posttoday

"ไทยไม่ทน"ชวนขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ทำชาติพังเกินเยียวยา

24 เมษายน 2564

เสวนา “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” 'อดุลย์' ซัด “ระบอบประยุทธ์” ทำประเทศเสียหายเกินเยียวยา เรียกร้องให้ประชาชนช่วยขับไล่ชี้ 3 เหตุผลไม่สมควรบริหารประเทศแม้แต่วันเดียว

คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 จัดเสวนาเรื่อง “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” ณ ห้องถ่ายทอดสด ซอย รามอินทรา 40 โดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกคนคงทราบแล้วว่า รัฐบาลประยุทธ์ เป็นระบอบที่สร้างมาพยายามจะกินเมืองกลืนประเทศไทย และผลเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าความเสียหายเกินกว่าจะเยียวยาแล้ว

“เมื่อคืนนี้ก็คอยฟังว่าประยุทธ์จะมีแนวทางที่จะแก้ไขบ้านเมืองอย่างไร ฟังจบแล้วก็หมดอาลัยตายอยาก ไม่เข้าใจว่าท่านทำอะไรต่อบ้านเมือง ผมเสียใจมากผมสิ้นหวังให้รัฐบาลนี้โดยเฉพาะตัวพลเอกประยุทธ์ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ยอมรับประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกต่อไป เพราะคนที่เป็นนายกฯจะต้องไม่ทำตัวเหลวไหลชั่วร้ายแบบนี้ เมื่อคืนรู้เลยว่าในหัวของพลเอกประยุทธ์ไม่มีความรับผิดชอบ เป็นหัวที่กลวงทุกอย่าง สมองกลวงไม่มีอะไรเลย รู้หรือไม่ว่าประชาชนเขาป้องกันตัวเองเพราะเค้าพึ่งพาคุณไม่ได้ คุณทำให้เขาสิ้นหวังในชีวิตเพราะเขาไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่” นายอดุลย์ กล่าว

ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวว่า เพราะฉะนั้นใครที่เห็นด้วยกับผมกรุณาออกมาเปล่งเสียงว่า ประยุทธ์ออกไปเราไม่ควรที่จะมีคนแบบนี้เป็นนายกฯ ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า การที่ประยุทธ์ทำร้ายคนที่ไม่เห็นชอบกับตัวเองนั้น ผมขอประณามคุณว่าคุณทำเกินเหตุ ตนเรียกร้องให้ประชาชนเปล่งเสียงช่วยกันขับไล่รัฐบาลนี้ และขับไล่พลเอกประยุทธ์ เพราะไม่สมควรจะอยู่แม้แต่วันเดียว เหตุผล คือ ข้อแรกมุสาตระบัดสัตย์ไม่เคยรักษาคำพูด ทั้งที่ตัวเองมาจากทหารโดยแท้ แต่ประยุทธ์โกหกปลิ้นปล้อน ตลบแตลงไม่เคยพูดความจริงกับประชาชน แม้กระทั่งเมื่อคืนนี้ยังพล่ามไม่ยอมพูดบอกความจริงกับประชาชนว่าคุณไม่มีวัคซีน จากนี้ไปไม่รู้ว่าจะตายอีกเท่าไหร่

2. ลักทรัพย์แผ่นดิน เอาทุกอย่างที่เป็นของบ้านเมือง 3. ปล่อยให้ประชาชนต้องทนตามยถากรรมนี่คือการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตคนๆนี้ไม่สมควรที่จะเป็นนายกอีกต่อไป

ด้านนางพะเยา อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมลเกด อัคฮาด หรือน้องเกดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม กล่าวว่า กรณีของโควิดถ้าผู้นำประเทศดีจริง ควรจะป้องกันได้ตั้งแต่ต้น เรื่องนี้เกิดขึ้นรอบหนึ่งรอบสองรัฐบาลก็ไม่ได้กระตือรือร้นอะไร ประชาชนยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือฉีดวัคซีน ซึ่งมีความสำคัญต่อบุคลากรทางการแพทย์ คือ หมอและพยาบาล ถามว่าหมอและพยาบาลฉีดวัคซีนกันทุกคนหรือยัง เพราะเป็นบุคลากรที่ต้องดูแลประชาชนเจ็บป่วยทั้งประเทศ วัคซีนนี้กว่าจะถึงเจ้าหน้าที่ทั้งที่เป็นสิ่งสำคัญ และไม่ใช่มี ส.ส.บางคนฉีดแล้วแต่ไม่ปฏิบัติตัว คิดว่าตัวเองรอดแล้ว ก็ไปทำเรื่องเสื่อมเสียจนกระทั่งเกิดคลัสเตอร์

