posttoday

Smart Power อำนาจฉลาด (ตอนแรก)

04 สิงหาคม 2557

สัปดาห์นี้ ผู้เขียนได้วิเคราะห์และสังเคราะห์เนื้อหาสาระสำคัญของหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า “The Future of Power” เขียนโดยศาสตราจารย์ โจเซฟ ไนย์ จูเนียร์ ที่บรรดาผู้นำทั่วโลกต่างพากันอ่านและได้รับคำชมว่าเขียนได้ดี เนื้อหาสาระสำคัญของหนังสือเล่มนี้เป็นการกล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ “อำนาจ” ความสำคัญของอำนาจแต่ละรูปแบบ รวมถึงการใช้อำนาจอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อแต่ละประเทศท่ามกลางบริบทหรือสิ่งแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศในสังคมโลกปัจจุบัน

สัปดาห์นี้ ผู้เขียนได้วิเคราะห์และสังเคราะห์เนื้อหาสาระสำคัญของหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า “The Future of Power” เขียนโดยศาสตราจารย์ โจเซฟ ไนย์ จูเนียร์ ที่บรรดาผู้นำทั่วโลกต่างพากันอ่านและได้รับคำชมว่าเขียนได้ดี เนื้อหาสาระสำคัญของหนังสือเล่มนี้เป็นการกล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ “อำนาจ” ความสำคัญของอำนาจแต่ละรูปแบบ รวมถึงการใช้อำนาจอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อแต่ละประเทศท่ามกลางบริบทหรือสิ่งแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศในสังคมโลกปัจจุบัน

ก่อนที่จะลงลึกในรายละเอียด คุณผู้อ่านหลายท่านจะต้องทำความเข้าใจกับความหมายของคำว่า “อำนาจ” กันเสียก่อน เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การทำความเข้าใจอำนาจในมิติอื่นๆ คำว่า “อำนาจ” ในมิติของแต่ละบุคคลจะหมายถึง ความสามารถที่จะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้อื่นหรือความสามารถที่จะทำให้ผู้อื่นปฏิบัติในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ ขณะที่ความหมายของ “อำนาจ” ในมิติของความเป็นรัฐจะหมายถึง ขีดความสามารถของรัฐหนึ่งหรือหลายรัฐที่รวมตัวกันเป็นพันธมิตรที่จะมีอิทธิพลต่อการแสดงออกของรัฐอื่นๆ ให้เป็นไปในแนวทางหรือทิศทางที่รัฐผู้แสดงอำนาจต้องการ เช่น ประเทศไทยต้องการให้เพื่อนบ้านยอมรับว่าเป็นเบอร์หนึ่งด้านเศรษฐกิจ ไทยก็แสดงอำนาจผ่านทางการผลิตและส่งออกให้มากที่สุดในบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน หรือถ้าเป็นทางการเมืองก็แสดงออกทางการเมืองผ่านเวทีการเมืองระหว่างประเทศว่า ไทยเป็นประเทศที่เก่งกาจและมีพลังทางการเมืองในหมู่มิตรประเทศ

ส่วนอำนาจตามแนวคิดของโจเซฟ ไนย์ จูเนียร์ ผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าวนั้น แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ 1) อำนาจแข็ง หมายถึง อำนาจด้านการทหารและเศรษฐกิจที่สามารถบีบบังคับฝ่ายตรงข้ามให้ปฏิบัติตามที่ตนเองต้องการได้ 2) อำนาจอ่อน หมายถึง อำนาจในการใช้การสร้างกรอบวาระ ใช้แนวทางการชักจูงและทำให้ฝ่ายตรงข้ามยอมรับแนวทางทางนโยบายและปฏิบัติตามที่ต้องการ แต่ไม่มีการบีบบังคับหรือการข่มขู่จะใช้กำลังแต่อย่างไร และ 3) อำนาจฉลาด หมายถึง การนำอำนาจแข็งมารวมกับอำนาจอ่อนและวางกลยุทธ์ให้รอบคอบและครอบคลุม เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามหรือเป้าหมายปฏิบัติตามในสิ่งที่ฝ่ายใช้อำนาจฉลาดต้องการ

อำนาจที่ประเทศมหาอำนาจของโลกในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐ ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งยุโรป ต่างก็กำลังใช้อำนาจฉลาดในการกำหนดนโยบายระหว่างประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนต้องการ ส่วนความแตกต่างในการใช้นโยบายของแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับแท็กติกและขีดสมรรถนะหรือความโดดเด่นของแต่ละประเทศ

สัปดาห์หน้า ผมจะเล่าให้ฟังต่อพร้อมยกตัวอย่างถึงการใช้อำนาจในแต่ละรูปแบบที่ประเทศมหาอำนาจต่างๆ ของโลกนิยมใช้ รวมทั้งวิธี “การใช้อำนาจอย่างฉลาด” ที่โจเซฟ ไนย์ จูเนียร์ กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้กันครับ

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา