posttoday

พระพุทธเจ้าคือต้นแบบการโค้ช

26 มิถุนายน 2559

โดย...ราช รามัญ

โดย...ราช รามัญ

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการโค้ชเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ไปแล้ว ผู้ที่เป็นโค้ช คือ บุคคลที่คอยสนทนาพูดคุยดุจเป็นกระจกสะท้อนให้ผู้ที่เข้ามารับการโค้ช  ซึ่งเราเรียกผู้ที่เข้ามารับการโค้ชว่า
โค้ชชี่ ศาสตร์นี้ตามหลักสากลนั้น ผู้ที่โค้ชจะไม่ชี้แนวทางแสวงหาทางออกให้ แต่จะพูดคุยและอาจเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองบ้างเพื่อให้ผู้ที่ได้รับการโค้ชหรือโค้ชชี่ ค้นพบคำตอบได้เอง

ศาสตร์การโค้ชนี้มีที่มาที่ไปจากต่างประเทศ แต่แล้วคนไทยได้ไปศึกษาและนำเอามาต่อยอดพัฒนาปรับปรุงให้เติบโตและเหมาะสมกับคนไทยมากขึ้น สถาบันโค้ชที่ได้รับความนิยมอย่างสมาคมการโค้ชวิถีไทย ซึ่งมี อาจารย์ณรงค์วิทย์  แสนทอง เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้

พระพุทธเจ้าพระองค์ก็ทรงเป็นต้นแบบของการโค้ชที่โค้ชรุ่นหลังๆ ได้นำเอามาเป็นแบบอย่าง เพราะหลายบทตอนในพระสูตรที่พระองค์เผยแพร่ธรรมนั้นในลักษณะของการตอบปัญหา ล้วนเป็นไปในเรื่องของลักษณะการโค้ช ซึ่งเมื่ออ่านแล้วทำให้เราเข้าใจเลยว่าประสิทธิภาพของการโค้ชนั้นมีมากน้อยเพียงใด อาทิ

  “กรรม คือ อะไร” พระพุทธเจ้าทรงตรัสถาม

“คือการกระทำพระเจ้าข้า”

“การเป็นชาวนา  การเป็นพ่อค้า เขาเป็นเพราะอะไร” พระพุทธเจ้าทรงตรัสถาม

“เพราะกรรม พระเจ้าข้า”

“ทำไม จึงกล่าวว่าเป็นเพราะกรรม” พระพุทธเจ้าตรัสถาม

“เพราะเขาลงมือกระทำอยู่ในการดำนา จึงเป็นชาวนา เพราะเขากำลังค้าขายอยู่จึงเป็นพ่อค้า พระเจ้าข้า”

“เธอกล่าวได้ถูกต้องแล้ว กรรมปัจจุบันเป็นอย่างนี้แล” พระพุทธเจ้าตรัส

ผู้ที่ตอบคำถามของพระพุทธเจ้าประดุจเป็นโค้ชชี่ ที่สามารถทราบคำตอบได้โดยตัวเอง  เพียงแต่เมื่อสามารถเข้าถึงคำตอบแล้วพระพุทธเจ้าจึงทรงรับรองว่าถูกต้อง

หลักธรรมของพระพุทธเจ้า สามารถนำเอามาเป็นต้นแบบในการโค้ชเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะเกิดขึ้นกับใคร ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ เป็นเรื่องอะไรก็ตาม

ครูไทยโค้ชท่านหนึ่ง ดร.ดไนยา ตั้งอุทัยสุข  เป็นบุคคลที่มีความรู้ทั้งด้านศาสตร์ตะวันตกในเรื่องของ NLP ตัวจริงของเมืองไทยและมีความรู้เรื่องของการโค้ช ที่ลึกซึ้งกับพระพุทธศาสนายิ่งนัก ได้นำเอาความรู้ที่มีมาผสานกับศาสตร์ตะวันตกและตะวันออกอย่างกลมกล่อม แล้วทำให้เกิดสติปัญญากับผู้ที่ได้เข้ามาศึกษาในศาสตร์การโค้ชอย่างมาก

“คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องของปัญญา เวลาที่โค้ชชี่ตลอดทั้งองค์กรต่างๆ เกิดปัญหาในองค์กร หลักธรรมของพระพุทธเจ้าจะสามารถนำเอาไปคลี่คลายได้อย่างราบรื่นมาก  ไม่ว่าจะธรรมข้อใดก็ตามถ้าหากเรานำเอามาใช้ให้ถูกหลักถูกที่ ทุกปัญหากลายเป็นเรื่องเล็กไปหมด แก้ไขได้หมด

แต่แนวทางที่จะไปบอกเขาจะต้องไม่ใช่ไปชี้ไปบอกตรงๆ ต้องทำให้เขาคิดได้เอง สรุปได้เอง ด้วยตัวของเขาเอง เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เขาเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น  หลักธรรมที่ถือได้ว่าสามารถนำเอามาปรับใช้อย่างสมดุล คือ อริยสัจ 4  เพราะต้องไม่ลืมว่าความทุกข์ที่ปรากฏตรงหน้าล้วนมีเหตุที่มา ไม่ใช่เกิดขึ้นมาลอยๆ  ดังนั้นทุกข์ สมุทัย นิโรธ เป็นสิ่งที่โค้ชต้องพยายามถามและให้เขาตอบแบบคิดได้เองโดยที่ไม่ต้องใช้ภาษาธรรมะแต่ใช้ความหมายของธรรมะนั้นเป็นเกณฑ์  ส่วนคำว่า มรรค สำหรับทางโลกอาจจะหมายถึงหนทางแห่งการแก้ไขปัญหา แต่ถ้าเป็นทางธรรมอาจหมายถึงเส้นทางไปสู่ผลของการปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นอริยบุคคล”

ดร.ดไนยา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า  “มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความทุกข์ทั้งนั้น ทุกข์มากก็ทุกข์แต่พอทุกข์น้อยก็ไปเรียกว่าความสุข แต่ตามความเป็นจริงมันคือความทุกข์ทั้งสิ้นนั่นเอง ศาสตร์ของการโค้ชจึงมีประโยชน์อย่างแท้จริงโดยเฉพาะแนวทางการโค้ชแบบไทยโค้ช คือ การนำเอาหลักวิถีพุทธเข้ามาร่วมได้อย่างลงตัว”

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของการโค้ช เพื่อให้คนไทยได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาชีวิตของตัวเองได้ด้วยตัวเอง เมื่อได้รับการฝึกทักษะการโค้ช นอกจากนี้ยังจะทำให้ลดปัญหาในสังคมลงได้อย่างเห็นได้ชัดเจน  เรื่องของการโค้ชเป็นศาสตร์ที่คนไทยควรหาโอกาสศึกษา เพราะความรู้ในด้านนี้สามารถทำให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราได้มากขึ้น ไม่ว่าจะปัญหาใหญ่หรือปัญหาเล็ก เพราะแท้ที่จริงแล้วทุกปัญหาก็สามารถมีหนทางแก้ไขได้อยู่เสมอ 

ทิ้งท้ายฝากประชาสัมพันธ์ สำหรับโครงการ How to ภาวนา ท่านที่สนใจจะร่วมเข้าฝึก ซึ่งผม ราช รามัญ เป็นวิทยากรอบรมเองตลอดทั้งหลักสูตรเพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิตให้มีความสุขและความสำเร็จ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 09-4520-7777 และ Line ที่ id : MAYATA2222  รับจำนวนจำกัดครับ

ข่าวล่าสุด

สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