posttoday

เทพไท สลด สาวฆ่าตัวตายหนีจน จี้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินเยียวยา ทั่วถึงโดยเร็ว

30 เมษายน 2563

เทพไท เสนพงศ์ เผย รู้สึกเศร้า สาวฆ่าตัวตายหนีความยากจน ขอรัฐบาลเข้าใจหัวอก เร่งจ่ายเงินเยียวยาให้ทั่วถึงโดยเร็ว

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสียชีวิตของคุณปลายฝนที่ตัดสินใจผูกคอตายว่า รู้สึกเศร้าสลดเมื่อได้อ่านข้อความการระบายความในใจ ก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย นับว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญของสังคม ที่ต้องตระหนักถึงปัญหาชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตนเองเป็นลูกชาวนาผ่านชีวิตที่อดอยาก ไม่มีข้าวกินมาก่อน ย่อมเข้าใจดีว่าชีวิตของคนยากจน อดมื้อกินมื้อ หาเช้ากินค่ำว่าชีวิตเป็นอย่างไร คนไม่เคยจน ไม่เคยอดข้าว ก็คงไม่รู้ว่าความยากจนชีวิตมันลำบากแค่ไหน เพราะเงิน 10 บาทหรือ 100 บาท จะมีค่าสำหรับชีวิตของคนจนคนหนึ่งเป็นอย่างมาก จึงได้ยืนหยัดต่อสู้เรื่องการเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบเกาะติด ท้วงติงมาโดยตลอด เพราะรู้ดีว่าเงินจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน มีค่าต่อชีวิต สามารถเลี้ยงคนได้ทั้งครอบครัว จึงจำเป็นต้องเรียกร้องต่อรัฐบาลได้เยียวยาให้ทั่วถึงคนยากจนทุกคน ทุกสาขาอาชีพ อย่างเสมอภาค และเท่าเทียมกัน ขอประกาศว่าจะต่อสู้เรื่องนี้ต่อไป จนกว่าคนจนทุกคนจะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลอย่างเป็นธรรม และจะเฝ้ารอผลการขีดเส้นตายของรัฐบาลว่า จะมีการจ่ายเงินเยียวยาให้ครบทุกคนตามโครงการเราไม่ทิ้งกันภายในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมนั้น สามารถทำได้จริงหรือไม่ ถ้าหากยังไม่สามารถเยียวยาได้ครบถ้วน ก็จะเรียกร้อง ทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับประชาชนกลุ่มนี้ต่อไป และเชื่อว่าต่อจากนี้ไป ก็จะมีประชาชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาเรียกร้องความเป็นธรรม และทวงถามสิทธิการเยียวยาที่กระทรวงการคลังทุกวัน เพราะคนในเขตกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หาเช้ากินค่ำ รับจ้างทั่วไป เมื่อเจอกับมาตรการล็อคดาวน์ ก็จะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ตกงานในทันที ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินจะซื้ออาหารมาประทังชีวิต ซึ่งชีวิตของคนในสังคมเมือง มีความแตกต่างกับสังคมในชนบท ที่สามารถจะเก็บผัก หาปลามาประทังชีวิตได้ เพราะเป็นสังคมเครือญาติ ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ แต่ชีวิตในสังคมเมืองหลวง จะมีชีวิตในลักษณะตัวใครตัวมัน ถ้าหากรัฐบาลไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาคนเหล่านี้อย่างทั่วถึง ก็จะเกิดปัญหาต่างๆตามมาอย่างแน่นอน รัฐบาลไม่สามารถที่จะห้ามผู้เดือดร้อน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเยียวยา ไม่ให้เดินทางมาร้องทุกข์ หรือเรียกร้องความเป็นธรรม ที่ประตู4 ของกระทรวงการคลังได้อย่างแน่นอน ส่วนประชาชนในต่างจังหวัดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะเสียโอกาสในการร้องทุกข์เหมือนคนในกรุงเทพฯ เพราะไม่สามารถจะเดินทางมาร้องทุกข์ ที่กระทรวงการคลังได้ จึงจำเป็นต้องอดทนกับชะตาชีวิตในลักษณะหวานอมขมกลืนต่อไป

จึงขอให้รัฐบาลได้เข้าใจถึงหัวอกของคนยากจน ที่ไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่มีเงินซื้ออาหารมาประทังชีวิตในแต่ละวัน ได้เร่งรัดการเยียวยาให้อย่างทั่วถึงและโดยเร็วที่สุด เพราะจนถึงบัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมาเป็นเวลาแรมเดือนแล้ว จะให้ประชาชนต้องอดทนรอไปอีกนานแค่ไหน ถ้ารัฐบาลเลือกใช้วิธีการเยียวยาจ่ายให้กับผู้มีอายุ18ปีขึ้นไป ที่มีเงินฝากไม่เกิน1แสนบาท หรือจ่ายเยียวยาทุกครัวเรือน ก็จะไม่มีปัญหาใดๆเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้