posttoday

"สมคิด"ถกทูตสหรัฐดีลศก.ปัดตอบปมการเมือง

02 กรกฎาคม 2563

ทูตสหรัฐฯ ชมไทยยังมีศักยภาพน่าลงทุน ยันร่วมมือสร้างเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง 'สมคิด' จ้อดีลเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ ปัดตอบปมการเมือง

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ที่ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหารือประมาณ 45 นาที

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวภายหลังการเข้าพบว่า ได้พูดคุยกันถึงแนวการทำงานร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ กับไทยในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทยให้มีความเข้มแข็ง และส่งเสริมให้นักลงทุนของสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ทั้งนี้ตนเชื่อว่าประเทศไทยยังมีความน่าลงทุน มีศักยภาพ และเหมาะสมอย่างมากสำหรับการที่บริษัทของสหรัฐฯ เข้ามาประกอบกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นซัพพลายเชน (Supply Chain) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นสูงมากที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯกับไทย โดยนำแนวความคิดบางอย่างมาเสนอตน เสนอว่าอุตสาหกรรมใดบ้างที่ต้องการให้ต่อยอด ความร่วมมือระหว่างเราทั้งสองฝ่าย ตนได้เสนอไปบางสิ่งและท่านสนใจมาก และรับปากว่าจะไป พัฒนาขึ้นมา

"ผมเรียนท่านไปว่า ผมอยากให้อเมริกาโฟกัสประเทศไทยเป็นการพิเศษเพราะเราเชื่อว่าในขณะนี้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของ ซีแอลเอ็มวีที ซึ่งเป็นเมนแลนด์ของอาเซียน และในปีหน้าทาง โครงการอีอีซีทั้งหลายจะเริ่มสมบูรณ์ เราสามารถที่จะเชื่อมโยงกับประเทศอีกหลายประเทศในบริเวณใกล้เคียง ในขณะเดียวกันตลาดเงินตลาดทุนของเราก็มีความแข็งแรงอย่างยิ่ง ฉะนั้นผมอยากให้เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ เป็นข้อที่หนึ่ง ส่วนข้อที่สองก็ได้บอกเขาว่าอุตสากรรมที่เขาสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอิเล็คทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัล สิ่งเหล่านี้เราให้ความสำคัญอยู่แล้ว และที่ผมได้ให้นโยบายบีโอไอไปคือ ต้องการอุตสากรรมใหม่ๆทางด้าน บริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการศึกษา ผมต้องการสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยชั้นนำของเขาให้เริ่มมาประเทศไทย เพราะเราเชื่อว่าจะเป็นศูนย์กลางของวิทยาการในภูมิภาคนี้ เรื่องของตลาดเงินตลาดทุนเราก็เชื่อว่าเราไม่แพ้สิงคโปร์"

"เราสามารถที่จะเป็นฐานของการผลิต และภาคบริการรวมถึงตลาดหุ้นด้วย ก็ได้บอกให้เขาทราบถึงความเชื่อมโยงระหว่างตลาดหุ้นไทย ฮ่องกงและเสิ่นเจิ้น เรื่องของการบริการทางการแพทย์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ฉะนั้นได้ใช้โอกาสนี้เราให้เขาได้ฟังว่าขณะนี้หน่วยงานราชการของเรา มหาวิทยาลัย ได้ไปสู่จุดที่เพราะมากถ้าเราได้พาสเนอร์ที่ดีเข้ามาก็จะเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ผมได้เสนอเขาให้ไปพัฒนาแพ็กเก็จนั้นขึ้นมา ให้เป็นแพ็กเก็จ ของการสร้างซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley)ระหว่างอเมริกากับไทยในพื้นที่อีอีซี เอา ทั้งสถาบันศึกษา บริษัท และสถาบันวิจัยมาเสนอที่นี่ เมื่อเสนอแล้วเราก็พร้อมที่จะดูว่าเราจะมีแพ็กเก็จ อะไรให้เขาได้บ้าง เพราะบีโอไอก็มีมาตรการอยู่แล้ว ในเรื่องของงบความสามารถการแข่งขันที่สามารถจะใช้เป็นเครื่องมือ ดึงดูดแพ็กเก็จที่ดีได้ เราไม่ต้องการแค่บริษัทแต่เราต้องการแพ็กเก็จที่สามารถสร้าง อะไรบางอย่างขึ้นมาในเส้นทางแถบนั้น อเมริกาเจริญได้เพราะมี ซิลิคอน วัลเลย์เมื่อ ประมาณ 20-30 ปีที่แล้ว ขณะนี้เราพร้อมมากและต้องการพาสเนอร์ที่ดี และแข็งแรงซึ่งเขาก็รับปากว่าจะรีบเสนอ โดยให้ประสานกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ผมก็อยากให้เขาเร่ง เพราะอาร์เซป (RCEP)คงจะจบภายในปีนี้ " นายสมคิด กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเขา ได้ให้กำลังใจในเรื่องทางการเมืองหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า "เราคุยในเรื่องสำคัญเท่านั้นนะ ไม่ต้องถามเลยนะน้องจ๋า"

เมื่อถามว่าโครงการที่จะช่วยในประเทศ อย่างเอสเอ็มอียังเดินต่อไปใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า อันนั้นแน่นอนเราทำสองขาอยู่แล้ว ขาหนึ่งคือ โลคอลอีโคโนมี อีกขาหนึ่งคือเรื่องของต่างประเทศ

เมื่อถามว่า แต่ขณะนี้มีกระแสการเมืองเข้ามารุมเร้า รู้สึกเป็นห่วงหรือไม่ นายสมคิดหัวเราะและกล่าวว่า " ไม่หรอก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว" เมื่อถามย้ำว่าแล้วนายกรัฐมนตรีเข้าใจนายสมคิดดี ในเรื่องของการทำงานใช่หรือไม่ นายสมคิด ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวแต่อย่างใดก่อนที่จะรีบเดินขึ้นรถ และกล่าวเพียงว่า "โอเคนะ บ๊ายบาย " ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม