posttoday

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (110)

27 สิงหาคม 2560

พระราชนิพนธ์เรื่องเมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก จำนวน 282 หน้า ในชุดเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

พระราชนิพนธ์เรื่องเมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก จำนวน 282 หน้า ในชุดเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบันทึกไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาภาษาจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 14 ก.พ.-15 มี.ค. 2544 ในพระราชนิพนธ์คำนำทรงเล่าถึงการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาในครั้งนี้ว่า “ข้าพเจ้าเรียนภาษาจีนมา 20 ปีแล้ว แต่ความรู้ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควรทั้งๆ ที่สถานทูตจีนจัดครูมาสอนเป็นประจำ จึงเกิดความคิดว่า ถ้าข้าพเจ้าได้มาอยู่ในแวดวงคนจีน เรียนภาษาจีนอย่างเดียวไม่ต้องทำงานอื่นสักพักหนึ่งน่าจะดีขึ้น ปัญหาอยู่ที่ว่าระยะหลังๆ นี้ การงานที่เมืองไทยค่อนข้างมาก จะปลีกตัวมาได้นานสักเท่าไร เมื่อ 3 ปีก่อนเคยไปสหรัฐอเมริกาเดือนหนึ่ง จึงคิดว่าน่าจะอยู่จีนได้เหมือนกัน ได้ไปลองปรึกษากับใครๆ ที่เมืองจีนทั้งทางมหาวิทยาลัยและคนอื่น ทุกคนต่างเห็นด้วย ลองไปสืบราคาที่อยู่และค่าเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง รู้สึกว่าค่อนข้างแพง แต่ก็น่าจะสู้ราคาได้ ภายหลังท่านทูตฟู่เสวียจัง ทูตจีนประจำประเทศไทยในขณะนั้นบอกว่า กระทรวงศึกษาธิการจีนจะรับภาระค่าใช้จ่ายทุกๆ ด้าน ทั้งด้านที่พักในมหาวิทยาลัย การเล่าเรียน และอาหารการกิน”

เรื่องมุ่งไกลในรอยทราย พระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 391 หน้า เป็นชุดเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศและเป็นครั้งที่ 2 ของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ทรงบันทึกไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 7-21 เม.ย. 2533 ในครั้งนี้ได้เสด็จพระราชดำเนินตามเส้นทางสายแพรไหม (Silk Road) ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าระหว่างประเทศสมัยก่อนที่ดำเนินการโดยกองคาราวาน เชื่อมการติดต่อค้าขายระหว่างจีนกับแคว้นต่างๆ ในเอเชียและยุโรป เส้นทางสายแพรไหมทางบกเริ่มขึ้นเมื่อประมาณปลายศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล มีจุดเริ่มต้นที่เมืองฉางอาน (หรือชีอาน) ผ่านเมืองต่างๆ ทางตะวันตกของจีนผ่านทะเลทรายโกบี ทะเลทรายตากลามากัน จากนั้นมีเส้นทางต่อไปยังเอเชียกลาง เอเชียใต้ เอเชียตะวันตก และยุโรป เส้นทางสายแพรไหมทางบก เป็นเส้นทางที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจในสมัยโบราณ อีกทั้งยังเป็นเหตุให้จีนและแคว้นต่างๆ ทางตะวันตกของจีนได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม แม้ว่าเส้นทางสายแพรไหมจะเสื่อมไป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10-15 แต่โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปะ หัตถกรรม ดนตรี และสิ่งต่างๆ ที่ชนหลายเผ่าสร้างสรรค์ ยังเป็นมรดกอันล้ำค่าของมนุษยชาติ ที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าต่อการศึกษาค้นคว้าและการท่องเที่ยวภาพประกอบที่สวยงาม และภาพฝีพระหัตถ์ ภาพการ์ตูน ที่ทรงสอดแทรกไว้ช่วยเพิ่มอรรถรสให้หนังสือเล่มนี้น่าอ่านยิ่งขึ้น

พระราชนิพนธ์เรื่องยามลมหนาว เล่ม 1 จำนวน 197 หน้า ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุ

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (110)

ดาฯ สยามบรมราชกุมารี บันทึกเรื่องราวหลากหลายที่น่าสนใจระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐโปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐอิตาลี สาธารณรัฐสโลวัก และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 13-23 ก.พ. 2539 อันเป็นการเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เยือนสาธารณรัฐโปแลนด์ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของประธานาธิบดีโปแลนด์

พระราชนิพนธ์ยามลมหนาว เล่ม 2 จำนวน 175 หน้า เป็นบันทึกเรื่องราวหลากหลายที่น่าสนใจระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐโปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐอิตาลี สาธารณรัฐสโลวัก และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 13-23 ก.พ. 2539 ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันเป็นการเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เยือนสาธารณรัฐโปแลนด์ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของประธานาธิบดีโปแลนด์

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (110)

พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เรื่องเย็นสบายชายน้ำเล่มนี้ มีจำนวน 327 หน้า เป็นบันทึกเรื่องราวการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 14-27 ส.ค. 2539 โดยเริ่มจากคุนหมิงถึงฉงชิ่ง แล้วประทับเรือพระที่นั่งล่องไปตามแม่น้ำแยงซีเกียง หรือฉางเจียง ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศจีนและของทวีปเอเชีย และการทอดพระเนตรโครงการซานเสีย เป็นโครงการก่อสร้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากผู้อ่านจะได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์วรรณคดีและศิลปวัฒนธรรมของสถานที่ต่างๆ ที่เสด็จฯ ทอดพระเนตร แล้วยังได้ร่วมชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามทางธรรมชาติของแม่น้ำฉางเจียง โตรกเขาซานเสีย และเทือกเขาหวงซาน เป็นต้น สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องโครงการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อย่างเขื่อนซานเสีย ก็ทรงบันทึกข้อมูลทางวิชาการต่างๆ ไว้อย่างน่าติดตาม

พระราชนิพนธ์เรื่องโรมันสัญจร จำนวน 345 หน้า จากบันทึกการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ 3-16 เม.ย. 2531 ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัล “ฮันส์คริสเตียน แอนเดอร์สัน” จัดโดย IBBY (International Board on Books for Young People) และเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมชมสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ ในอิตาลี

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (110)

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (110) ยามลมหนาว

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (110)

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (110) มุ่งไกลในรอยทราย


ข่าวล่าสุด

สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