พระพยอมขอโทษ หลังไม่พบพระธัมมชโยกล่าวร้ายภิกษุรูปอื่น
พระพยอมเขียนบทความขอโทษที่เข้าใจผิด ระบุ ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า "พระธัมมชโย" มีการกล่าวถึงภิกษุอื่นในทางที่ไม่เหมาะสม
พระพยอมเขียนบทความขอโทษที่เข้าใจผิด ระบุ ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า "พระธัมมชโย" มีการกล่าวถึงภิกษุอื่นในทางที่ไม่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. เว็บไซต์โลกวันนี้ ได้เผยแพร่บทความเรื่อง พระพยอม"ขอโทษ" เขียนโดย พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว โดยมีเนื้อหาระบุถึงกรณีการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย และ วัดพระธรรมกาย โดยมีเนื้อหาดังนี้
จากกรณีที่มีหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งลงข่าวพาดหัวว่า “พระพยอมอ่านเกมธัมมชโย แนะตัดเสบียง ส่งทหารปิดล้อม” ชนิดที่ว่าพอเห็นพาดหัวข่าวแล้วไม่ว่าใครก็ต้องตื่นเต้น อยากติดตามอย่างแน่นอน ในเนื้อข่าวก็ดุดันไม่แพ้กัน อาตมาอ่านเองยังตกใจว่าทำไมเราพูดจาดุดันขนาดนั้นเชียวหรือ?
วันถัดมามีสื่อมากมายติดต่อมาสัมภาษณ์อีกว่า พระพยอมโดนธรรมกายฟ้องแล้วนะ อาตมาก็ให้สัมภาษณ์ไปว่า อาตมายอมเป็นสัตว์เล็กที่ติดใยแมงมุมของกฎหมาย เพราะถ้าเป็นสัตว์ใหญ่คงชนตูมจนใยแมงมุมของกฎหมายขาดกระจุย สื่อก็ไปพาดหัวข่าวว่า “พระพยอมลั่นไม่กลัวถูกดำเนินคดี เพราะพูดความจริง”
ถัดมาอีกวันมีสื่อติดต่อเข้ามาอีกมากกว่าเดิมเพื่อขอสัมภาษณ์ต่อยอดจากเรื่องวันก่อน จนอาตมาชักเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราพูดออกสื่อไป สื่อได้สื่อสารตรงตามที่พูด หรือมีข้อเท็จจริงอะไรคลาดเคลื่อนหรือไม่ ทำไมสื่อเริ่มเข้ามาถามคำถามที่เหมือนอาตมากำลังเลือกข้าง เข้าไปเหยียบย่ำซ้ำเติมวัดพระธรรมกายที่กำลังถูกสังคมจับตากรณีพระธัมมชโย?
อาตมากลับมาทบทวนพิจารณาเรื่องข่าวต่างๆที่ออกไป พบว่ามีข้อเท็จจริงบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจนคือ กรณีที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ที่มีการพูดจากสื่ออาวุโสชื่อดังบางท่าน หรืออดีต ส.ว.สรรหาบางท่านที่เกาะติดเรื่องวัดพระธรรมกายมานาน รวมถึงข่าวที่แพร่กันในสังคมออนไลน์ที่ว่าท่านธัมมชโยได้กล่าวถึงหลวงปู่มั่นและท่านพุทธทาสว่าไปอยู่ในภพภูมิที่ไม่เหมาะสม หรือเข้าใจง่ายๆว่าได้ไปอยู่ในนรกภูมิ
อาตมาได้ให้ผู้ช่วยช่วยค้นหาข้อเท็จจริงว่าเคยมีเทปหรือคลิปที่ท่านธัมมชโยได้พูดในลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่ ก็ยังไม่สามารถหามาได้ อีกทั้งมีผู้สอบถามไปยังวัดพระธรรมกายถึงเรื่องการพูดดังกล่าว ก็ได้รับการปฏิเสธมาว่าไม่เคยมีการกล่าวร้ายใดๆต่อหลวงปู่มั่น ไม่เคยอวดอุตริว่าไปพบเห็นท่านพุทธทาสในนรกภูมิอย่างที่มีการส่งข่าวแชร์ข่าวกันแต่อย่างใด และยังสำทับมาว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงป่านนี้คงมีคลิปภาพเสียงว่อนกันไปก่อนหน้านี้นานแล้ว
ในเมื่อความจริงดังกล่าวยังไม่ปรากฏชัด ในฐานะที่อาตมาก็เป็นลูกผู้ชายชาติพระเหมือนกัน อาตมา “ขอโทษ” ต่อกรณีดังกล่าวหากอาตมาได้เข้าใจผิดไป ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาในทำนองว่าพระพยอมยุให้ทหารล้อมลุยจับอะไรนั่น อาตมาเข้าใจว่าคงลงไม่ตรงกับบรรยากาศที่สัมภาษณ์นัก เพราะข้อเท็จจริงเป็นการตอบคำถามเชิงเปรียบเทียบจากคำถามนักข่าว อาตมาจึงยกตัวอย่างจากการที่ได้รู้จากอดีตนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งที่เล่าให้ฟังว่า ปรกติการจับกุมเขาจะเริ่มจากเบาไปหาหนักกันอย่างไรเท่านั้น ซึ่งว่าตามจริงหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะกระทำอะไรกับพระที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมายและเป็นที่เคารพนับถือขนาดนี้ ข่าวที่ออกมาดูจะเว่อร์เอิกเกริกเกินไปด้วยซ้ำ การเจรจาพูดคุยน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด ไม่ใช่การใช้กำลังอย่างแน่นอน
แต่ในส่วนอื่นๆในการแสดงความคิดเห็น เช่น การบ้าบุญ หลงบุญ และชวนให้ทำบุญกันจนเพลียบุญ ถึงขนาดมีบางคนต้องหมดเนื้อหมดตัวกับการทำบุญนั้น อาตมาไม่เห็นด้วย ไม่ใช่แค่วัดพระธรรมกายเท่านั้น แต่หมายถึงทุกวัด ทุกองค์กร ถ้าทำบุญจนตนเองต้องเดือดร้อนนั้นย่อมไม่ใช่สิ่งที่สมควร
อีกเรื่องที่อาตมาขอชี้แจงและฝากไว้ก็คือ การจะเกลียดอะไรใครก็ให้เหลือเผื่อมีโอกาสกลับมารักกัน ดีกันได้อีกบ้าง เช่นเดียวกันถ้าจะรักอะไรใครก็อย่าลุ่มหลงจนหมดใจ ให้เผื่อใจไว้ผิดหวังกันบ้าง
เรื่องความรู้สึกเคารพนับถือและการออกมาปกป้องครูบาอาจารย์ ไม่ว่าศิษย์วัดพระธรรมกาย ศิษย์หลวงปู่มั่น ศิษย์ท่านพุทธทาส ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าก็ต้องมีความรู้สึกหากมีใครมาลบหลู่หรือให้ร้ายในทางเสียหาย แม้แต่เรื่องคุณทักษิณก็เหมือนกันก็มีทั้งคนเกลียด คนรัก ดังนั้น จะเกลียดจะรักก็ต้องเผื่อไว้ในอนาคตด้วย
วันนี้หากพระพยอมทำให้ใครเป็นทุกข์ “พระพยอมขอโทษ” แต่สำหรับจุดยืนในการปกป้องพระพุทธศาสนานั้น อาตมายังขอสงวนสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่ทำนุบำรุงพระศาสนาอย่างถึงที่สุด
เจริญพร


