posttoday

ร้อง“กรมเจ้าท่า”สอบ ”เสรีพิศุทธ์” รุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา

25 มกราคม 2563

“ศิริวัฒน์ โมรานนท์”ร้องตรวจสอบท่าเรือบ้านพัก“เสรีพิศุทธ์”สร้างเกินที่ขออนุญาต ล่วงล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา “อธิบดีกรมเจ้าท่า” รับดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกม.

“ศิริวัฒน์ โมรานนท์”ร้องตรวจสอบท่าเรือบ้านพัก“เสรีพิศุทธ์”สร้างเกินที่ขออนุญาต ล่วงล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา “อธิบดีกรมเจ้าท่า” รับดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกม.

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี) ยื่นหนังสือต่อ นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เพื่อให้ตรวจสอบการปลูกสร้างท่าเรือหน้าโฉนดที่ดิน เลขที่ 4295 ซึ่งติดกับ วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต ล่วงล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งท่าเรือแห่งนี้อยู่ในพื้นที่บ้านพักของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้ติดตามข่าวที่เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเข้าแจ้งตำรวจ สน.บางโพ ว่ามีการสร้างท่าเรือดังกล่าวรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา โดยไม่เป็นตามแบบที่ขออนุญาตไว้ ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่เป็นเจ้าของระบุว่า เรื่องยุติแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้ที่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้ดำเนินคดีอาญากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าคำชี้แจงยังคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะกรณีที่สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีศาลแขวง 1 มีคำสั่งยุติดำเนินคดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2553 เฉพาะเรื่องการสร้างโดยไม่ขออนุญาตจากสำนักงานเขต แล้วตำรวจสั่งไม่ฟ้อง เพราะคดีขาดอายุความ 1 ปี แต่ส่วนที่สร้างท่าเทียบเรือสร้างเกินไปจากที่ขออนุญาตกรมเจ้าท่า และจากภาพถ่ายทางอากาศพบว่ารุกล้ำลำน้ำสาธารณะยังไม่มีการตรวจสอบ และไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ด้วย

“คดีนี้ยังไม่จบ ผมมายื่นเรื่องและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ กรมเจ้าท่า เพื่อตรวจสอบว่า การก่อสร้างท่าเทียบเรือของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ได้ขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าว่าเป็นการบุกรุกแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่“ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เคยทวงถามเรื่องไปยังศาลปกครองเกี่ยวกับคดีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฟ้องกระทรวงคมนาคมและพวก กรณีรื้อถอนรีสอร์ตใน จ.กาญจนบุรี รุกล้ำแม่น้ำแควน้อย ความคืบหน้าเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองยังติดตามความคืบหน้าอยู่ เพราะเป็นผู้กล่าวหาในส่วนของสำนวนคดีอาญา พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมีการขออนุญาต แต่ส่วนที่มีข้อพิพาทกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาฟ้องตนและนายตำรวจอีกหลายคน รวมถึงกรมเจ้าท่า ว่าปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบมีการบุกรุก ซึ่งคดีที่ถูกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ฟ้องที่ อ.ทองผาภูมิ ยุติไปแล้ว แต่ในส่วนของศาลปกครองกลาง ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นผู้ฟ้องกรมเจ้าท่า มีคำพิพากษามาแล้วว่าการที่กรมเจ้าท่าสั่งรื้อนั้นชอบด้วยกฎหมาย และอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ระยะเวลา 5 ปี และศาลสูงยังไม่มีคำวินิจฉัยลงมา จึงขอฝากรมเจ้าท่าให้ติดตามเรื่องนี้ด้วย

เมื่อถามว่าเหตุที่มาร้องต่อกรมเจ้าท่า เพราะเป็นคู่ความกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า จะมองอย่างนั้นก็ได้ แต่ตนเห็นในข่าวว่ากรมเจ้าท่าไปแจ้งความ และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาพูดไม่ครบประเด็น จึงนำเอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้องมายื่นให้กรมเจ้าท่าเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการแจ้งความเพิ่มเติม เป็นการทำให้จบกระบวนการ

ด้าน อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นเมื่อได้รับหนังสือแล้ว ก็จะดำเนินตรวจสอบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร มีความผิดหรือไม่อย่างไร ถ้าพบว่ามีความผิด ก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่า ซึ่งทางกรมฯได้มีการตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะทั่วประเทศอยู่แล้ว ถ้าหากพบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะมีขั้นตอนการดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะแจ้งความ หรือสั่งให้รื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2563 นายธวัชชัย ฮะประสาร หัวหน้ากลุ่มคดีและบังคับคดี สำนักกฎหมาย กรมเจ้าท่า ได้เข้าแจ้งความต่อ สน.บางโพ ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีมีผู้สร้างท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านห้างแม็กโคร สาขาบางกระบือ ถ.สามเสน ซึ่งระบุว่าเป็นของนักการเมืองคนดังในซีกฝ่ายค้าน หลังพบว่ามีเอกสารการขออนุญาตก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2544 แต่กลับมีการก่อสร้างผิดแบบ ไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาตไว้ ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยอมรับว่าเป็นท่าเรือของตนเอง แต่คดีได้ยุติไปตั้งแต่ปี 2553