เคล็ดวิธีการฝึกและทำสมาธิ
สมาธินับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้งานออกมาได้ดี เพราะสมาธิทำให้เราไม่วอกแวกหรือเอนเอียงสนใจกับสิ่งรอบข้าง
โดย...เอกชัย จั่นทอง
สมาธินับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้งานออกมาได้ดี เพราะสมาธิทำให้เราไม่วอกแวกหรือเอนเอียงสนใจกับสิ่งรอบข้าง การทำสมาธิจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตประจำวัน สัปดาห์นี้จะเป็นการนำเคล็ดวิธีการฝึกสมาธิมาแนะนำหลักการนั่งสมาธิอย่างเหมาะสม สำหรับใครที่ยังไม่เคยนั่งสมาธิ ขอให้ทำจิตใจให้โปร่งปล่อยวางทุกอย่าง อย่าเกร็ง เอามือขวาทับมือซ้าย ขาขวาทับขาซ้ายหรือนั่งในท่าที่ตัวเองรู้สึกสบายๆ หลับตาแบบไม่ต้องบีบเปลือกตา สูดลมหายใจเข้าให้ ภาวนาคำว่า “พุท” หายใจออกเป็น “โธ”
นั่งสัก 5-10 นาที อย่าไปบังคับลมหายใจปล่อยไปเรื่อยๆ เหมือนเราหายใจปกติ (หากมีอาการวูบวาบหรือเกิดนิมิตเห็นอะไรไม่ต้องตกใจให้หายใจลึกๆ 2-3 ครั้ง นิมิตต่างๆ ก็จะหายไป ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดเมื่อยตรงไหน ให้เอาใจไปจับตรงที่รู้สึกเจ็บ สักระยะหนึ่งก็จะคลายความปวด)
ทั้งนี้ การฝึกทำสมาธิจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอริยสงฆ์ที่คนไทยทุกคนกราบไหว้ท่านได้อย่างหมดสนิทใจ การนั่งขัดสมาธิ เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย วางลงบนตัก ตั้งกายตรง (ไม่นั่งก้มหน้า ไม่นั่งเงยหน้า ไม่นั่งเอียงซ้าย ไม่เอียงขวา ไม่โยกหน้า ไม่โยกหลัง) ไม่กดและข่มอวัยวะในร่างกาย วางกายให้สบายๆ ตั้งจิตให้ตรง ลงตรงหน้า ให้กำหนดรู้ซึ่งจิตเฉพาะหน้า ไม่ส่งจิตให้ฟุ้งซ่าน ไปในเบื้องหน้าและเบื้องหลัง (อนาคตและอดีต) พึงเป็นผู้มีสติ กำหนดจิตรวมเข้าตั้งไว้ในจิต บริกรรมพุทโธจนกว่าจะเป็นจิตที่เป็นอารมณ์เดียว
สำหรับวิธีการฝึกสมาธิแบบง่ายของท่านพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เป็นการฝึกอีกแบบหนึ่งที่อยู่ในหนังสือวิธีการฝึกพระกรรมฐานด้วยตัวเองแบบง่ายๆ หลวงพ่อสอนไว้ดังนี้
ขอแนะนำให้ภาวนาว่า พุทโธ เพราะสั้นว่าง่ายและมีอานิสงส์มาก หายใจเข้านึกตามว่า “พุท” หายใจออกนึกตามว่า โธ ใจนึกถึงพระพุทธรูปที่วัดไหนหรือพระที่บ้านก็ได้ หรือว่าชอบใจพระสงฆ์องค์ใดนึกถึงพระสงฆ์นั้นก็ได้ตามแต่ใจจะต้องการและจำภาพง่าย
ถ้าพระพุทธรูปอยู่ใกล้ให้ลืมตาดูพระพุทธรูปพอจำได้ดีแล้ว หลับตานึกถึงพระพุทธรูป ถ้าภาพนั้นเลือนไปจากใจให้ลืมตาดูใหม่ แล้วหลับนึกถึงภาพพระทำอย่างนี้สลับกันไป ในไม่ช้าจิตจะทรงสมาธิได้ดีไม่ต้องมองภาพพระจิตสามารถนึกถึงภาพพระได้ตลอดเวลาที่ต้องการอย่างนี้ท่านเรียกว่า จิตเป็นฌาน อารมณ์เข้าถึงขั้นที่ต้องการ
