รถไฟสายทักษิณารัถย์
เพิ่งเดินทางด้วยรถไฟขบวนที่ 31 สายทักษิณารัถย์ ชั้น 2 กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ซึ่งยังนับว่าใหม่อยู่
โดย...ม.ล. อัจฉราพร ณ สงขลา
เพิ่งเดินทางด้วยรถไฟขบวนที่ 31 สายทักษิณารัถย์ ชั้น 2 กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ซึ่งยังนับว่าใหม่อยู่
ตู้โดยสารของรถขบวนนี้ผลิตในประเทศจีน ซึ่งก็เป็นรูปแบบมาตรฐานรถไฟจีนที่ใช้อยู่ในประเทศจีนในขณะนี้
ผู้เขียนเคยเดินทางด้วยตู้โดยสารนอน ปักกิ่ง-ซินเกียง และเซี่ยงไฮ้-ทิเบต ด้วยรถไฟจีนซึ่งมีลักษณะโครงสร้างพื้นฐานคล้ายๆ กัน หลังจากการเปิดให้บริการรถไฟใหม่ 4 สาย มีการตอบรับจากคนเดินทางที่น่าพึงพอใจ ผู้โดยสารในขบวนนี้เต็ม แสดงว่าลึกๆ แล้วคนยังมีศรัทธาต่อการรถไฟไทยอยู่ ถ้าชอบและคุ้มกับที่คาดหวังจะกลับมาแน่
ค่าโดยสารไม่แพงมากนัก ผู้เขียนซื้อตั๋วรถไฟสายทักษิณารัถย์ หัวลำโพง-หาดใหญ่ ที่สถานีบางเขนล่วงหน้าหลายวันตอนราว 1 ทุ่ม ชำระเงินด้วยเครดิตการ์ด ในคิวซื้อตั๋วมีคนมาซื้อตั๋วล่วงหน้าไปยังที่อื่นๆ หลายคน
สงสัยในใจอยู่ว่าตอนนี้เราสามารถเช่ารถ จองโรงแรม ซื้อตั๋วรถไฟ เรือ ฯลฯ ที่ประเทศอื่นล่วงหน้าทางอินเทอร์เน็ตได้ แต่ทำไมการรถไฟไทยต้องให้คนเสียเวลาเดินทางมาซื้อตั๋วที่สถานี
วันเดินทางได้ไปขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ที่ข้างตู้โดยสารมีป้ายอักษรไฟฟ้าบอกชื่อรถขบวนที่ 31 ลำดับตู้ที่ 9 ชัดเจน ไม่ต้องเพ่งหากันเหมือนตู้รถไฟรุ่นก่อน รถเข้ามาจอดที่ชานชาลาก่อนเวลาออกชั่วโมงกว่า ถ้าใครขึ้นรถเลยจะต้องเบียดและหลบชุลมุนกับพนักงานที่ต้องนำวัสดุบริการขึ้น เช่น ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ฯลฯ ซึ่งเขาจะทำเสร็จก่อนขบวนรถออกราว 45 นาที หากผู้โดยสารมาขึ้นช่วงที่เขาทำงานเสร็จแล้วจะสะดวกกว่า รถไฟน่าจะให้ข้อมูลเรื่องนี้
การนำสัมภาระขึ้นบนรถไฟ เมื่อก่อนนั้นบางคนขนสัมภาระชิ้นใหญ่มากแล้วไปวางเก็บไว้ตรงโน้นตรงนี้ได้ แต่รถไฟขบวนนี้ดูแล้วเหมือนจะจำกัดพื้นที่ให้คนมีช่องว่างส่วนตัวคือที่ใต้ที่นั่งตนเองประมาณ 45x45x25 ซม. ซึ่งก็เป็นที่ว่างใส่กระเป๋าลากขนาดกลางเท่านั้น ปกติแล้วในตู้รถไฟต่างประเทศอย่าง Shinkansen ICE SR หากมีสัมภาระชิ้นใหญ่กว่าที่ใส่ใต้เก้าอี้ส่วนตัวจะต้องนำไปวางเก็บไว้ที่ช่องเก็บตรงหัวหรือท้ายตู้ของรถไฟ เมื่อได้ไปเดินดูแล้วก็เห็นว่ามีช่องที่เก็บสัมภาระชิ้นใหญ่เหมือนกันแต่ล็อกไว้ พนักงานบอกว่าเป็นที่เก็บผ้าห่มไว้ใช้ตอนขากลับ
กระเป๋าใบเดิมที่ผู้เขียนเคยใส่ใต้ที่นั่งรถไฟสาย Trans Siberia ได้พอดี แต่กลับใส่ใต้ที่นั่งรถไฟไทยไม่ได้ เพราะขนาดตู้โดยสารรถไฟไทยแคบกว่ารถไฟในยุโรป จีน ญี่ปุ่น อันเนื่องมาจากขนาดรางเราแคบกว่า ถ้าจะใส่กระเป๋าขนาดที่เคยใช้เดินทางในต่างประเทศใบนี้ได้ การรถไฟไทยก็ต้องเปลี่ยนความกว้างรางรถไฟทั่วประเทศเสียก่อน กระเป๋าจึงต้องยื่นล้นออกมาจากใต้เก้าอี้อยู่พอสมควร
