posttoday

หวางหมั่ง จากบุคคล ในอุดมคติของสังคมสู่ทรราช

25 มิถุนายน 2560

ราชวงศ์ฮั่นอันยิ่งใหญ่ของจีนถูกแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงฮั่นตะวันตก และช่วงฮั่นตะวันออก ทั้งสองช่วงถูกคั่นกลางด้วยราชวงศ์ซิน

โดย...นิธิพันธ์ วิประวิทย์

ราชวงศ์ฮั่นอันยิ่งใหญ่ของจีนถูกแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงฮั่นตะวันตก และช่วงฮั่นตะวันออก ทั้งสองช่วงถูกคั่นกลางด้วยราชวงศ์ซิน

ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ซิน ชื่อว่า หวางหมั่ง ประวัติศาสตร์จีนบันทึกว่าเขาเป็นทรราชผู้ชั่วช้าและจอมปลอม แต่หากเราเชื่อในทฤษฎีที่ว่า “ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์” กรณีนี้ก็มีหลายอย่างที่ต้องสงสัย

หวางหมั่งเกิดในตระกูลผู้ดี เขาเป็นถึงหลานฮองเฮาหวาง ฮองเฮาของฮ่องเต้ฮั่นหยวนตี้

เมื่อฮองเฮาหวางเป็นมเหสีของฮ่องเต้ฮั่นหยวนตี้ ญาติของฮองเฮาหวางจึงมีอำนาจบารมีมากตามไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อฮ่องเต้อีก 3 รัชกาลหลังจากนี้ล้วนมีปัญหาทั้งเรื่องการบริหาร ความประพฤติ สุขภาพ หรือไม่ก็เรื่องขาดรัชทายาท ฮองเฮาหวางที่ถูกเลื่อนเป็นไทเฮา และญาติจึงกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจยาวนานต่อเนื่อง

ครั้งหนึ่งหวางหมั่งรู้ข่าวมารดาป่วย ก็รีบลุกออกจากที่ประชุมกลับบ้านไปป้อนข้าวป้อนน้ำมารดาด้วยตนเอง เขาดำรงตนอย่างมัธยัสถ์แม้เมื่อมีตำแหน่งใหญ่โต ภรรยาของเขาก็เช่นกัน เธอแต่งกายเรียบง่าย จนเพื่อนๆ เข้าใจว่าเธอเป็นแค่นางรับใช้ หวางหมั่งยังมักขายสิ่งของเครื่องใช้มาช่วยเหลือผู้ยากไร้ สร้างบ้านเรือนให้กับคนเร่ร่อน

หวางหมั่งหลงใหลในคำสอนของขงจื๊ออย่างดื่มด่ำ เขาศึกษาและปฏิบัติตามความดีความงามแบบขงจื๊อได้อย่างสมบูรณ์และเด็ดขาด

ครั้งหนึ่งลูกชายคนรองของหวางหมั่งฆ่าทาสตาย ในยุคนั้นลูกชายเขาอาจจะมีโทษก็คงแค่ปรับหรือตักเตือน แต่หวางหมั่งกลับบังคับให้ลูกชายตัวเองฆ่าตัวตาย เพราะเชื่อว่าทาสก็เป็นคน ฆ่าคนย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิต

โอกาสที่เขาจะได้ใช้อุดมการณ์ขงจื๊อเปลี่ยนแปลงสภาพบ้านเมืองเริ่มเด่นชัด บารมีของหวางหมั่งถึงจุดสูงสุด ลูกสาวของเขาได้เป็นฮองเฮาของฮ่องเต้เด็กฮั่นผิงตี้ ซึ่งครองราชย์เมื่ออายุได้เพียง 9 ขวบ เขาคือผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง

ด้วยพฤติกรรมแหลกเหลวของฮ่องเต้หลายองค์ก่อนหน้า และปัญหาสังคมที่ทบทวี ผู้คนเริ่มเรียกร้องให้หวางหมั่งมีอำนาจสูงสุด ครั้งหนึ่งชาวบ้านถวายฎีกาให้เขารับอิสริยยศขั้นสูงสุดถึง 487,572 ฉบับ

ถึงจะดูไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรจีนจำนวน 60 ล้านคนในยุคนั้น แต่หากจินตนาการถึงปริมาณคนรู้หนังสือในอดีต หวางหมั่งน่าจะเป็นผู้บริหารคนแรกของจีนที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน

แล้วลางมงคลต่างๆ นานาที่บอกว่าหวางหมั่งควรเป็นฮ่องเต้ก็ตามมา ไม่ว่าลางมงคลเหล่านั้นหวางหมั่งจะทำเองหรือมีคนทำให้ก็ตาม ในที่สุดฮ่องเต้ฮั่นก็ต้องสละราชสมบัติให้แก่หวางหมั่งตามอาณัติสวรรค์

เมื่อหวางหมั่งขึ้นครองราชย์จึงเริ่มนโยบายแก้ปัญหาตามอุดมคติที่เก็บไว้ในอกอยู่เนิ่นนาน หวางหมั่งทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ช็อกนักประวัติศาสตร์ และช็อกสังคม

