กกต.แจง4ขั้น "พรรคการเมือง"ต้องทำให้ครบก่อนส่งส.ส.ลงเลือกตั้ง

กกต.เตือนพรรคการเมืองต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ครบ 4 ขั้นตอนก่อน จึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายกิจการพรรคการเมือง แถลงว่า พรรคการเมืองที่มีสิทธิในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องมีการดำเนินการดังนี้

1.พรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตาม พรป. พรรคการเมือง 2550

1.1 จัดให้มีเงินทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ

1.2 จัดให้มีสมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 จำนวนไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงพรรคการเมือง และให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ

1.3 จัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ คำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ใน พรป.พรรคการเมือง 2560 และให้สอดคล้องกับ พรป. สส. 2561 พร้อมทั้งแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง

1.4 จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิก พรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรคการเมือง ตามข้อบังคับพรรคการเมืองที่ได้แก้ไขใหม่ ตามข้อ 1.3 โดยให้ลงคะแนนลับตามมาตรา 40 พร้อมทั้งแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ของพรรคการเมือง

ทั้งนี้ ในระหว่างเวลาที่พรรคการเมืองยังปฏิบัติตามข้อ 1.1 ถึงข้อ 1.4 “ไม่ครบถ้วน”จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้

2. พรรคการเมืองที่จัดตั้งตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลย

ขณะนี้มีพรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมือง ตาม พรป. พรรคการเมือง 2550 ดำเนินการครบถ้วนทั้ง 4 ข้อ เพียง 2 พรรคการเมืองเท่านั้น จึงขอให้พรรคการเมืองตามข้อ 1 ที่ประสงค์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการตามข้อ 1 ให้ครบถ้วนทั้ง 4 ข้อ และต้องแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบด้วย จึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้

อนึ่ง หากพรรคการเมืองที่ประสงค์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดอย่างน้อย 1 แห่งในจังหวัดนั้น ตามมาตรา 145 แห่ง พรป. พรรคการเมือง 2560