รถไฟสายทักษิณารัถย์ไม่มีชั้น 3 แต่มีเฉพาะชั้น 2 และชั้น 1 จำนวนตู้โดยสารชั้น 2 มี 10 ตู้ และชั้น 1 อีก 1 ตู้อยู่ท้ายสุดขบวน โดยมีตู้เสบียงอยู่กลางขบวน ตู้ที่อยู่ติดกับตู้เสบียงนั้นจัดไว้ส่วนหนึ่งเป็นที่โดยสารสำหรับคนพิการซึ่งมีที่เก็บวีลแชร์ไว้ด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นข้อกำหนดการออกแบบยานพาหนะสากล ไม่ว่าเครื่องบิน เรือ รถไฟรุ่นใหม่ไปแล้ว
ห้องน้ำเป็นระบบสุญญากาศเหมือนเครื่องบิน ทุกตู้โดยสารติดระบบปรับอากาศ ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 23 องศาเซลเซียส เย็นกว่าบนเครื่องบินเสียอีก เวลานอนเขามีผ้าห่มให้บริการ ผ้าห่มซักจากร้านซักแห้งชื่อดังบรรจุมาในถุงพลาสติกสนิทจากโรงงานซักแห้ง
ระบบไว-ไฟ มีให้เฉพาะชั้น 1 และในห้องเสบียง ส่วนชั้น 2 ไม่มีไว-ไฟ คนยังเข้าใจผิดกันว่ามีให้ทุกที่นั่ง ปลั๊กชาร์จไฟมีให้ทุกที่นอน แต่เวลานั่งไม่ค่อยสะดวก เพราะต้องใช้ปลั๊กข้างล่างร่วมกับอีกคน เนื่องจากปลั๊กไฟสำหรับคนที่นอนชั้นบนถูกที่นอนงับปิดเอาไว้ ต้องขึ้นไปนอนค่ะจึงจะใช้ปลั๊กไฟของตัวเองได้
เส้นทางหัวลำโพง-หาดใหญ่ รถจอดระหว่างทาง 13 สถานี การซื้ออาหารหรือสินค้าตามสถานีเวลารถหยุดอย่างสมัยก่อน เช่น ไก่ย่างนครปฐม ข้าวเกรียบเพชรบุรี ฯลฯ เลิกไปเลยค่ะ เพราะตู้โดยสารเป็นตู้เปิดหน้าต่างไม่ได้ หากใครยังติดอารมณ์เดินทางแบบเดิมอยู่ เวลาถึงสถานีที่เคยมีอาหารขาย เช่น ราชบุรี เพชรบุรี ก็ให้ไปที่ประตูใช้ความเร็วสักหน่อย เส้นหมี่น้ำในกล่องโฟมราคาชุดละ 10 บาท ถูกกว่าอาหารที่เนปาล
ส่วนอาหารบนรถไฟมีที่ตู้เสบียงเท่านั้น ประเภทอาหารที่ให้บริการก็มาตรฐานเดียวกับที่ร้านสะดวกซื้อ คือซื้อจากที่แสดงไว้ในเมนู เขาจะอุ่นให้ด้วยเตาไมโครเวฟ เราจะนั่งกินที่ตู้เสบียง หรือจะนำกลับไปกินที่นั่งของตัวเองก็ได้
ที่นอนได้ราบ 180 องศา เป็นจุดขายของรถไฟตู้นอน แต่นอนแล้วต้องตามมาด้วยที่นอนที่นอนได้หลับสบายด้วย เตียงนอนไม่กว้างมากนักแต่ก็ไม่ว่ากัน แต่ผ้าม่านเตียงบนที่ผู้เขียนนอนจะปิดอย่างไรก็ปิดไม่สนิท ไฟในห้องโดยสารส่องลอดแนวม่านเข้าไปเข้าตาเวลานอนพอดี ทำให้รบกวนมาก
ความเร็วรถไฟสามารถทำได้ถึง 120 กม./ชม. แต่ก็ทำได้ราว 90-100 กม./ชม. ใช้เวลาวิ่งถึงหาดใหญ่ราว 15 ชั่วโมง ต้องหยุดรอรถสวนในบางสถานี แต่ก็ถึงหาดใหญ่ตามเวลา
การที่ผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง ก็แสดงว่ายังมีคนรักการเดินทางโดยรถไฟ และรถไฟก็ยังมีจุดแข็งของตัวเองอยู่
เขียนมาให้ทราบถึงบางจุดที่ควรดูแลเพิ่มเติม ช่วยกันแก้ไขปัญหาและเดินหน้าต่อไป...
ยังรักรถไฟไทยอยู่ค่ะ
(พบกันวันเสาร์หน้า)


