posttoday

สัมผัสวิถี 700 ปี ประเพณีลอยกระทง ‘สุโขทัย’

15 พฤศจิกายน 2558

ประเพณีลอยกระทง ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าสืบทอดกันมายาวนาน

โดย...ภูเบศวร์  ฝ้ายเทศ

ประเพณีลอยกระทง ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าสืบทอดกันมายาวนาน โดยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีจองเปรียง” หรือการลอยพระประทีป ตอนหนึ่งของหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศ พระสนมเอกของพระร่วงเจ้า ความว่า

“พอถึงการพระราชพิธีจองเปรียงในวันเพ็ญเดือน 12 เป็นนักขัตฤกษ์ชักโคมลอย บรรดาประชาชนชายหญิงต่างตกแต่งโคมชักโคมแขวนลอย ทุกตระกูลทั่วทั้งพระนคร แล้วก็ชวนกันเล่นมหรสพสิ้นสามราตรีเป็นเยี่ยงอย่าง แต่บรรดาข้าเฝ้าฝ่ายราชบุรุษนั้น ต่างทำโคมประเทียบบริวารวิจิตร ด้วยลวดลายวาดเขียนเป็นรูปสัณฐานต่างๆ ประกวดกันมาชักมาแขวนเป็นระเบียบเรียบราบ ตามแนวโคมชัยเสาระหง ตรงหน้าพระ
ที่นั่งชลพิมาน ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงพระราชอุทิศสักการ พระมหาเกศธาตุจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์”

“โคมชัก โคมแขวน” หมายถึง เครื่องครอบหรือเครื่องบังลมไม่ให้ไฟดับ และใช้ผูกกับยอดเสาหรือที่สูงเคลื่อนไหวตามแรงลมได้ ประดิษฐ์เพื่อเป็นพุทธบูชา ส่วนพิธีเผาเทียน หรือการจุดถ้วยเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะใช้ “ตะคัน” หรือถ้วยเทียนบูชา ที่เป็นภาชนะดินเผาบรรจุขี้ผึ้งไขเปรียง มีไส้เชื้อเพลิง จุดแล้วมีแสงสว่าง คนโบราณจึงเรียกว่า “เผาเทียน” เมื่อนำไปวางตามฐานหรือระเบียงโบสถ์ วิหาร เจดีย์ เกิดเป็นแสงระยิบระยับนับร้อยนับพัน ถือเป็นบุญกุศลที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมศรัทธา

ดังนั้น ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย จึงมีการจัดทำโคมชักโคมแขวนประดับตกแต่งอย่างงดงาม พร้อมกับมีพิธีเผาเทียน ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และบวงสรวงพ่อขุนรามฯ ตามแต่ครั้งโบราณสืบมา

ปิติ แก้วสลับสี ผวจ.สุโขทัย เปิดเผยว่า การจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ย. ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นอกจากมีกิจกรรมคงความเป็นเอกลักษณ์ เช่น พิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุข พิธีบวงสรวงบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ การประกวดกระทงเล็ก พนมหมาก พนมดอกไม้ โคมชัก โคมแขวน กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ การประกวดนางนพมาศ และการแสดงประกอบแสงสีเสียง เรื่อง “ความรุ่งเรืองของนครสุโขทัย” ฯลฯ

ที่พิเศษในปีนี้ ยังมีการแห่กระทงอาเซียน 10 ประเทศมาร่วมจัดแสดง และการจุดพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ที่สวยงามตระการตาอีกไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง และที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวสุโขทัย คือ การได้รับพระราชทานกระทงจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ ลงลอยเป็นปฐมฤกษ์ในวันลอยกระทงด้วย

พัศรินทร์  เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานลอยกระทงสุโขทัยปีนี้ ไม่ควรพลาดทำ 6 กิจกรรม คือ 1.ตักบาตรรับรุ่งอรุณแห่งความสุข เพื่อสิริมงคลแก่ชีวิต ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ย. เวลา 06.00 น. ที่อุโบสถวัดตระพังเงิน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

2.ลอยกระทง สำนึกพระคุณและขอขมาพระแม่คงคาที่สระน้ำตระพังตระกวน 3.เผาเทียน จุดตะคันแล้วนำไปวางตามฐานหรือระเบียงโบสถ์ วิหาร เจดีย์ เพื่อเป็นพุทธบูชา และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 4.ชมการแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียงโบราณ 5.ชมการแสดงแสงสีเสียง Light & Sound เรื่อง “ความรุ่งเรืองของนครสุโขทัย”

และ 6.เที่ยวตลาดแลกเบี้ยเมืองสุโขทัย เป็นกิจกรรมที่ ททท.ได้จำลองรูปแบบตลาดโบราณ (ตลาดปสาน) สมัยสุโขทัยในอดีต จำหน่ายอาหารคาวหวานโบราณที่หาทานได้ยาก เช่น ขนมกง ชะมดงาดำ ข้าวเกรียบโป่ง ปลาเห็ดโบราณ ผัดไทยใบตอง ข้าวเปิ๊บ และก๋วยเตี๋ยวแบ พร้อมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมนาฏศิลป์ และการแสดงร่วมสมัย ทุกคืนตั้งแต่เวลา 16.00-23.00 น.

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวชมงานตลอด 5 วันนี้ไม่น้อยกว่า 4 แสนคน และคาดว่าจะมีเงินสะพัด 364 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว 13.98% ขณะที่กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวลอยกระทงสุโขทัยของ ททท. ที่ผ่านมา ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวจากอเมริกา สวีเดน มอสโก-รัสเซีย และจีน สนใจมาเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

ส่วนที่พักต่างๆ ในเขตพื้นที่ ต.เมืองเก่า อ.เมือง ใกล้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย สถานที่จัดงานปัจจุบันมียอดจองแล้วประมาณ 90% มากกว่าปีที่ผ่านมา หากสนใจมาเที่ยวชมประเพณีที่สืบสานมากว่า 700 ปี ต้องรีบตัดสินใจด่วน

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68