ฮอลแลนด์ จัดหนัก ถล่มสเปนแชมป์เก่าไม่ไว้หน้า 5-1
ฮอลแลนด์จัดการถอนแค้นจากนัดชิงฟุตบอลโลก 2010 แบบทบต้นทบดอก หลังถลุง "แชมป์เก่า" สเปนไปด้วยสกอร์มโหฬาร 5-1
ฟุตบอลโลก 2014
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นักแรก
ฮอลแลนด์ 5-1 สเปน
สนาม อาเรน่า ฟอนเต้ โนว่า, ซัลวาดอร์
13 มิถุนายน 2014
บิ๊กแมตช์ประจำวันที่สองของศึกฟุตบอลโลก 2014 ระหว่างฮอลแลนด์ปะทะกับสเปน เป็นการรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 โดยฝั่งสเปนไม่ค่อยมีการเปลี่ยนสมาชิกกันเท่าไหร่ ต่างกับฮอลแลนด์ที่มีผู้เล่นายเลือดใหม่ที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นหูอยู่หลายคนทีเดียว
เกมนี้ของสเปนที่มาในชุดทีมเยือนสีขาวล้วนจัดทัพชุดใหญ่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงศูนย์หน้าที่วันนี้ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เลือกใช้บริการ ดิเอโก้ ตคอสต้า ดาวยิงจอมฮอตจาก แอตเลติโก มาดริด
ส่วนฮอลแลนด์กุนซือ หลุยส์ ฟาน ฮาล แหวกประเพณีแผน 4-3-3 สไตล์ดัตช์ด้วยการแพ็คแผงหลังถึง 5 คน ส่วนเกมรุกมี เวลลีย์ สไนจ์เดอร์ บัญชาเกมรุก คู่ศูนย์หน้ามี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ อาร์เยน ร็อบเบน รอลงโทษแผงหลังสเปนอยู่
ต้นเกมทั้งสองฝ่ายเปิดเกมใส่กันอย่างสนุกโดยเป็นฝ่ายสเปนที่ครองเกมได้เหนือกว่าตามคาด แต่นาทีที่ 8 จอร์ดี้ อัลบา พักอกมาเข้าทาง ร็อบเบน ก่อนจะไหลให้ สไนจ์เดอร์ หลุดเดี่ยวไปดวลกับ กาซิยาส แต่กองกลางจอมปั่นฟรีคิกยิงไปติดเซฟของนายด่านจาก เรอัล มาดริด ไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมา 2 นาทีสเปนเรียกเสียงฮือได้ทั้งสนามจากจังหวะที่ อันเดรียส อิเนียสต้า กดด้วยขวาจากระยะ 30 หลาเฉี่ยวเสาแบบได้ลุ้นเลย
หลังจากนั้นเกมเริ่มระอุเล็กน้อยหลัง ไนเจล เด ยองก์ กับ สไนจ์เดอร์ ไปทำฟาวล์ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ สองครั้งติดๆ กัน
ฮอลแลนด์ที่เริ่มจะตั้งหลักได้มาเสียจุดโทษจากจังหวะที่ ดิเอโก้ คอสต้า โดย สเตฟาน เดอ ฟรีจ์ เกี่ยวขาล้ม และเป็น ชาบี้ อลองโซ่ ที่ซัดเสียบมุมซ้ายผ่านมือ แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ไปแบบฉิวเฉียด สเปนขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 27 เป็นประตูที่สองในรอบ 8 ปีของห้องเครื่องชาวสเปน
ฮอลแลนด์แก้เกมด้วยการให้แบ็คทั้งสองข้างเติมเกมกันมากขึ้นแล้วเกือบทำให้ความพยายามครั้งแรกเป็นประตูตีเสมอ แต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เข้าชาร์จลูกครอสของ ดาเลย์ บลินด์ ขาดไปนิดเดียว
สเปนน่าจะบวกประตูที่สองได้สุดๆ จากจังหวะที่ อิเนียสต้า จ่ายบอลหลุดแผงหลังไปถึง ดาบิด ซิลบา แต่เจ้าตัวกลับโชว์เหนือชิพบอล ซิลเลสเซ่น ผวาปัดไปได้หวุดหวิด
ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียวฮอลแลนด์มาตามตีเสมอได้จากจังหวะที่ ฟาน เพอร์ซี่ ทยานโขกบอลยาวของ บลินด์ จากกราบซ้าย บอลลอยข้ามหัว กาซียาส ซุกตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้เขากลายเป็นนักเตะดัตช์คนแรกที่ทำประตูในนามทีมชาติได้ในฟุตบอลโลก 3 ครั้งติด ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1
ครึ่งหลังเริ่มได้แค่ 8 นาทีฮอลแลนด์มาพลิกขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ฮฮลแลนด์ถ่ายบอลมาทางซ้ายให้ บลินด์ ก่อนจะขวางบอลมาให้ ร็อบเบน เกี่ยวบอลหลด เคราร์ด ปิเก้ ไปแปผ่าน กาซียาส
หลังจากนั้นแนวรับสเปนเริ่มเสียกระบวน โดยเฉพาะการรับมือกับความเร็วของ ร็อบเบน เล่นเอาผู้เล่นสเปนต้องกรูมาประกบ 3-4 คน
แผนใช้ความเร็วของ ร็อบเบน เริ่มแสดงจุดอ่อนของสเปนให้เห็น นาทีที่ 62 ร็อบเบน ลากบอลกลางสนามก่อนไหลให้ ฟาน เพอร์ซี วอลเลย์ด้วยเท้าขวาชนคานอย่างจัง
นาทีที่ 64 เดอ ฟรีจ์ ปราการหลังของฮอลแลนด์มาแก้ตัวได้สำเร็จหลังเจ้าตัวทำเสียจุดโทษในครึ่งแรก หลังโหม่งลูกฟรีคิกของ สไนจ์เดอร์ ที่โยนมาเสาไกล หลังจังหวะนี้ กาซียาส ได้ใบเหลืองไปหลังเจ้าตัวไปโวยว่า ฟาน เพอร์ซี เข้าชาร์จจังหวะดังกล่าว
สเปนชักจะกู่ไม่กลับซะแล้ว หลัง กาซิยาส ไปจับบอลคืนหลังยาวเกินไป ปล่อยให้ ฟาน เพอร์ซี ปั๊มบอลชนะหลุดไปไปแปง่าย นาทีที่ 72 ฮอลแลนด์ขึ้นนำ 4-1
กู่ไม่กลับของจริงแล้วครับสำหรับสเปนจากการโซโล่เดี่ยวของ ร็อบเบน เป็นประตูที่สองของปีกจอมพริ้วจาก เอฟเซ บาเยิร์น เกมนี้เป็นครั้งที่สองที่สเปนเสียประตูเกิน 3 ประตูในเกมเดียว ครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปปี 1950 ที่สเปนแพ้บราซิลเจ้าภาพไป 6-1!
กาซียาส ถนอมทีมแชมป์เก่าไม่ให้เสียหน้ามากกว่านี้ หลังเซฟสองจังหวะซ้อนจากการยิงของ จอร์จิโอ้ ไวจ์นัลดุม และลูกวอลเลย์ของ ร็อบเบน จบเกมแชมป์เก่าพ่ายฮอลแลนด์ไปแบบสุดช็อค 5-1
สเปน
อีเกร์ กาซียาส/ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้, จอร์ดี้ อัลบา/
ชาบี อลอนโซ่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา, อันเดรียส อิเนียสต้า/
ดีเอโก้ คอสต้า
ผู้จัดการทีม บิเซนเต้ เดล บอสเก้
ฮอลแลนด์
ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น/ บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, รอน ฟลาร์, ดาลี่ย์ บลินด์, สเตฟาน เด ฟรีจ์, ดาริล ยานมัต/ ไนเจล เด ยองก์, โจนาธาน เด กุซมัน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์/ อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผู้จัดการทีม หลุยส์ ฟาน ฮาล


