posttoday

"เรืองไกร"ยื่นยุบพปชร.ปมส.ว.จุ้นดัน"บิ๊กป้อม"นั่งหัวหน้า

30 เมษายน 2563

"เรืองไกร"ยื่นกกต.สอบ"พลังประชารัฐ"หลังส.ว.คนดัง"เสธ.อ้น"ยอมรับอาสาเดินเกมเปลี่ยนให้"บิ๊กป้อม"เป็นหัวหน้าพรรคแทน"อุตตม"

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2563 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า ได้ส่งคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ทางไปรษณีย์ เพื่อขอให้ตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐ กรณี พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หรือเสธ.อ้น อยู่เบื้องหลังการเดินเกมให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แทน นายอุตตม สาว นายน รมว.คลัง เพราะอาจเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 อาจนำไปสู่การยุบพรรค

ทั้งนี้ เนื่องจากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.กนิษฐ์ ที่ยอมรับว่าเข้าไปช่วยงานการเมือง พล.อ.ประวิตร นั้น มีข้อเท็จจริงที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา113และ114 ที่ระบุว่า ส.ว.ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ไม่ฝักใฝ่หรืออยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง รวมถึงฝ่าฝืนมาตรา28 ,29 ,46 และ90(2) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ระบุว่า หากมีหลักฐานว่าพรรคการเมืองยินยอมให้คนนอกที่มิใช่สมาชิกครอบงำในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองขาดอิสระ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมนั้น ให้กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค

ขณะเดียวกัน รวมถึงส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการต่อไปด้วย ดังนั้น ขอให้กกต.ตรวจสอบคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.กนิษฐ์ด้วยว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคพลังประชารัฐกระทำการเข้าข่ายขัดฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยและประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หากพล.อ.กนิษฐ์ อยู่เบื้องหลังการเดินเกมให้ พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แทน นายอุตตมถือเป็นเรื่องที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะกำหนดไว้ชัดเจนให้ส.ว.ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง

ขณะเดียวกันโดยมารยาท ส.ว.ยิ่งต้องคำนึงให้หนัก เพราะสังคมตราหน้ามาตลอดว่า ส.ว.ชุดนี้ที่มาไม่ชอบและไม่สง่างาม เป็นการมาโดยฝีมือผู้นำรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น ส.ว.จะต้องคำนึงและระมัดระวังตัวให้มาก การไปยุ่งเกี่ยวหรือเดินเกมการเมืองให้กับพรรคการเมืองอย่างชัดเจนนั้น ส่วนเรื่องจิตสำนึกประชาธิปไตยนั้น ส.ว.คิดและพูดมาตลอดว่าตัวเองมีสถานะเป็นสภาสูง พยายามบอกว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากประชาชนอยู่ตลอด