“อยากถามว่ามีใครออกมารับผิดชอบเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าประชาชนทำผิดประชาชนไปติดโควิดมา นายกฯออกมาพูดเลยว่าคุณต้องรับผิดชอบ จะเอากฎหมายมาเล่นกับประชาชน อยากถามว่าแล้วส.ส.ที่ติดโควิดจนเกิดคลัตเตอร์กับประชาชนได้รับหมายหรือยัง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่และ เป็นถึง ส.ส. เป็นถึงรัฐมนตรีจนกระทั่งทำให้ประชาชนเดือดร้อน” นางพะเยา กล่าว

นางพะเยา กล่าวว่า ตนไม่ยอมรับพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกับนายอดุลย์ เพราะเจ็ดปีที่ขึ้นมาบริหารประเทศคนทุกหย่อมหญ้าเดือดร้อนลำบาก รัฐบาลเมื่อคืนนี้โดยพล.อ.ประยุทธ์ออกมา เราก็นึกว่าจะให้มีการล็อคดาวน์อยู่ในพื้นที่และตรวจเป็นจุดๆ เพื่อไม่ให้มีการแพร่กระจาย แต่ก็ไม่มีคำนั้นออกมาจากปากนายกฯ เพราะเขากลัวว่าถ้าล็อคดาวน์เมื่อไหร่รัฐบาลต้องจ่ายเยียวยาให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนต้องล็อกตัวเอง ระวังตัวเอง เค้าก็อยากจะล็อคตัวเองแต่สถานะความเป็นอยู่ของเค้าไม่เอื้ออำนวย คนรวยคนมีเงิน ส.ส.รัฐมนตรี กับตัวมากกว่า 14 วันก็ทำได้ แต่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำไม่สามารถทำอย่างที่คุณทำได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องเป็นเรื่องพิจารณาที่สำคัญอยากฝากบอกประชาชนว่า ถ้าท่านทั้งหลายที่คิดว่าไม่ไหวแล้วกับการบริหารประเทศของคนที่ชื่อประยุทธ์จันทร์โอชา มันถึงเวลาแล้วที่คุณคิดว่าพร้อมใจออกมาไล่ประยุทธ์ออกไป ก็ขอให้คุณทุกคนจงร่วมใจกันออกมาเพื่อขับไล่ประยุทธ์จันทร์โอชาออกไป

ด้านตัวแทนเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การที่เรามาที่นี่ก็เพื่อยืนยันว่าประยุทธ์จันทร์โอชาต้องออกไปให้เร็วที่สุด ไม่มีประเทศใดในโลกที่ทหารเข้ามาพัฒนาประเทศแล้วประเทศเดินไปได้ ไม่ผู้นำที่มาจากรัฐประหารแล้วประเทศจะเดินหน้าได้ ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็คือ พลเอกสุจินดา คราประยูร และคือจอมพลถนอม กิตติขจร ทั้ง 3 คนคือผู้นำที่มาจากรัฐประหาร และเป็นผู้นำที่มาจากเผด็จการ

“ไม่เคยเห็นเศรษฐกิจ สังคม การเมืองที่ไหนพังพินาศขนาดนี้ และไม่เคยเห็นใครฆ่าตัวตาย ผูกคอตาย เพราะพิษเศรษฐกิจจากการบริหารบ้านเมืองล้มเหลว อย่างเช่นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องนี้พิสูจน์แล้วว่าประยุทธ์ จันทร์โอชาทำให้เศรษฐกิจสังคมการเมืองของประเทศไทยพังพินาศ และประยุทธ์ จันทร์โอชายังจับคนเห็นต่างเข้าคุกเข้าตารางเป็นว่าเล่น ทุกวันนี้หลายคนมีคดีติดตัวนับ 10 คดี เพราะเรามีความเห็นต่างจากประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องออกรวมสู้กันออกมาขับไล่นายกฯที่หน้าด้านหน้าทนที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา”

ตัวแทนเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า วันนี้ประยุทธ์ จันทร์โอชาจับคนเห็นต่างยัดคดีให้ 7 ปีที่ผ่านมา เราเห็นแล้วว่าประยุทธ์มาจากการยึดอำนาจรัฐประหาร ผ่านรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเขียนขึ้นมาและสืบทอดอำนาจบนกติกาที่บิดเบี้ยวนั่นคือและธรรมนูญปี 2560 ถ้าประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย เราจะไม่มีนายกฯที่ชื่อประยุทธ์จันทร์โอชาแน่นอน ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ประยุทธ์ จันทร์โอชาต้องออกไป และเราจะต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง วันนี้สิ่งที่เราต้องเดินไปข้างหน้าเราต้องเรียกร้องให้ประยุทธ์ออกไป

“ทุกวันนี้เรามีโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือให้ช่วยกันติด #ให้ประยุทธ์ออกไปช่วยกันติด # เราต้องการรัฐธรรมนูญใหม่แล้วเมื่อไหร่ที่โควิดหมดไป ตนอยากเชิญชวนทุกคนออกมาร่วมสู้ด้วยกัน ขับไล่ประยุทธ์จันทร์โอชาด้วยกันเพราะนี่คือหน้าที่ของคนไทย เพราะอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศก็คือประชาชน และประชาชนคือเจ้าของประเทศเพราะฉะนั้นรัฐบาลประยุทธ์ต้องฟังเสียงประชาชน”

ด้านธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลเปิดพื้นที่อีอีซีโดยไม่คำนึงถึงและไม่เข้าใจว่าพื้นที่ภาคตะวันออกมีหลายจุด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์มาก ในการเลี้ยงลูกพันธุ์สัตว์น้ำบางจุดเป็นแหล่งเลี้ยงลูกพันธุ์สัตว์น้ำมหาศาล ส่วนการทำสงครามการค้าสหรัฐกับจีนมีแต่จะเข้มข้นขึ้น วิธีเดียวที่จีนจะอยู่รอดได้ คือ จะต้องจับมือกับประเทศต่างๆในภูมิภาคอินโดจีน เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ เพื่อการค้าในภูมิภาค แต่การค้านั้นหนีไม่พ้นที่ประเทศไทยและประเทศอื่นๆในอินโดจีนจะต้องเชื่อมโยงกัน ถ้าค้าขายกับจีนเป็นหลัก แต่ปรากฏว่า 7 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ รถไฟเชื่อมโยงกับจีนทิศเหนือไปใต้ ไม่คืบหน้าเท่าไหร่

อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลกลับไปหมกมุ่นทำรถไฟความเร็วสูงทิศตะวันตกไปตะวัน ออกเชื่อมโยง3 สนามบิน แล้วเวลานี้เดี้ยงหมดเพราะโควิด เข้ามาเป็นอุปสรรค อีกประการหนึ่งรัฐบาลหมกมุ่นสร้างหนี้สาธารณะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ไม่ใช่เป็นหนี้เอ็นพีแอลแต่เป็นหนี้ที่เอามาเพื่อที่จะเอามาใช้ ให้เงินกับประชาชนในการอุปโภคบริโภคใช้จ่าย เพื่อที่จะประคองตัวผ่านโควิด การทำแบบนั้นสำหรับประชาชนที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้

