เปิดบทสัมภาษณ์"ปลัดกห."ชื่นชมนายกฯ
เปิดบทสัมภาษณ์ "พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก" ปลัดกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความเป็นผู้นำนายกรัฐมนตรี ในฐานะควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม
เปิดบทสัมภาษณ์ "พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก" ปลัดกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความเป็นผู้นำนายกรัฐมนตรี ในฐานะควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม
หลัง "พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก" ปลัดกระทรวงกลาโหม (กห.) ประกาศบนเวที "เสวนาประเทศไทยไปทางไหน" ซึ่งจัดโดยสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า "กองทัพได้สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557"
ค่ำวันเดียวกัน "สุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการ กปปส. ก็ปราศรัยโจมตี พล.อ.นิพันทธ์ บนเวทีราชดำเนินอย่างเผ็ดร้อน คำปราศรัยบางส่วนนอกจากจะระบุว่า คำกล่าวของปลัดกระทรวงกลาโหมบนเวทีเสวนานั้นไม่เป็นไปตามคำพูดที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.แล้ว สุเทพยังระบุด้วยว่า ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็น "สายตรง" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ก่อนหน้านี้วารสาร "ไทยคู่ฟ้า" ซึ่งจัดทำโดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฉบับเดือนก.ย.2556 ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ พล.อ.นิพัทธ์ เนื่องในโอกาสเข้ามาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่แทนคนเก่าที่เกษียณอายุในห้วงที่กระทรวงกลาโหมมี รัฐมนตรีว่าการหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของกระทรวง ที่ชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"
บทสัมภาษณ์ครั้งนี้จั่วหัวเรื่องไว้ว่า "พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี"
ขณะที่เนื้อหาของบทสัมภาษณ์มีรายละเอียดดังนี้
@สำหรับเรื่องเกี่ยวกับความคิดเห็นในการที่มีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกมาดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม...คำตอบที่ได้รับก็คือ
ในฐานะปลัดกระทรวงและมีรมว.กลาโหมเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยก็ต้องขอชื่นชมว่า สิ่งที่ต้องยกย่องคือความเป็นผู้นำ โดยเริ่มจากการยืนยันว่าให้เกียรติกองทัพ และพร้อมที่จะส่งเสริม สนับสนุน รวมทั้งเข้าใจภารกิจของกองทัพเป็นอย่างดี จึงได้เข้าร่วมประชุมรับฟังและให้ข้อเสนอแนะรวมทั้งมีการตัดสินใจในที่ประชุมได้ทุกครั้งที่เข้าร่วมประชุมในสภากลาโหม ซึ่งเป็นเวทีเดียวที่ท่านจะมาประชุมเดือนละครั้ง เป็นเวทีที่ได้พบกับบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมด รวมทั้งหน่วยงานของกรมราชองครักษ์ ซึ่งได้ร่วมประชุมมาแล้ว 3 ครั้งและจะมีการตัดสินใจที่เด็ดขาดต่อประเด็นปัญหาที่นำเสนอ ซึ่งเป็นที่น่าพอใจในการประชุมทุกครั้ง
"จึงต้องยกย่องในเรื่องของความเป็นผู้นำ พูดแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือท่านจับประเด็นได้เก่ง เข้าใจเร็วและตัดสินใจโดยมีการปรึกษาหารือต่อที่ประชุมทำให้การประชุมทุกครั้งที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความราบรื่น มีข้อสรุปทุกครั้ง ไม่มีการค้างคา"
@ถ้าเช่นนั้นสิ่งที่คาดหวังจากรัฐบาลในการทำงานร่วมกัน จะมีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
สิ่งที่ท่านรมว.กลาโหมได้กล่าวไว้ ผมถือเป็นสุดยอดปรารถนา คือการที่บอกว่าต้องการที่จะสนับสนุนงานของกองทัพให้มีความก้าวหน้า ทันสมัย และมีความพร้อมรบ โดยประเด็นเรื่องความพร้อมรบ เป็นสิ่งที่ต้องทำ ต้องวางแผนในระยะยาวในหลายๆเรื่อง ซึ่งท่านรับฟังเรื่องราวต่างๆที่ทางกองทัพอธิบายและชี้แจงให้ทราบ
ที่น่าสนคือการที่ให้ความสนใจและพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งความพร้อมรบของกองทัพนั้นประกอบไปด้วยประการแรก คือเรื่องของคน หรือกำลังพล จะต้องมีทั้งในเชิงปริมาณและชิงคุณภาพ ประการที่2 คือ เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งท่านก็เข้าใจและพร้อมรับฟังเหตุและผลว่าทำไมต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ตัวนั้นตัวนี้มีเพื่ออะไร ประการที่3 คือ เรื่องการบังคับบัญชา และประการที่4 ที่ทหารเรียกว่า อำนาจ กำลังรบที่ไม่มีตัวตน ก็คือขวัญกำลังใจ รวมทั้งสวัสดิการต่างๆ เหล่านี้คือสิ่งที่ท่านให้ความเข้าใจและพร้อมที่จะสนับสนุน
@เมื่อเป็นเช่นนี้ คงหนีไม่พ้นที่ต้องถามว่าแล้วความคาดหวังในการร่วมมือระหว่างกองทัพกับการเมืองล่ะคิดอย่างไร?
