posttoday

"เทพไท"น้อมรับหยุดปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาลรธน.

16 กันยายน 2563

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้"เทพไท เสนพงศ์"หยุดปฎิบัติหน้าที่ส.ส.หลังกกต.ส่งเรื่องให้วินิจฉัยขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ผมได้ทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรเป็นวันสุดท้าย เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องจากคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ให้วินิจฉัยคุณสมบัติว่า ผมยังคงมีสมาชิกภาพ ส.ส.หรือไม่ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นที่สุดนั้น ผมพร้อมจะปฎิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญด้วยความเคารพทุกประการ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมก็ไม่ได้ใช้สิทธิ์ความเป็น ส.ส.แต่อย่างใด ผมไม่รับเงินเดือน และค่าเดินทาง หรือสิทธิประโยชน์อื่นใด จากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเลย ค่าใช้จ่ายในการทำหน้าที่ที่เกิดขึ้น ก็มาจากเงินส่วนตัวทั้งสิ้น

วันนี้ผมได้ทำหน้าที่ ส.ส.ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชจนถึงวินาทีสุดท้าย คือการยื่นหนังสือให้กับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องการย้ายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช มาก่อสร้างสถานีรถไฟแห่งใหม่ ที่สถานีรถไฟบ้านวังวัว ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม ตามที่ได้เคยอภิปรายไว้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตอนวาระการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ที่ผ่านมา

แม้ว่าวันนี้จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส.เป็นการชั่วคราว ก็เป็นการหยุดปฎิบัติการหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ผมยังคงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ยังคงลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมต่างๆในพื้นที่เขต3 อ.พระพรหม อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.จุฬาภรณ์ อ.ชะอวด เหมือนเดิมต่อไป

ทั้งนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสาร ผลการประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่ คณะกรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเทพไท เสนพงศ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (4) และมาตรา 96 (2) หรือไม่

ผลการพิจารณา เห็นว่า เป็นกรณีที่กกต.ผู้ร้อง มีมติให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ถูกร้อง มีเหตุสิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตราดังกล่าว เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ผู้ถูกร้อง ต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องมีกำหนดสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษา ผู้ร้องจึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรค4 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง หรือไม่กรณีต้องด้วยรัฐธรรมนูญ มาตร 83 วรรค4 ประกอบวรรค1 ศาลรัฐธรรมนูญจึงรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัยและแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

สำหรับ คำร้องขอของผู้ร้องให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรค2 นั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย