posttoday

"สุภรณ์"ซัด "ธนาธร-ส.ส.ก้าวไกล" ใส่ร้ายนายกฯ ประกาศขอลุยดำเนินคดี

10 พฤศจิกายน 2563

"สุภรณ์" ซัด "ธนาธร" และ ส.ส.ก้าวไกล ใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ กล่าวหาอันเป็นเท็จ เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลดำเนินคดี โต้ นายกฯไม่เคยแทรกแซงการออกกฎหมายในสภาฯ

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 63 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคก้าวไกล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ออกมากล่าวถึงกรณีนายกฯ ตีตกร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ ปิดประตูก้าวแรกปฏิรูปกองทัพ ว่า เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น แต่นายธนาธรฯ ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า การเกณฑ์ทหารในประเทศไทยยังมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคน ที่ต้องช่วยกันปกป้องประเทศ และแม้นายธนาธรจะมองว่า ประเทศไทยจะไม่มีการสู้รบเกิดขึ้น แต่ยังต้องมีการป้องกันตามแนวชายแดน รวมถึง ภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นทหารที่ทำหน้าที่นี้

ยืนยันว่า นายกฯ ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นตามที่นายธนาธร และ ส.ส. พรรคก้าวไกล กล่าวหา เป็นการกล่าวหานายกฯ อย่างไม่เป็นธรรม เพราะนายกฯ ไม่เคยไปก้าวล่วงหรือแทรกแซงการพิจารณาหรือลงมติในร่าง พ.ร.บ.ฉบับใดๆ ที่พิจารณาในสภาฯ ทั้งสิ้น

ส่วนที่นายธนาธร ระบุว่า การปฏิรูปกองทัพ ให้เป็นกองทัพที่อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน เคารพสิทธิมนุษยชน ทหารชั้นผู้น้อยได้สวัสดิการที่เหมาะสม ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใสตรวจสอบได้นั้น ตนมองว่า นายธนาธร ไม่ควรมองให้ร้ายกองทัพ เพราะที่ผ่านมา กองทัพก็ได้ทำงานให้กับบ้านเมืองมาโดยตลอด และดูแลทหารเป็นอย่างดี อีกทั้งการใช้งบประมาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กองทัพหรือหน่วยงานอื่น นายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ที่ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และสั่งการในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยให้นโยบายกองทัพดูแลสวัสดิการความเป็นอยู่ทหารชั้นผู้น้อย ให้ได้รับการดูแลให้ดีที่สุด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและกำลังที่สำคัญให้กับกองทัพ

นายสุภรณ์ กล่าวว่า นายธนาธร และพวก ตลอดจน ส.ส. พรรคก้าวไกล หลายๆ คน ไม่ควรเอาเรื่องที่ไม่เป็นจริงกล่าวหานายกฯ ตนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมเนื้อหาทุกเรื่องราวที่นายธนาธร และพรรคพวกได้กล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความอันเป็นเท็จ และมีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลและสื่อทั่วไป อันทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวนายกฯ โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา นายกฯ ก็อดทนใจเย็นให้อภัยตลอดมา แต่จากนี้ไป ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ตนต้องขออนุญาตนายกฯ เพื่อมอบอำนาจให้ทนายความดำเนินคดีกับคนประเภทนี้ ที่ดีแต่ชอบใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาประเภทเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ทั้งที่นายกฯ เอง เรียกร้องหาความสามัคคี สมานฉันท์ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งในประเทศ ไม่เคยตอบโต้ อดทนทุกเรื่อง

จากนี้ไปตนและทีมงานฝ่ายกฎหมายของตน จะไม่ยอมให้นายธนาธร และพวก โจมตีนายกฯ ฝ่ายเดียวอีกต่อไปต้องดำเนินคดีทางกฎหมายให้เข็ดหลาบ ให้หุบปากหุบคำ หยุดความก้าวร้าว ดัดนิสัยเสียบ้าง