posttoday

พปชร.ยกผลโพลเตือนแกนนำม็อบ ชี้สังคมรับไม่ได้จาบจ้วง-ละเมิดกฎหมาย

05 ตุลาคม 2563

"ทิพานัน” ยกผลโพลเตือนสติแกนนำม็อบ สังคมรับไม่ได้กับการชุมนุมที่ผ่านมา ตอก “ปิยบุตร-พวก" ยุยงปลุกปั่นม็อบทำลายอนาคตลูกหลาน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง และอดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงผลโพลของสำนักวิจัยซูเปอร์โพลที่ระบุถึงปัจจัยที่สังคมรับไม่ได้จากการชุมนุมที่ผ่านมาที่พบว่า 97.6% รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมใช้อารมณ์ ไร้เหตุผลของการชุมนุม, 96.1% รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมการจาบจ้วงเสาหลักของชาติ, 95.7% รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมคุกคามผู้ที่เห็นต่าง, 94.1% รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมใส่ร้ายป้ายสี และ 93.4% รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมก้าวร้าว หยาบคาย และที่สำคัญคือประชาชน 97.4% รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมละเมิดกฎหมาย ทำลายทรัพย์สินส่วนรวม มีการคุกคามและการทำร้าย

ผลโพลแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในการชุมนุมต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นที่เกินขอบเขต ฝ่าฝืนกฎหมาย ใช้สิทธิเกินส่วน ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นการชุมนุมที่อยู่บนพื้นฐานของการแสดงออกตามหลักประชาธิปไตยที่ดี

การชุมนุมที่ผ่านมา ผู้นำการชุมนุมบกพร่องในการควบคุมสถานการณ์และที่สำคัญผู้นำการชุมนุมไม่สามารถแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทีมงานและผู้มาร่วมชุมนุมได้ เช่นกรณีผู้นำการชุมนุมกลับผลักภาระความรับผิดไปยัง ม.ธรรมศาสตร์ในกรณีที่การ์ดนิ้วขาดจากการพยายามพังประตู ม.ธรรมศาสตร์ ดังนั้นจึงขอให้น้องๆ เยาวชน นักศึกษา พิจารณาทบทวนก่อนที่จะเข้าร่วมการชุมนุม ในวันที่ 14 ต.ค. ว่า หลักการประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร การแสดงออกของการชุมนุมที่ผ่านมาอยู่ในขอบเขตของกฎหมายและหลักประชาธิปไตยหรือไม่

มีคนบางกลุ่มกำลังใช้ประโยชน์จากการชุมนุมโดยที่ไม่ออกหน้าแสดงความรับผิดชอบใดๆ เลยหรือไม่ เพราะสิ่งที่น้องๆ เยาวชนควรได้รับกลับมาจากการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นนั้น ควรจะเป็นประโยชน์ที่เกิดกับตัวน้องๆ เยาวชนเอง ไม่ใช่ประโยชน์ที่ตกไปยังแกนนำหรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่แอบรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ตนเองอยู่

“ผลโพลที่ออกมาชัดเจนว่า ประชาชนถึง 94.8% ทุกข์ใจที่เห็นการชุมนุมก่อให้เกิดความรุนแรงบานปลาย และ 89.9% เห็นว่าข่าวการชุมนุมเป็นการซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด ซึ่งชัดเจนว่าการชุมนุมไม่ก่อให้เกิดผลดีกับตัวผู้ชุมนุมและประเทศชาติเพราะจุดประสงค์การชุมนุมของแกนนำมีความเลื่อนลอย เน้นการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล เพราะข้อเรียกร้องหลักของการชุมนุมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการ การยุบสภายังไม่ควรทำในขณะนี้เพราะจะทำให้การแก้ไขรัฐธณรมนูญต้องล่าช้าไปอีกหากมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ส่วนการเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชนก็ไม่สมควรจะกระทำโดยการคุกคามผู้อื่นที่เห็นต่างของกลุ่มแกนนำเอง” น.ส.ทิพานัน กล่าว

ส่วนที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยคิดถึงอนาคตของลูกหลานนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เป็นเพราะพล.อ.ประยุทธ์คิดถึงอนาคตที่ดีของลูกหลานและประเทศชาติ จึงได้อดทนอดกลั้นในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยท่านตระหนักดีว่าอาจมีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่หมดอนาคตไปแล้ว หวังใช้พลังบริสุทธิ์ของเยาวชนลูกหลาน เอาอนาคตของผู้มาชุมนุมใช้เป็นเครื่องมือบันไดไปสู่อนาคตใหม่ที่ดีของกลุ่มตัวเอง