นายธีระชัย กล่าว่า เวลานี้เท่าที่ดูรัฐบาลมีแนวโน้มจะขยายวง ลดแลกแจกแถมเพื่อที่จะให้ประชาชนเอาไปใช้เป็นฐานที่กว้าง ถ้ารัฐบาลไม่คิดว่าทั้งหมดที่ทำไปนั้นเพื่อจะหาความนิยมในทางการเมือง แล้วเราจะหาอะไรเป็นคำตอบได้ เรื่องนี้เป็นปัญหาและกระทบกับกระเป๋าของประชาชน เป็นเรื่องที่ผมใช้คำว่าเศรษฐกิจระบอบประยุทธ์ ในแง่ของหลักเศรษฐศาสตร์ประเทศใดประเทศหนึ่ง จะมีขีดจำกัดทั้งเรื่องของทรัพยากร ขีดจำกัดในเรื่องของการสร้างรายได้ในแต่ละปีของประเทศนั้น ขีดจำกัดที่จะสร้างความมั่งคั่งขึ้นในประเทศนั้นปัญหาคือใครจะสามารถเอื้อมมือเข้าไปคว้าทรัพยากร แล้วก็มีกลุ่มนายทุนพรรคพวกประยุทธ์ที่เข้าถึงทรัพยากร ได้รับส่วนแบ่งรายได้และมีความเหลื่อมล้ำในความมั่งคั่งสูงกว่าชาวบ้านตรงนี้ที่เราเรียกว่าระบอบประยุทธ์” นายธีระชัย กล่าว

“ตลอด 7 ปีเรื่องเศรษฐกิจระบอบประยุทธ์นั้นทำความกระทบกระเทือนต่อกระเป๋าของประชาชน ปัญหาใหญ่ที่สุดขณะนี้คือความไม่ปรองดอง ในช่วง 7 ปีของพลเอกประยุทธ์ ปรากฏว่าท่านมีความสามารถพิเศษ ท่านทำให้ความขัดแย้งซึ่งเดิมเป็นความขัดแย้งระนาบระหว่างซ้ายกับขวา แต่เวลานี้กำลังกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างบนกับล่าง ตรงนี้คิดว่าเป็นเรื่องที่อันตรายและเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องบริหารจัดการให้เร็วที่สุดวิธีที่จะทำนั้นไม่ใช่เอาไปติดคุก แต่ต้องเปิดให้มีส่วนร่วมโดยภาคประชาชน ทั้งในการสะท้อนปัญหา วิจารณ์นโยบายรัฐบาล ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น ตรวจสอบการปฎิบัติงานของราชการ ป้องปรามในเรื่องต่างๆที่หย่อนยานและการตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมตรงนี้จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุด” นายธีรชัย กล่าว

อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ถ้าถามว่าอะไรเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่จะต้องรื้อระบบเศรษฐกิจประยุทธ์โดยทันทีก็คือ เหตุผลเรื่องความไร้การปรองดองและเท่าที่ตนดูจากพฤติกรรมของพลเอกประยุทธ์ โอกาสที่ท่านจะทำให้เกิดความปรองดองด้วยตัวของท่านเองคงหวังไม่ได้

ขณะที่นายโสภณ พรโชคชัย นักวิชาการอิสระและประธานข้อมูลศูนย์วิจัยและประเมินค่าสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า เรื่อง โควิด-19 ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ และไม่ควรที่จะมาบริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป ประเทศไทยผิดพลาดตรงที่เราฉีดวัคซีนกันเพียงแค่ 0.1% เท่านั้น ตรงนี้คือการบริหารงานที่ผิดพลาดและไม่ควรที่จะบริหารงานต่อไป รัฐบาลแก้ปัญหาโดยการไปกู้เงินสารพัดมาแจก การให้ปลากับการให้เบ็ดเห็นชัดเจนอยู่แล้วว่ามันต่างกัน ที่เรากู้เงินมาเป็นล้าน 2 ล้านล้าน แล้วเอาเงินไปใช้อย่างไรบ้างมีความโปร่งใสหรือไม่ ถ้าเราตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย แล้วอ้างโควิดขึ้นมาเพื่อการเมือง หรือมีช่องทางในการทุจริตหรือไม่ เราก็ตรวจสอบอะไรไม่ได้เรื่องนี้ถือว่าเป็นอันตรายต่อประเทศชาติเรามาก ดังนั้นอยากให้นายกฯพิจารณาตัวเอง