หวางหมั่งสั่งห้ามซื้อขายที่ดิน ให้ยึดที่ดินจากชนชั้นสูงและที่นาทั้งหมดมาเป็นของรัฐ แล้วจัดสรรให้กับชาวนาอย่างเท่าเทียม และจัดสรรนาส่วนหนึ่งให้เป็นนาส่วนกลางเพื่อให้ชาวบ้านทำนาส่งภาษีข้าวให้กับรัฐ

นอกจากนั้น ยังสั่งเลิกและห้ามการซื้อขายทาส ให้รัฐผูกขาดสินค้าสำคัญ เช่น เหล็ก เกลือ สุรา เพื่อไม่ให้มีการเก็งราคาและให้เป็นรายได้ของแผ่นดิน รวมถึงให้ชาวนากู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่านายทุนนอกระบบ

ความคิดสุดโต่งที่เชิดชูประเพณีโบราณในอุดมคติ ยังทำให้หวางหมั่งออกนโยบายเปลี่ยนชื่อเรียกชนเผ่าเร่ร่อนรอบอาณาจักรจีนให้แฝงนัยเหยียดหยามป่าเถื่อน นโยบายนี้เพิ่มความเป็นอริแก่เพื่อนบ้านจนนำไปสู่สงครามบั่นทอนประเทศ

การปฏิรูปของหวางหมั่งล้มเหลว แต่หวางหมั่งกลับคิดว่าข้าทำตามอุดมคติโบราณที่ปราชญ์ยิ่งใหญ่ชี้นำมาจะผิดไปได้อย่างไร หวางหมั่งจึงถูกประวัติศาสตร์บันทึกให้เป็นฮ่องเต้ที่เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ฟังใคร

การยึดติดในอุดมคติที่ไม่สามารถทำได้จริง อาจจะยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตนเองไม่ผิด แล้วชี้ไปว่าคนอื่นต่างหากที่ผิดและเลวทราม เพราะอย่างน้อยเขาคงจะเห็นว่าสิ่งที่เขาลงมือทำกับบ้านเมืองเกิดขึ้นจากเจตนาดี หากหวางหมั่งเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ดคงไม่ต้องชดใช้อะไรมากนักกับการยึดติดประเภทนี้ แต่เขาเป็นถึงฮ่องเต้ สิ่งที่เขาต้องชดใช้จึงหนักหน่วง

ยิ่งหวางหมั่งสั่งฆ่าผู้ที่เชื่อถือตามคำสั่งในอุดมคติอันดีงามของเขา ผู้ที่ต่อต้านเขาก็ยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

เหมือนฟ้าซ้ำเติม ปลายรัชกาลหวางหมั่งตามมาด้วยภัยธรรมชาติต่างๆ จึงมีคนอ้างลางร้ายมาล้มล้างเขาเช่นกัน

ซึ่งก็อาจจะเป็นขุนนางและชาวบ้านกลุ่มเดียวกันที่เคยอ้างลางมงคลให้เขาขึ้นเป็นฮ่องเต้

หวางหมั่งตายท่ามกลางกบฏรัฐประหาร หัวของหวางหมั่งถูกฝูงชนผู้คลั่งแค้นเตะเล่นเป็นลูกฟุตบอล

หวางหมั่งผู้ยึดมั่นในอุดมคติขงจื๊อในการปกครองใต้หล้าทุกกระเบียดนิ้วที่ผู้คนต่างเชิดชู จึงถูกบันทึกให้กลายเป็นผู้ดีจอมปลอมในที่สุด พฤติกรรมกตัญญู หรือเห็นคุณค่าในชีวิตทาส จึงกลายเป็นความเสแสร้งเจ้าเล่ห์อยากได้อำนาจตั้งแต่เป็นเด็กเป็นเล็ก และเมื่อเป็นใหญ่ก็ถึงขนาดลงทุนฆ่าลูกตัวเองเพื่อให้มีชื่อเสียงขจรขจาย

หวางหมั่งกลายเป็นผู้ดีที่ชั่วร้ายเลวทรามสุดจะทน ขุนนางและฝูงชนที่เคยสนับสนุนเขาพร้อมใจกันกล่าวโทษความจอมปลอมสุดยอดที่หลอกลวงพวกเขาได้ลงคอ

แม้แต่ผู้คนในหลายยุคต่อมายังทำใจได้ยาก ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจึงแก้เก้อให้กับความล้มเหลวนี้ว่าเพราะถูกคนร้ายในคราบคนดีหลอกลวง

ฮั่นตะวันตกล่มสลายไป นักประวัติศาสตร์ในยุคต่อมาแทบไม่อยากบันทึกว่าอาณาจักรจีนเคยมีฮ่องเต้ชื่อหวางหมั่ง

มีความเป็นไปได้สูงที่หวางหมั่งไม่ได้เสแสร้งหลอกผู้คน เขาเชื่อในอุดมคตินี้อย่างจริงใจ แต่เป็นชาวบ้านและขุนนางฮั่นตะวันตกในยุคนั้นต่างหากที่พร้อมใจกันหลอกตัวเองว่าอุดมคติโบร่ำโบราณคือทางออกของสังคม ทั้งที่มันไม่สามารถเป็นจริงได้

เมื่อเจตนารมณ์และอุดมคติไม่สามารถทำได้จริงและส่งผลตรงข้าม จากไอดอลผู้เป็นความหวัง จึงกลายเป็นทรราชผู้เสแสร้งในตอนจบ

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"