แตกตื่นทั้งเมืองตำรวจชุดดำโผล่กลางเมือง
ภาพชายฉกรรจ์ชุดดำหลายกลุ่มถืออาวุธปืนครบมือ ไม่ว่าจะเป็นปืนพก หรือแม้แต่ปืนยาวทั้งลูกซอง และอาวุธปืนเอ็ม 16
โดย...ทีมข่าวการเมือง
ภาพชายฉกรรจ์ชุดดำหลายกลุ่มถืออาวุธปืนครบมือ ไม่ว่าจะเป็นปืนพก หรือแม้แต่ปืนยาวทั้งลูกซอง และอาวุธปืนเอ็ม 16 กระจายกันอยู่ในหลายจุดที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ประกาศขอคืนพื้นที่ ภายใต้แผนปฏิบัติการคืนความสงบสุข มองผิวเผินหากพบเห็นชายลักษณะนี้ต้องเป็นกลุ่มข้าราชการทหารหรือตำรวจเป็นแน่ เพราะคงไม่มีใครหาญกล้ามาถืออาวุธกลางกรุงเทพฯ ยิ่งในห้วงภาวะสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุ
แต่กลุ่มดังกล่าวแต่งกายเสื้อกางเกงชุดดำ ไม่ใช่เครื่องแบบทหารหรือตำรวจ รวมทั้งไม่มีเครื่องหมายบอกสังกัด ถืออาวุธปืนร้ายแรง ยืนกลางเมือง คอยตรวจสอบผู้คนและรถราที่ผ่านไปมาบริเวณด้านหน้าโรงเรียนหอวัง ถนนวิภาวดีรังสิต ตรงข้ามสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท.
เมื่อภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมตำรวจต้องแต่งกายนอกเครื่องแบบ และยังมีอาวุธครบมือมาปฏิบัติงานในการขอคืนพื้นที่ครั้งนี้
พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เรียกร้องไปยัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจต่อประชาชนซึ่งไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย หากเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เหตุใดถึงต้องปิดบังอำพรางใบหน้า
“เรียน ผบ.ตร. การปฏิบัติการพิเศษต่อประชาชนซึ่งไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย หากปฏิบัติการนั้นเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์แล้ว ผู้ปฏิบัติการไม่สมควรปิดหน้าอำพรางใดๆ ได้โปรดทบทวนด้วยครับ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามเรื่องชายชุดดำตามภาพไปยัง พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูเหมือนโฆษกตำรวจจะยังเข้าใจว่าเป็นประเด็นกลุ่มไม่ทราบฝ่ายที่ใช้อาวุธยิงใส่ตำรวจบริเวณจุดขอคืนพื้นที่สะพานผ่านฟ้า จึงรีบตัดบทในทันทีว่า
“ทำไมต้องมีการมองว่ากลุ่มคนที่มีอาวุธในห้วงการชุมนุมต้องเป็นตำรวจไปเสียทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นภาพทั้งหมด ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในการขอคืนพื้นที่ต้องใส่เครื่องแบบอยู่แล้ว ทั้งที่สะพานผ่านฟ้า หรือที่กระทรวงพลังงานก็ตาม ตามหลักสากลก็ต้องเปิดเผยใบหน้าชัดเจน แต่งเครื่องแบบ ไม่มีนอกเครื่องแบบแน่นอน ยืนยันได้”
แต่เมื่อถามซ้ำถึงภาพจากพื้นที่ ปตท. โฆษกตำรวจก็ยอมรับว่า เพิ่งได้เห็นภาพที่หน้าโรงเรียนหอวัง และภาพนั้นน่าจะเป็นกลุ่มตำรวจอย่างชัดเจน แต่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เฉพาะกิจในลักษณะนอกเครื่องแบบ และไม่มีอะไรที่เกินเลยแน่นอน เพียงแต่น่าจะเป็นการคุมพื้นที่หลังมีการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้ากระทรวงพลังงาน
ขณะที่อีกกลุ่มเป็นชายแต่งกายในชุดลำลองกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อเกราะกันกระสุนพร้อมอาวุธปืนที่ถูกจัดเตรียมมาอย่างเรียบร้อยแนบเอวทุกคน ที่บริเวณหัวไหล่มีการติดริบบิ้นสี เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในสังกัดนั้นๆ ของตำรวจ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเคลื่อนที่หรือออก จะสามารถพบเห็นหรือสังเกตได้ง่าย เพราะกลุ่มนี้จะมีการขับขี่ไปกันเป็นกลุ่ม มีรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 คัน พร้อมคนซ้อนและคนขับ ทั้งหมดเป็นลักษณะตำรวจสายสืบนอกเครื่องแบบ
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายตำรวจชุดสืบสวนนายหนึ่งในพื้นที่แจ้งวัฒนะ ระบุถึงชายกลุ่มดังกล่าว และยืนยันว่านั่นคือตำรวจ อย่างในพื้นที่บริเวณถนนแจ้งวัฒนะก็จะมีตำรวจชุดสายสืบนอกเครื่องแบบออกตรวจตรา เฝ้าระวังเหตุในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่ละครั้งจะมีการใช้รถจักรยานยนต์ประมาณ 10 คัน ขับไปกันเป็นกลุ่มเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ยังเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะเป็นตำรวจชุดแรกที่จะเข้าระงับเหตุการณ์ได้ทันที หากมีการแจ้งมา
ด้านกรรมการข้าราชการตำรวจประเภทผู้ทรงคุณวุฒินายหนึ่งเห็นว่า การมองเรื่องนี้ว่าเหมาะสมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้สั่งการและการปฏิบัติ เพราะตำรวจนั้นเป็นเครื่องมือของรัฐ ซึ่งหากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่าการกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ผู้บังคับบัญชาก็ไม่สมควรที่จะใช้วิธีการเช่นนี้อีก แม้จะมีความตั้งใจดีในการปฏิบัติงานให้ลุล่วง ประสบความสำเร็จ


