4คนชิงดำประธานวุฒิสภา

ประชุมวุฒิสภาเลือกประธานเริ่มแล้ว 4คนชิงดำ  'พิเชต-นิคม-เกชา-สุนันท์' สายสรรหา เสนอ ยึดโทรศัพท์ก่อนลงคะแนน หวั่นไม่เป็นความลับ แต่ไร้ข้อสรุป 'สว.'มาเต็มองค์คณะ 146 คน

การประชุมวุฒิสภา ได้เข้าสู่วาระการเลือกตั้งประธานวุฒิสภาคนใหม่แทนพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ซึ่งพ้นจากตำแหน่ภายหลังศาลอาญามีคำพิพากษารอลงอาญาโทษจำคุกเป็น เวลา2ปีจากการขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเอง

ทั้งนี้มีผู้ได้รับการเสนอชื่อจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายนิคม ไวยรัชพานิช สว.ฉะเชิงเทรา รองประธานวุฒิสภา นายพิเชต สุนทรพิพิธ สว.สรรหา นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สว.ราชบุรี และ น.ส.สุนันท์ สิงห์สมบุญ สว.สรรหา              

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กลุ่มสว.สรรหานำโดยนายสมชาย แสวงการ และ นายวันชัย สอนศิริ ได้อภิปรายขอเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาเก็บโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องถ่ายรูปจากสว.เอาไว้ก่อนที่จะไปลงคะแนนเลือกประธานวุฒิสภาในคูหาเพื่อให้การใช้สิทธิ์ลงคะแนนเป็นการลับจริงๆตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ขณะที่ สว.สรรหา หลายรายอาทิ นางนฤมล ศิริวัฒน์ สว.อุตรดิตถ์ และ พล.ต.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ สว.มุกดาหาร แสดงความเห็นคัดค้าน เพราะเห็นว่าควรให้ความไว้วางใจสว.ด้วยกันเอง ซึ่งที่สุดแล้วที่ประชุมวุฒิสภาไม่ได้มีมาตรการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ระหว่างการเสนอชื่อบุคคลเป็นประธานวุฒิสภาปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อนายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ สว.สรรหา ซึ่งเป็นผู้เสนอนายพิเชต ขอใช้สิทธิ์อภิปรายสนับสนุน แต่นายนิคม ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาต แต่นายอโณทัยพยายามจะพูดแทรกผ่านไมโครโฟนหลายครั้ง ทำให้นายนิคมต้องกล่าวตำหนิว่าควรทำหน้าที่ให้เป็นกลางเพราะการทำแบบนี้ไม่มีความเหมาะสม

ต่อมา เข้าสู่ขั้นตอนการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 4 คน โดยน.ส.สุนันท์ ได้กล่าวเป็นคนแรกว่า ควรให้โอกาสผู้หญิงเป็นผู้นำทางการเมืองเนื่องจากในต่างประเทศก็มีผู้นำเป็นผู้หญิง เช่น พม่า หรือไทย และขอยืนยันว่าหากได้ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาจะวางตัวเป็นกลาง

สำหรับบุคคลที่จะได้รับการเลือกเป็นประธานวุฒิสภาตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภากำหนดให้ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม โดยขณะนี้มีสว.มาประชุมครบทั้งหมด 146 คน ทำให้บุคคลที่จะได้รับการเลือกเป็นประธานวุฒิสภาจะต้องได้ 73 คะแนนขึ้นไป     

นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เปิดเผยก่อนการประชุมว่า ในการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อรับการคัดเลือกเป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่วันนี้จะแสดงความเป็นกลาง โดยยึดหลักกฎหมายและนิติธรรม การส่งเสริมให้กรรมาธิการสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อมโยงกับประชาชน  การเห็นชอบแต่งตั้งองค์กรอิสระต้องรับผิดชอบด้วยการคัดเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์และสนับสนุนให้บรรลุกฎหมายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และ สนับสนุนบทบาทของวุฒิสภา ต้องเป็นคนที่สร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ

พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้คะแนนยังเป็นรองจากนายพิเชต สุนทรพิพิธ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)สรรหา ส่วนการที่ไม่ลาออกจากตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาก่อนตามที่มีผู้เรียกร้องนั้น นายนิคม กล่าวว่า  เป็นคนละประเด็นเพราะเรากำลังเลือกประธานวุฒิสภา ไม่ใช่เลือกรองประธานฯ  และที่ผ่านมามีคนอยากเป็นรองประธานวุฒิสภาหลายคน และกฎที่ผ่านมาก็ไม่เคยระบุให้ต้องลาออก และที่ผ่านมาการเลือกตั้งประธานวุฒิสภาก็ไม่เคยมีการลาออก

"ถ้าผมออกรองประธานวุฒิฯ  ก็จะมีกลุ่มหนึ่งขึ้นมาและมีการเจรจาแลกเปลี่ยนกันเกิดขึ้น มีการล็อบบี้รองประธาน ฉะนั้นปล่อยให้กลไกของการเลือก ถ้าวันนี้ได้เป็นประธานวุฒิ ก็ต้องเลือกรองประธานกันต่อ ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร ผมเป็นนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ ครั้งที่แล้ว ผมก็ทำหน้าที่ ไม่มีอะไร"  นายนิคม กล่าวและคาดว่าช่วงเที่ยงวันนี้คงรู้ผลการคัดเลือกประธานวุฒิสภา

ด้านนายเกชา เปิดเผยว่ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการลงแข่งประธานวุฒิสภา แต่มองว่าคะแนนเสียงที่ใด้ยังตามหลังคนอื่นอยู่เพราะเพิ่งเปิดตัวเพียง 3 วันเท่านั้น ขณะที่วิสัยทัศน์ทีจะแสดงวันนี้จะเน้นเรื่องเป็นกลางเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง

ขณะที่นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา มีความพร้อมในการชิงตำแหน่ง แต่เรื่องความมั่นใจไม่ขอตอบ ขณะที่กรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมี ส.ว.หญิง ลงแข่งด้วยนั้นยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ส่วนการแสดงวิสัยทัศน์วันนี้จะเน้นเรื่อง นำความเป็นกลาง เพราะถือว่าวุฒิสภาเป็นส่วนหนึ่งของการเมือง แต่ต้องไม่สร้างปัญหาให้กับการเมือง นายพิเชตยังยืนยันว่า หากไม่ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา ก็จะไม่ขอรับตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาเช่นกัน