โดยเนื้อแท้ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมเปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับฝ่ายเสนาธิการให้กับตัวรมว.กลาโหม เช่นเดียวกับกระทรวง ทบวง และกรมอื่นๆ ข้อมูลที่รวบรวมฝ่ายกองบัญชาการกองทัพไทย ผ่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะลำเลียงขึ้นไปถึงตัวท่านรัฐมนตรี ปบัดกระทรวงมีหน้าที่ที่จะต้องกลั่นกรอง และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในบางประการ
"ซึ่งทั้งหมดผมได้ตั้งปณิธานไว้แล้วและได้เรียนกับผู้บัญชาการเหล่าทัพไว้ว่า ผมในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมจะทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในการที่จะทำให้กระบวนการงานหนังสือต่างๆมีความกระชับ ฉับไว รวดเร็ว ทันเวลา และบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่เหล่าทัพได้ร้องขอมา"
พล.อ.นิพัทธ์ ยืนยันว่า นี่คือหน้าที่กว้างๆที่จะต้องทำอย่างแยกขาดจากกันไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้ว รมว.กลาโหม สามารถสั่งการตรงไปยังผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ แต่โดยระบบจะต้องสั่งการมาที่ปลัด ซึ่งท่านก็ทำเช่นนั้น โดยได้สั่งการที่ผม แล้วผมก็ถ่ายทอดคำสั่งต่างๆลงไป
@แล้ว ณ วันนี้ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ต้องการให้รัฐบาลทำอะไรบ้าง?
ในวันนี้ผมในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมรวมทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหลายที่ได้ปฏิบัติงานร่วมกับท่านรมว.กลาโหมมาระยะหนึ่ง ตั้งแต่ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฯ กระทั่งมาเป็น รมว.กลาโหม ท่านได้ให้เกียรติกองทัพมาตลอด ในเวลาเดียวกันกองทัพก็ได้ทำตามภาระหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างตรงไปตรงมาทุกเรื่อง ท่านพูดย้ำทุกครั้งในการประชุมว่า ฝากดูแลเรื่องทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนด้วย
@สุดท้าย หลายคนอยากรู้ว่าในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่จะมีนโยบายในการสื่อสารและทำความเข้าใจกับมวลชนอย่างไรบ้าง
สิ่งที่ถือปฏิบัติกันมา ผมในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมก็ได้ให้นโยบายว่า ใน1สัปดหา ต้องมีการแถลงการทำงานของกระทรวงฯ ของตัวท่าน รมว.กลาโหม 1 ครั้ง ในส่วของเหล่าทัพต่างๆนั้น ในบางครั้งท่านผู้บัญชาการก็เป็นผู้แถลงเอง อย่างไรก็ตามก็จะมีโฆษกของเหล่าทัพที่จะทำหน้าที่ในการทำความเข้าใจกับประชาชนและสื่อมวลชน ซึ่งสื่อมวลชนเองก็ให้ความร่วมมือดี ทำให้การทำงานของกองทัพซึ่งเป็นกลไกของรัฐบาลสามารถบอกกล่าวกับประชาชน ซึ่งเป็นผู้เสียภาษีว่า กองทัพได้ทำอะไรไปบ้าง ส่วนเรื่องอื่นๆที่ได้มีการสอบถามมา หรือมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทุกประเด็นโฆษกของเหล่าทัพจะเป็นผู้แถลงและทำความเข้าใจทุกครั้ง แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยๆก็ตาม
"ขอยืนยันว่ากองทัพไม่ได้ละเลย และยินดีตอบคำถามตลอดเวลา"พล.อ.นิพัทธ์กล่าวทิ้งท้าย


