posttoday

ยื้อเลือกตั้ง "บิ๊กตู่" ได้ไม่คุ้มเสีย

16 มกราคม 2562

การยื้อเวลาเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆ แน่นอนว่ายิ่งมีผลให้รัฐบาลและ คสช. รวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่โดนฝ่ายการเมืองโจมตีอย่างต่อเนื่อง

การยื้อเวลาเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆ แน่นอนว่ายิ่งมีผลให้รัฐบาลและ คสช. รวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่โดนฝ่ายการเมืองโจมตีอย่างต่อเนื่อง

******************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ถ้าจะบอกว่าเวลานี้สถานการณ์ของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) กำลังเกิดอาการ เมาหมัดก็คงไม่ผิดนัก ภายหลังยังไม่สามารถกำหนดความชัดเจนเกี่ยวกับวันเลือกตั้งได้ ส่งผลให้กระแสแนวร่วมเรียกร้องห้ามเลื่อนเลือกตั้งมีมากขึ้น

"กลุ่มคนเลือกตั้ง" แม้หากมองเข้าไปถึงตัวบุคคลที่เป็นตัวตั้งตัวตีแล้วจะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นคนหน้าเดิมๆ ที่เป็นขาประจำของรัฐบาลและ คสช.อยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าการก้าวพลาดของรัฐบาลมีผลให้พลังของม็อบกลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงขั้นกล้าที่จะประกาศยกระดับการชุมนุมกดดันรัฐบาลและ คสช.ในวันที่ 19 ม.ค. แบบไม่สนใจอำนาจรัฐบาลและกองทัพเลยแม้แต่น้อย

ตัดกลับมาดูท่าทีของรัฐบาล ก็ยังพบว่ามีแต่เพียงการสร้างวาทกรรมและลีลาการเมืองว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน พร้อมกับโยนเผือกร้อนให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับภาระในการกำหนดวันเลือกตั้ง เรียกได้ว่ารัฐบาลกำลังพยายามปัดเรื่องนี้ออกจากตัว ทั้งๆ ที่ในทางปฏิบัติแล้ว กกต.และรัฐบาลต่างมีภาระร่วมกันในการกำหนดวันเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของ กกต. แต่เพียงฝ่ายเดียว

"การเลือกตั้งก็คือการเลือกตั้ง และเมื่อเลือกตั้งแล้วหลังจากนั้นก็มี วิธีการ เช่น เรื่องการตั้งรัฐบาลก็มีเวลาที่ต้องดำเนินการต่อไป ดังนั้นถึงอย่างไรก็ให้ทุกคนเลือกตั้ง เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้แล้ว

ผมจะมาเบี้ยวไม่ได้ หลายคน มาบอกว่าผมจะเบี้ยวไม่ให้เลือกตั้ง ถึงอย่างไรก็ต้องเลือกเพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้" ท่าทีดุเดือดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา

เป็นการยืนยันอีกครั้งว่า ประเทศไทยมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพียงแต่ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนได้ โดยอาศัยการอ้างเรื่องขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันรักษาบรรยากาศและสร้างความสงบเรียบร้อย

การอ้าง "ความสงบเรียบร้อย" นั้น เปรียบเหมือนเป็นยาสามัญประจำบ้านที่รัฐบาลมักจะเอาออกมาใช้เพื่อลบล้างเหตุผลของฝ่ายการเมืองและฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งแทบทุกครั้ง

โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการสร้างให้อีกฝ่ายดูเป็นผู้ร้ายและเป็นต้นเหตุของความไม่สงบ เหมือนกับที่เวลานี้กองทัพเริ่มออกมาตอบโต้ฝั่งตรงข้ามด้วยตัวเองว่า ไม่มีวุฒิภาวะในเรื่องประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วการเลือกตั้งที่ถูกเลื่อนออกไป ล้วน มาจากการสร้างเงื่อนไขของรัฐบาลแทบทั้งสิ้น

การแสดงความขึงขังของกองทัพและรัฐบาล ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่อาจสร้างผลกระทบให้ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแรงลงไปได้แต่อย่างใด ในทางกลับกันสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายกว่านั้น เพราะแนวร่วมต่อต้านรัฐบาลถูกขยายวงออกไปมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเลื่อนเลือกตั้งเท่านั้น แต่เพราะลามไปถึงการเรียกร้องให้ประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลด้วยเหตุผลเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินที่บกพร่องด้วย ดัง ที่ปรากฏให้เห็นจากกรณีที่ "อาทิตย์ อุไรรัตน์" อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความคิดเห็นว่าคนไทยควรร่วมกันออกมาขับไล่รัฐบาล
 
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เสียงวิจารณ์รัฐบาลและ คสช.หนักขึ้นทุกวัน เป็นเพราะการทำตัวเองของรัฐบาลและ คสช.ที่ไม่ยอมกำหนดเรื่องวันเลือกตั้งให้ชัดเจน
 
การยื้อเวลาเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆ แน่นอนว่ายิ่งมีผลให้รัฐบาลและ คสช. รวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ โดนถล่มฟรีทุกวันในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะจากฝ่ายพรรคการเมือง

ทั้งนี้ ในด้านหนึ่งการที่พรรคการเมืองพยายามงัดข้อบกพร่องของรัฐบาลและ คสช.ออกมาโจมตี เป็นความต้องการที่จะหาคะแนนความนิยมเช่นกัน โดยเป็นการทำสองอย่างในเวลาเดียวกัน คือ การทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคพลังประชารัฐในฐานะเป็นพรรคที่พร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ทางอ้อม และสร้างตัวเองให้มีภาพความเป็นประชาธิปไตย และผลักอีกฝ่ายให้เป็นเผด็จการ

การเคลื่อนไหวเช่นนี้ของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง เป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะเอากฎหมายเลือกตั้งมาจัดการ เพราะยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ทำให้การ บังคับใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 ในส่วนของการห้ามใส่ร้ายป้ายสีและการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ จึงทำได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก

ครั้นจะใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงเข้ามาจัดการด้วยการอ้างเรื่องความไม่สงบ ก็ทำไม่ได้อีก เพราะหากทำเช่นนั้นแทบไม่ต่างอะไรกับการทำลายต้นทุนความชอบธรรมของตัวเอง และอาจลามไปถึงการทำลายพรรคพลังประชารัฐโดยไม่รู้ตัว

เท่ากับว่าเหลือทางเลือกอีกไม่ มากนักท่ามกลางสมรภูมิเลือกตั้ง ที่มีการเดิมพันสูงกว่าการเลือกตั้ง ทุกครั้งที่ผ่านมา

ดังนั้น ทางออกของปัญหานี้ ไม่มีทางอื่นนอกจากการให้ความชัดเจนในเรื่องวันเลือกตั้งและเร่งจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด นอกจากจะช่วยลดแรงต้านแล้ว ยังช่วยให้การพาดพิงรัฐบาลในแง่ลบน้อยลง เพราะการแสดงความคิดเห็นของพรรคการเมืองจะถูกควบคุมด้วยกฎหมายเลือกตั้ง สส.

ทางสว่างมีให้เห็นแล้ว เหลือแต่ ผู้มีอำนาจจะเห็นแสงสว่างตามทางนี้หรือไม่เท่านั้น