภูมิปัญญาคนควนรู ธนาคารความดี และที่สำคัญโครงการอันเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา คือโครงการงดเหล้าวันพระ จะเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนตลอดจนชาวบ้านทั่วไปละเลิกการดื่มสุรา โดยเฉพาะในวันพระ และร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์ในชุมชน

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่านใดจะนำไอเดียแบบนี้ไปใช้หรือจะประยุกต์วิธีการใหม่ๆ ที่คิดแบบนอกกรอบบ้างก็ไม่ว่ากัน

วันที่ 1 ต.ค.นี้ นายกอบต.ถั่น มีคิวรับเชิญให้ไปร่วมงานโครงการหนุนเสริมองค์กรภาคประชาชน ซึ่งมีสภาพัฒนาการเมืองเป็นเจ้าภาพที่กรุงเทพฯ และแน่นอนงานใหญ่อย่างนี้จะไม่มีกระบอกไม้ไผ่คู่กายได้อย่างไร ใครอยากเห็นนายกอบต.กระบอกไม้ไผ่ตัวจริง เชิญไปงานนี้

ข่าวล่าสุด

สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