พระวิหารบาดลึก
ปมเขาพระวิหาร เป็นเรื่องร้อน ใครเข้าไปแตะ อาจถึงขั้นมือขาดสาเหตุเพราะเขาพระวิหาร เจือด้วยประวัติศาสตร์ที่บาดลึกระหว่างไทยเขมร
ปมเขาพระวิหาร เป็นเรื่องร้อน ใครเข้าไปแตะ อาจถึงขั้นมือขาดสาเหตุเพราะเขาพระวิหาร เจือด้วยประวัติศาสตร์ที่บาดลึกระหว่างไทยเขมร
อย่าลืมฝ่ายเขมร แม้เคยมีอาณาจักรขอมอันรุ่งเรืองนับตั้งแต่โบราณกาล แต่ก็ล่มสลายไป
จากนั้นแผ่นดินเขมรถูกยึด ถูกครอบครองตลอดมา ทั้งจากเวียดนาม จากไทย จนกระทั่งถูกชาติตะวันตกยึดในภายหลัง
แม้จะได้เอกราช แต่เขมรก็ตกอยู่ในวังวนสงครามกลางเมือง และกว่าจะสงบก็ต้องใช้เวลายาวนาน
เขมรจึงเป็นชาติที่มีประวัติศาสตร์อันเก็บกดก็ว่าได้
ในประวัติศาสตร์ชัยชนะของเขมรมีไม่มากนัก
และหนึ่งในน้อยกรณีที่เป็นความภูมิใจของเขมร ก็คือชัยชนะเหนือเขาพระวิหาร ที่ศาลโลกตัดสินให้ไทยพ่ายแพ้ เมื่อปี 2505 นั่นแหละ
นักการเมืองผู้นำในเขมร จึงถือว่าเขาพระวิหาร เป็นจุดสำคัญสำหรับการระดมประชามติ โฆษณาชวนเชื่อในชาติ
ตั้งแต่ยุคเจ้าสีหนุ จนมาถึงฮุนเซน ผู้นำเขมรก็ไม่แตกต่างกัน
และไม่แปลกอีกเมื่อเขมรมีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีพวกคนไทยหัวใจเขมร ปล่อยให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว เพื่อให้ฮุนเซนเอาไว้หาเสียงเลือกตั้ง
เขาพระวิหาร กับชาวเขมร จึงเป็นความหอมหวาน เป็นชัยชนะที่น้อยครั้งจะได้ลิ้มลอง
นี่แหละผู้นำเขมร อย่างฮุนเซน รวมไปถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องถึงกับจำลองลีลาอึ่งอ่าง เมื่อพูดถึงปมเขาพระวิหาร
แต่ชัยชนะของเขมร กลายเป็นความขมขื่นของคนไทย
นับตั้งแต่คดีเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 คนไทยมีความรู้สึกพ่ายแพ้
เมื่อศาลโลกตัดสินให้เขมรชนะ ปฏิกิริยา บันทึกประวัติศาสตร์ ต่างออกมาในทิศทางแห่งความสูญเสีย
ยิ่งมาเจอกับเหตุที่ไม่กี่ปีมานี้ เขมรประสบความสำเร็จในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเพียงฝ่ายเดียว ความเดือดแค้นจึงเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย เหมือนเอาไฟไปราดบนน้ำมัน
การสางปัญหาเขาพระวิหาร จึงจำเป็นต้องเข้าใจปฏิกิริยามวลชนทั้งสองฝ่าย
เพราะเขาพระวิหาร เหมือนระเบิดเวลาชายแดนไทยเขมร ถ้าใครเข้าไปใกล้ อาจถูกระเบิดถึงขั้นเสียชีวิต
ตัวอย่างที่เกิดขึ้น ก็คือการตายหมู่ยกคณะรัฐมนตรีมาแล้ว
การสะสางปัญหาเขมรพระวิหารจึงไม่ง่าย แต่ก็จำเป็นต้องหาทางออกให้ได้
ทั้งหมดถือเป็นไฟต์บังคับ ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นปัญหาไม่รู้จบ


