พิจิตรสละพื้นที่เกือบ2แสนไร่รับน้ำป้องกทม.จม
พิจิตรเตรียมใช้พื้นที่เขตชลประทาน 7 อำเภอ 193,000ไร่ รับน้ำเหนือหลากป้องกันกทม.จมบาดาล
พิจิตรเตรียมใช้พื้นที่เขตชลประทาน 7 อำเภอ 193,000ไร่ รับน้ำเหนือหลากป้องกันกทม.จมบาดาล
นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผวจ.พิจิตร กล่าวว่า ได้กำหนดให้พื้นที่ในเขตชลประทานของ 7 อำเภอที่มีอยู่ทั้งหมด 371,840 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ อ.เมือง อ.สามง่าม อ.ตะพานหิน อ.บางมูลนาก อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง และอ.โพทะเล โดยจะใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งในเขตชลประทานข้างต้นคิดเป็นพื้นที่ 193,000 ไร่ ให้เป็นพื้นที่รับน้ำเหนือไหลหลากในช่วงระหว่างเดือนก.ย.ถึงเดือน พ.ย.2555 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพื้นที่ 2 ล้านไร่รับน้ำเหนือหลากเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพรวมถึงย่านธุรกิจและนิคมอุตสาหกรรมภาคกลาง
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเกษตรกรไม่สามารถทำนาได้แต่จะได้รับเงินชดเชยจากทางรัฐบาลแต่จะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่นั้นยังไม่มีการระบุที่แน่ชัด โดยพื้นที่ที่จะเป็นทุ่งรับน้ำของ 7 อำเภอนั้นจะอยู่ฝั่งทิศตะวันตกของแม่น้ำน่านและทิศตะวันออกของแม่น้ำยมที่มีแม่น้ำพิจิตรเก่าผ่าอยู่ตรงกลางและมีบึงสีไฟอยู่ในโซนนิ่งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่รัฐบาลไม่เลือกพื้นที่ลุ่มน้ำยมในเขต ต.สามง่าม ต.รังนก ต.กำแพงดิน ของอ.สามง่าม และ ต.วังจิกของ อ.โพธิ์ประทับช้าง ที่เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำยมให้เป็นพื้นที่รับน้ำก็เพราะน้ำท่วมเป็นประจำอยู่แล้วและควบคุมปริมาณน้ำที่จะให้น้ำขึ้นหรือน้ำลงไม่ได้ จึงเลือกพื้นที่ทำการเกษตรในเขตชลประทานเป็นพื้นที่รับน้ำแทน เนื่องจากสามารถควบคุมระดับน้ำได้
นอกจากนี้ มีรายงานว่าจากเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการเลือก 7 อำเภอ ในเขตชลประทานของ จ.พิจิตร ให้เป็นทุ่งรับน้ำทั้งๆที่ 7 อำเภอในเขตชลประทานเป็นทุ่งรวงทองพื้นที่ดินดำน้ำชุ่มที่ผลิตข้าวได้มากกว่า 3 แสนตันต่อปี ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบถึงปริมาณข้าวที่จะใช้บริโภคและส่งออก ซึ่งจะทำให้กระทบกระเทือนกับรายได้และธุรกิจโรงสีข้าวของ จ.พิจิตร ที่มีมากกว่า 40 โรงอีกด้วย


