posttoday

เด็กพปชร.ถาม"ธนาธร"รู้มีม็อบแล้วผ่านทำไม

12 พฤศจิกายน 2563

"ทิพานัน" ย้อน "ธนาธร" รู้ว่ามีม็อบแล้วผ่านทางนั้นทำไม แนะรีบตื่นจากฝัน หลังถูกสังคมตีตรา สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ชี้หากยังเดินสายคณะก้าวหน้า เลือกตั้งท้องถิ่นเข้าข่ายดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 63 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าเผยแพร่ข้อความทางเฟซบุ๊กกล่าวหาผู้ที่มีความเห็นต่างกับนายธนาธรว่าอาจจะกำลังตกอยู่ในหลุมพรางเดิมที่เป็นฝันร้ายที่กำลังถูกหลอกลวงอยู่ว่า อยากให้นายธนาธรตื่นจากฝัน จะเห็นว่าเหตุใดจึงถูกสังคมตีตราว่านายธนาธรเป็นพวกล้มเจ้า สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย และเนรคุณแผ่นดิน เพราะสังคมเชื่อว่าไม่มีหลุมพรางใดจะใหญ่เท่าหลุมพรางที่ปากบอกว่าปฏิรูป แต่ใจอยากจะล้มล้างอีกแล้ว จึงอาจรวมตัวกันในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้หากรถคณะเดินทางของนายธนาธรรู้อยู่แล้วว่าตรงนั้นอาจไม่สะดวกที่จะผ่านไป แล้วทำไมไม่หาทางหลีกเลี่ยง ตั้งใจผ่านจุดนั้นทำไม

"อยากขอเป็นกำลังใจให้นายธนาธรกล้าลืมตาตื่นขึ้นมามองหาอนาคตและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในโลกความเป็นจริงว่า ประเทศชาติกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทุกปัญหากำลังดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมไม่ใช่แบบวาทะกรรม ต้องพัฒนาทั้งระบบ เช่น ณ ปัจจุบันรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีได้วางโครงสร้างพื้นฐานอย่างเป็นระบบทั้ง รถ ราง เรือ มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยี ระบบการขนส่ง มอเตอร์เวย์หลายสาย รถไฟฟ้าความเร็วสูงข้ามจังหวัด การพัฒนาปรับปรุงและสร้างสนามบินในจังหวัดต่างๆ การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งภาคตะวันออก – ภาคใต้ ดังนั้นตอนนี้ความเจริญกำลังขยายไปมากทั้งระดับท้องถิ่นระดับประเทศ จนถึงในระดับอาเซียน ก็เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและกระจายความเจริญไปทุกหย่อมหญ้า เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาคุณภาพชีวิตทั้งสิ้น ดังนั้นข้อมูลที่นายธนาธรโพสต์จึงเป็นข้อมูลที่จ้องดิสเครดิสรัฐบาล เป็นการเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นอกจากนี้อยากให้นายธนาธรกล้าตื่น มาเจอความจริง ก่อนฝันร้ายจะถูกสร้างขึ้นมาหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น เพราะสิ่งที่เป็นภัยต่อคณะก้าวหน้ามากที่สุดตอนนี้ คืออาจมีที่ปรึกษากฎหมายคนเก่าจากอดีตพรรคอนาคตใหม่วางหลุมพรางเดิมๆ ให้คณะก้าวหน้าร่วมกันเดินสายหาเสียง ส่งตัวแทนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) จำนวน 41 จังหวัดนั้น อาจเข้าข่ายดังนี้ เป็นการดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมืองที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง พรป. พรรคการเมือง 2560 มาตรา 111 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดําเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใดให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองโดยมิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี” จึงอยากฝากถึงนายธนาธรว่า

“สิ่งที่เป็นภัยต่อพวกเรามากที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเจอเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา แต่เราเจอฝันร้ายที่ในนั้นมีคนคิดล้มชาติ ศาสน์ กษัตริย์”