posttoday

"บิ๊กตู่" ปัดติดโซเชียล เผยพยายาม "ใช้ขันติ" เมินคนด่า

24 มิถุนายน 2562

พล.อ.ประยุทธ์ ปัดติดโซเชียลแต่ใช้เพื่อหาข้อมูลที่ไม่รู้ เผยพยายามใช้ขันติเพื่อเมินคนที่เข้ามาตำหนิ

พล.อ.ประยุทธ์ ปัดติดโซเชียลแต่ใช้เพื่อหาข้อมูลที่ไม่รู้ เผยพยายามใช้ขันติเพื่อเมินคนที่เข้ามาตำหนิ

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้ไปเป็นประธานเปิดงาน CLMVT Forum 2019:CLMVT as the New Value Chain Hub of Asia โดยช่วงหนึ่งกล่าวถึงการทำงานว่า ตลอดเวลาที่ทำงานมา 5 ปี พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรและทำตัวอย่างไร

แม้หลายคนจะบอกว่า นายกฯเป็นคนตลกก็ตาม แต่ที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างเต็มที่ การทำงานทุกอย่างต้องคำนึงถึงกฎหมายและกติการะเบียบที่กำหนดไว้ด้วย อย่าคิดแต่เพียงว่าเราคิดและพูดได้ทั้งหมด เพราะกลายเป็นการพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ กฎหมายทุกฉบับไม่ใช่จะออกมาง่ายๆ จะต้องผ่านการกลั่นกรอง มีคณะกรรมาธิการก่อนเข้าสู่การพิจารณา

ผมอยู่มา 5 ปี รู้ดีการเรียกร้องอะไรเพียงอย่างเดียวนั้นไม่มีทางสำเร็จ จะต้องหาเวทีร่วมกัน วันนี้มีการพัฒนาการเรียนการสอนนอกจากวิชาการแล้วจะต้องสอนให้เยาวชนเรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพ เคารพในระเบียบและกติกา รู้จักการแบ่งหน้าที่ก็จะไม่เกิดการทะเลาะกัน เพราะทุกคนจะรู้จักหน้าที่ของแต่ละคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในตอนท้าย หลังกล่าวเปิดงานมากว่า 30 นาที ว่า "การใช้โทรศัพท์มือถือ ต้องดูว่าใช้ได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่ ใช้แนวทางที่หาความรู้ให้กับตัวเองหรือเปล่า

“มีคน 2-3 คน บอกว่าผมติดโซเชียล ยืนยัน ผมไม่ได้ติดโซเชียล ผมเปิดโทรศัพท์ ดูอะไรที่ผมไม่ฉลาด อะไรที่โง่ๆเพื่อให้รู้ ผมก็เปิดมาดู นั่นแหละคือโซเชียลของผม ไม่ใช่ไปด่าให้มันเสียอารมณ์ ใครว่าผม ใครด่าผมจะไปอ่านทำไม มันไร้สาระ

ผมพูดแบบนี้เดี๋ยวสื่อก็พาดหัวข่าวกัน เวทีผู้นำ อาเซียนพูดมา 3 วันเหนื่อยก็เหนื่อย งานเยอะ ทุกคนเหนื่อยแสนเข็ญ ก็จ้องจับแต่จะจับผิด นี่แหละโลกของโซเชียล แต่อะไรที่มันทำลายประเทศ ถ้ามันเกิดขึ้นก็ต้องรับไปด้วยกันทุกคน เพราะไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้น คนทำดีเขาก็ไม่อยากทำ ทำแทบตาย ซึ่งมันไม่ได้ง่ายนัก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ถ้าเราไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งทางกฏหมาย หรือกับเจ้าหน้าที่ ทุกคนปฏิบัติตามกฏหมายก็จบ แต่ถ้าออกมาต่อต้านกันทุกเรื่องมันไปไม่ได้ ถือเป็นอันตรายของประเทศเราจะมาให้ร้ายกันไม่ได้ เพื่อนก็คือเพื่อน หลายประเทศตามประวัติศาสตร์อยู่กับเรามา 200 - 400 ปี แล้ววันนี้จะทะเลาะกันไปได้อย่างไร เราต้องมีนโยบายที่สมดุล

รัฐบาลก็ต้องมีนโยบายทางการเมืองที่ต้องดูแลทั้งในและต่างประเทศ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่ทั้งหมดคือห่วงโซ่เดียวกันพูดหรือทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ถ้าอยากได้ความขัดแย้งก็พูดไป เดี๋ยวก็ขัดแย้งกันเอง เพราะคนเราพร้อมถูกชักจูงอยู่แล้วซึ่งเรียกว่าอารมณ์

วันนี้ผม จึงอยากให้ทุกคนใช้คำว่าขันติ โสรัจจะ ซึ่งคำว่าขันติคือความอดทน อดกลั้น เวลาพูดหรือฟังใครพูด ตนเองก็พยายามทำอยู่

ส่วนโสรัจจะคือ ถ้าเรามีขันติ ก็จะเกิดความสงบเสงี่ยม เจียมตัว จะรู้ตัวเองว่าต้องทำตัวอย่างไร ซึ่งผม เป็นคนแบบนี้ เป็นคนน่ารักจะตาย