posttoday

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ชู Smart Safety Zone 4.0 เต็มทุกพื้นที่กทม.กลางปีหน้า

15 พฤศจิกายน 2565

“บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. เผยโครงการ Smart Safety Zone 4.0 แชมป์ตร.โลก ลุยพลักดันเต็มทุกพื้นที่กทม.กลางปีหน้า ตามเสียงเรียกร้องของประชาชน

“บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” ระบุภายในงานสัมมนา Thailand Smart City : Bangkok Model ซึ่งจัดโดย โพสต์ทูเดย์ ร่วมกับเนชั่นทีวี และสื่อในเครือเนชั่นกรุ๊ป โดยได้กล่าวถึงบทบาทโครงการ ‘Smart Safety Zone 4.0’ ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอดประสานความเป็นเมืองอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยขั้นสุดของเมืองระดับมหานคร ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากที่ผ่านมากับประชาชน เพราะช่วยให้ประชาชนอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัย นอกเหนือไปจากนี้ยังช่วยให้อัตราการเกิดเหตุอาชญากรรมลดลง โดยได้รับงบประมาณแล้วจำนวน 375 ล้านบาท ซึ่งจะทำการเดินหน้าขับเคลื่อนให้จะครอบคลุมทุกพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ในกลางปีหน้านี้

“Smart Safety Zone 4.0 แนวคิดดังกล่าวเป็นของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องชมเชยท่านเป็นคนคิดเรื่องนี้ เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว ขณะที่ผมเป็นคนชับเคลื่อนสมัยเป็นผู้ช่วย ซึ่งวันนี้ทุกจังหวัดทั่วประเทศทางปลัดกระทรวงมหาไทยได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำ”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนำร่องในพื้นที่เขตลุมพินีและเขตห้วยขวาง เพียงระยะเวลา 6 เดือน ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2565 ในการประชุมสุดยอดตำรวจโลก “World Police Summit”  ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรางวัลประเภทการป้องกันอาชญากรรม (Crime Prevention) เป็นรางวัลที่มอบให้กับองค์กรตำรวจที่มีผลงานในการพัฒนาแนวคิดตำรวจชุมชนไปสู่การปฏิบัติได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ทั้งที่เทคโนโลยีของอเมริกา อังกฤษเหนือกว่าเราเยอะ แต่ประเทศไทยได้รางวัลนี้เพราะนวัตกรรมด้านการป้องกันจากการมีส่วนร่วมของประชาชน 

“ยกตัวอย่างเดิมสมัยก่อน เวลาเกิดเหตุลักทรัพย์ที่ลุมพินี เราต้องนั่งดูกล้องกับตร. ถึง 2 วัน กว่าจะระบรูปพรรณคนร้าย ในช่วงเวลาก่อเหตุ แต่เมื่อมีกล้องเอไอ ใช้เวลาแค่ 2 นาที สามาถรแยกได้เลย เช่นมีคนเสื้อแดงกี่คน มีคนใส่หมวกกดำกี่คน นี่คือเทคโนโลยี Smart Safety Zone 4.0 ซึ่งในขั้นเริ่มต้นเราเริ่มทำโครงการนี้ทางกายภาพก่อน เริ่มจาก ขีดสี-ตีเส้น ตัดกิ่งไม้ใบ แล้วก็ทาเส้นถนนทางม้าลาย ติดไฟส่องสว่าง คือในเรื่องของอาชญากรรมมีในเรื่องบุคคตลเสี่ยง สถานที่เสี่ยง ก็ทำให้ไม่เป็นพื้นที่เสียง ซึ่งจะเป็นวงรอบทำในทุกๆ 1 เดือน ของการตัดกิ่งไม้ตัดหญ้า และทุกๆ 2 เดือนพวกไฟส่องสว่าง ขีดสีและตีเส้น จากที่คนไม่กล้าเดิน ให้เป็นถนนคนเดินได้”  

โดยการทำงานด้านการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกที่ ‘ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง’ มุ่งหมายสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นในชุมชน ด้วยการนำนวัตกรรมสมัยใหม่ตามแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะนั้นมาช่วยในการทำงานของตำรวจ ซึ่งมีการติดตั้งระบบไปแล้วกว่า 100 สถานีใน 77 จังหวัดทั่วประเทศของระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถติดตามอัตลักษณ์ของผู้ที่อยู่ในข่ายที่จะเป็นภัยต่อประชาชนและยังให้การช่วยเหลือได้ไม่เกิน  15 นาที จากจุดเกิดเหตุ

“เรามีการบูรณาการทั้งหมด ทั้งร่วมมือกับประชาชนให้ประชาชนหันกล้องออกมาหน้าบ้านละ 1 หลัง 1 ตัว กล้องหน้าบ้านเขาก็จะปรากฎทั้งหน้าจอมือถือเจ้าของบ้านและในห้องคอนโทรลรูมของสถานีตำรวจ แล้วก็ไปไล่ปรับมุมกล้องของทั้งหมดที่จาก อบจ. จากกทม. ติดตั้งให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้มุมกล้องสอดรับองศา ทำให้ง่ายต่อการติดตามคนร้ายและป้องปรามก่อนการเกิดเหตุ อันนี้คืองานบริหารการป้องกัน

“ตอนนี้ก็ได้งบประมาณมาแล้ว 375 ล้าน ซึ่งคาดการณ์จะดำเนินการติดตั้งทั่วพื้นที่กทม.ทั้งหมดในกลางปีหน้า วันนี้มีโรงพัก 1,484 สถานีตำรวจ ต้องดำเนินการให้ครบทั้งหมด แต่จะเน้นพื้นที่เมืองหลวงให้ครบทุกพื้นที่ก่อน คาดว่ากลางปี 2566 จะครบทุกพื้นที่สถานีตำรวจในกทม. นอกจากนี้ก็มีเรื่องของใต้ทางด่วน สะพานลอย ที่เอารถน้ำกทม.ไปฉี่ล้างปัสสาวะ นำคนจรไปส่งพม.ให้ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เพราะวันนี้ Smart Safety Zone 4.0 เป็นโครงการที่ประชาชนอยากสำนักงานตร.แห่งชาติทำเป็นอันดับ 1 เนื่องจากหากเหตุเกิดต่อให้จับคนร้ายครบแต่เขาก็สูญเสียทรัพย์สิน ดังนั้นการป้องกันที่ดีต้องนำการปราบปรามและสิ่งเหล่านี้ต้องรักษาไว้ขับเคลื่อนทำต่อ”

ข่าวล่าสุด

กองหลังผลัดกันรั่ว ! แมนยู เสมอเดือด บอร์นมัธ 4-4 ผลบอลพรีเมียร์ลีก