posttoday

เปิดใจ "ยอด ปอง" เรือจ้างไร้สัญชาติผู้ชอกช้ำ

05 มิถุนายน 2559

เรื่องราวของครูหนุ่มวัย 27 ปี ผู้ไม่สามารถสอบเข้ารับราชการครูได้ เพราะไร้สัญชาติไทย

โดย..วรรณโชค ไชยสะอาด

ยอด ปอง คุณครูหนุ่มวัย 27 ปี กลายเป็นชื่อที่สังคมให้ความสนใจ ภายหลังการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกร้องขอความช่วยเหลือและให้รับฟังความทุกข์ของเขา โดยระบุว่า ไม่สามารถสอบบรรจุเข้ารับราชการครูได้ เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องของการเป็นผู้ไร้สัญชาติไทย

เกิดที่เมียนมา แต่เป็นคนไทย

ยอด ปอง เกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2531 ที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อแม่ทำอาชีพเฝ้าบ่อปลาให้กับนายจ้าง จนกระทั่งอายุได้ 7 ขวบ พากันโยกย้ายสํามะโนครัวมายังประเทศไทย

“ผมเกิดที่นั่นก็จริง แต่ไม่ใช่คนเมียนมานะครับ เป็นชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์เผ่าปะหล่องหรือดาราอั้ง พออายุได้ 7 ขวบ ช่วงปี 2538 ก็ย้ายเข้ามาอยู่เมืองไทย  ที่ผ่านมากว่าจะเป็นครูวันนี้ ผมทำงานมาหลากหลาย ทั้งคนสวนกล้วยไม้ รับจ้างทั่วไป เลี้ยงเด็ก เป็นลูกจ้างโรงงานกรงนก โรงงานพลาสติก”

เด็กชายยอดไม่ต่างจากคนเถื่อน ไม่มีใครรับรองให้อยู่ในความดูแลของรัฐ เขาเริ่มเข้าเรียนในชั้น ป.1 เมื่อปี 2542 ที่โรงเรียนวัดท่าเสา จ. สมุทรสาคร ก่อนเรียนต่อชั้น ป.5-ป.6 ที่โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง ช่วงนั้นเองเขาได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทย ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษ ถือเลขบัตรประจำตัว 00 นำหน้า

“ตอนนั้นผมกลายเป็นคนมีรัฐไม่ใช่คนเถื่อนอีกต่อไป ถึงแม้จะเป็นแรงงานต่างด้าว แต่ก็ได้โอกาสเรียนหนังสือ โชคดีจริงๆครับที่ได้เรียน ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นแรงงานก่อสร้างหรือทำอย่างอื่น อาจโดนเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจเอาเปรียบ รีดไถเหมือนคนไม่มีสัญชาติหลายๆคน ที่ผ่านมาผมพยายามทำกิจกรรมต่างๆ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งเมื่อเรียนจบจะมาเป็นครู ใช้วิชาที่ศึกษาเล่าเรียนมานั้นมอบความรู้ต่างๆให้กับเด็กนักเรียน เยาวชนไทย ให้พวกเขาได้มีความรู้ ตระหนักถึงการร่วมกันอนุรักษ์ดนตรีไทยให้อยู่กับผืนแผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน”

ต่อมาปี 2554  ชีวิตของเขาจะถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น หลังจากสอบติดที่มหาวิทยาลัยบูรพาได้ ในคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาการสอนนาฏยสังคีต นอกจากนี้สถานะทางบุคคลยังได้รับความช่วยเหลือจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและรัฐบาล ขึ้นทะเบียนจากกลุ่มคนเลข 00 หรือคนต่างด้าว กลายเป็นกลุ่มคนเลข 0 หรือ “ชนกลุ่มน้อย” เป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่งสามารถเข้าถึงหลักประกันสุขภาพและรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทว่าอิสรภาพในการเดินทางยังมีข้อจำกัด จำเป็นต้องขออนุญาตจากทางอำเภอทุกครั้งเมื่อต้องการเดินทางออกนอกพื้นที่

เปิดใจ "ยอด ปอง" เรือจ้างไร้สัญชาติผู้ชอกช้ำ

ไร้สัญชาติ หมดโอกาสรับราชการครู

หลังเรียนจบ ยอด ปองเดินตามความฝันด้วยการเป็นคุณครู แต่ไม่สามารถสอบบรรจุเข้ารับราชการครูได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของการเป็นผู้ไร้สัญชาติไทย โดยทางออกตามกฎหมายกำหนดเส้นทางให้เขาเลือกไปดังนี้

1.ยื่นขอสัญชาติตาม มาตรา 11 วรรค 1 ของระเบียบ พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 ที่ระบุว่า บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับผืนแผ่นดินไทยสามารถที่จะยื่นขอสัญชาติได้ โดยผู้อนุมัติคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