เมื่อทำสมาธิจนรู้สึกว่าจิตนิ่งดีแล้ว ในช่วงสุดท้ายขอให้พิจารณาเรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย อันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก พิจารณาถึงร่างกายของเรานั้นมาจากดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุเมื่อถึงเวลาก็ต้องสูญสลายกลับคืนไปไม่มีเหลือ พิจารณาเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตที่กำลังก่อให้เกิดทุกข์ มองค้นหาถึงสาเหตุที่แท้จริงและการที่จะแก้ไขได้
การทำสมาธิในเบื้องต้นเพื่อให้จิตนั้นนิ่งมีกำลังเราเรียกว่า “สมถกรรมฐาน” หรือสมาธิภาวนา คือการฝึกจิตให้เกิดความสงบที่เราเรียกกันตามประสาชาวบ้านว่าการทำ “สมาธิ” แต่เมื่อนิ่งแล้วต้องเอาจิตนั้นมาพิจารณาให้เกิดประโยชน์กับตัวเราเองเป็นการ “เจริญวิปัสสนากรรมฐาน”
วิปัสสนาเป็นการฝึกอบรมจิตที่สงบแล้วนั้นให้เกิดปัญญา เกิดความรู้แจ้งเห็นจริงตามสภาพที่เป็นจริง การเจริญวิปัสสนาเป็นการกระทำที่จะได้มหาบุญกุศลที่สุดและคลายวิบากกรรมได้ดีที่สุดด้วย เพราะเป็นการชำระจิตให้หมดกิเลสไม่ให้กรรมมาตามส่งผลอีก และแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ถ้าทำได้ครบดังข้างต้นก็จะได้บารมีครบถ้วน ทั้ง 10 ประการ หรือบารมี 10 ทัศ ซึ่งประกอบไปด้วย 1.ทานบารมี ขณะที่เราสวดมนต์เสร็จ เราทำทานคือเอาเงินที่จบใส่ในกระปุกออมสิน หรืออื่นๆ เป็นทานบารมี 2.ศีลบารมี ขณะที่เราสวดมนต์อยู่ในขณะนั้นเราไม่ได้ทำบาปกรรมกับใครไม่ใช้กายวาจาไปเบียดเบียนใคร จึงมีศีลอยู่ในขณะที่สวดจึงมีศีลบารมี
3.เนกขัมมบารมี ขณะที่เราสวดมนต์อยู่ จิตของเราปราศจากสิ่งมารบกวนจิตใจ ถือว่าเป็นการบวชใจ ถือว่าเป็นเนกขัมมบารมี 4.ปัญญาบารมี การสวดมนต์ทำด้วยความศรัทธา ทำด้วยปัญญาที่เห็นว่ามันเป็นประโยชน์ช่วยฝึกฝนให้เกิดสติ มีสมาธิเป็น ปัญญาบารมี 5.วิริยะบารมี ถ้าเราไม่มีความเพียร เราก็สร้างบุญทั้งทาน ศีลเจริญภาวนาในวันนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรานั้นคือ ความเพียรเป็น วิริยะบารมี
6.ขันติบารมี มีความเพียรแล้ว ไม่มีความอดทน ความเพียรก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องมีความอดทน ความอดทนเป็น ขันติบารมี 7.สัจจะบารมี มีความเพียร มีความอดทนแล้ว และมีความจริงใจในการประพฤติปฏิบัติ ซึ่งความจริงใจคือ สัจจะบารมี 8.อธิษฐานบารมีเมื่อเราสวดมนต์เสร็จ ทำสมาธิ ตั้งจิตอธิฐาน การอธิฐานเป็น อธิษฐานบารมี 9.เมตตาบารมี ใส่บาตร สวดมนต์เสร็จ ก็ต้องแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล การแผ่เมตตาที่เราทำนั้นเป็น เมตตาบารมี
10.อุเบกขาบารมี ขณะที่เราแผ่เมตตา เราต้องทำใจของเราให้มีเมตตา ต่อสัตว์ทั้งหลาย ทำใจให้เป็นพรหมวิหาร 4 อุเบกขา วางเฉย อโหสิกรรม ให้อภัยกับบุคคลที่เราเคยล่วงเกินกันมา ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่ชอบใคร ไม่ชังใคร ทำใจให้นิ่ง ทำจิตให้สงบ วางใจให้เป็นอุเบกขา เป็น อุเบกขาบารมี
บารมี 10 ทัศนั้นถือว่าเป็นมหาบุญกุศล ที่ส่งผลให้ชีวิตปรระจำวันในทางโลกประสบความสำเร็จ ส่วนทางธรรมเราสามารถปฏิบัติและก่อเกิดผลบุญจากการทำสมาธิอีกแบบหนึ่งด้วย