“บางคนเขาบอกว่า อย่าไปให้คนพวกนี้เลย เดี๋ยวมีปัญหาเรื่องความมั่นคง พูดแบบนั้นเพราะเขาไม่เข้าใจ ไม่ได้เกิดมาเป็นเรา เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ต้องการทำประโยชน์ให้ประเทศ สร้างประโยชน์ในแบบที่อยากทำ ชีวิตวันนี้เราไม่เท่ากับคนอื่น ที่ผ่านมาทำคุณประโยชน์มาหลายอย่าง แต่ดันมีคนมองว่าเราจะเป็นตัวสร้างปัญหาเรื่องความมั่นคง  ที่สำคัญกฎหมายมาตรานี้ ตีความกว้างมาก ไม่ได้ระบุชัดว่าต้องทำคุณประโยชน์ให้แผ่นดินขนาดไหน ถึงจะได้รับสัญชาติ  ผมเองต้องการยื่นเรื่องในด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย”

2.กลับบ้านเกิดขอสัญชาติจากรัฐบาลเมียนมา แล้วจึงขอสัญชาติไทยต่อไป 

“เรื่องนี้คงเป็นไปได้ยาก และผมไม่ได้อยากเป็นคนพม่า ผมเลือกเกิดไม่ได้ ตอนนั้นเป็นชนกลุ่มน้อยอพยพมา ภาษาพม่าก็ไม่รู้เรื่อง รู้จักเรื่องราวของพม่าน้อยมาก จะให้เป็นคนพม่าได้อย่างไร  บางคนบอกให้กลับไปอยู่พม่าเลย ทรัพยากรดีกว่าเมืองไทย บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปสู่ความเจริญ แต่มันไม่ใช่ครับ ผมอยากอยู่ที่นี่ คิดว่าแผ่นดินนี้ เป็นแผ่นดินที่ผมจะสร้างประโยชน์และตายไป บางคนก็บอกให้ผมไปเป็นครูเอกชน แต่เรามีความฝันว่าอยากเป็นครูรัฐบาล”

ปัจจุบันครูยอดได้รับโอกาสจากโรงเรียนประเสริฐสุข บางพระ ชลบุรี (เอกชน) ให้เป็นครูประจำโรงเรียน ทั้งที่ไม่มีสัญชาติ “ผมจะพัฒนาให้สมกับโอกาสที่ผมได้รับครับ” ครูหนุ่มยืนยัน

เปิดใจ "ยอด ปอง" เรือจ้างไร้สัญชาติผู้ชอกช้ำ

โซเชียลคือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง

ชีวิตที่ผ่านมาของ ครูยอด เรียกว่าไม่ธรรมดา ทำกิจกรรมและรับรางวัลน้อยใหญ่มาแล้วมากมายทางสังคม อาทิ เป็นนายกสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ เป็นหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร แกนนำเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  เจ้าของรางวัลความประพฤติดีงามจากพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ รางวัลประชาบดี 2557 โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  รางวัล คนค้นคน อวอร์ด ครั้งที่ 4 สาขาเยาวชนต้นแบบ จากรายการคนค้นคน  รางวัลตาราอวอร์ด ครั้งที่ 2 ผู้ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์ จากเสถียรธรรมสถาน  รางวัลนิสิต นักศึกษา แห่งชาติ ทางครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ เป็นต้น

การเผยแพร่เรื่องราวครั้งนี้ของคุณครูวัย 27 ปี ไม่ได้เรียกร้องเพื่อตัวเองเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงเพื่อนร่วมชะตากรรมทุกคนในเมืองไทยด้วย

“ผมเลือกสู้ทางโซเชียลมีเดีย เพราะเห็นว่าถ้าไปยื่นหนังสือถึงผู้ใหญ่ เขาดูเสร็จ คงวางทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่ง บนโต๊ะหรืออาจเป็นถังขยะ ไม่ได้รับการผลักดันต่อ แต่โซเชียลมีเดีย นอกจากทำให้สังคมตื่นตัวแล้ว ยังทำให้คนกลุ่มเดียวกันกับผมออกมาร่วมกันส่งเสียงอีกด้วย หวังว่า การเผยแพร่ครั้งนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้กฎหมายมันชัดเจนขึ้น และทำให้สังคมรู้ว่า ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการโอกาส”

“ตัวไม่ใช่ไทยแท้ แต่หัวใจเป็นไทยแท้ แสนชอกช้ำ ไม่เท่าเทียมทางสังคมต้องจดจำ ยอมรับคำดูหมิ่นอยู่เรื่อยมา ความน้อยใจอัดแน่นอยู่เต็มอก เปรียบดั่งนกอยู่ในกรงที่แน่นหนา ไร้สัญชาติคำเดียวขีดชะตา มุ่งค้นหาทางเดินไปไม่เห็นเจอ” บทขับเสภาท่อนหนึ่งของครูยอด ที่เผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก

เรื่องราวของครูยอด กำลังสะท้อนให้เห็นว่า ระบบระเบียบที่ขาดการเอาจริงเอาจังของหน่วยงานราชการและรัฐบาล กำลังทำลายทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของประเทศชาติไปอย่างน่าเสียดาย

เปิดใจ "ยอด ปอง" เรือจ้างไร้สัญชาติผู้ชอกช้ำ รางวัล "ประชาบดี" ประจำปี 2557 เชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น

 

เปิดใจ "ยอด ปอง" เรือจ้างไร้สัญชาติผู้ชอกช้ำ


 

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสม หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์–พลังงานกดดัน S&P 500