posttoday

โซนี่พิคเจอร์สทุบสถิติ หนังทำเงินดันรายได้พุ่ง

15 กุมภาพันธ์ 2561

แม้ว่าปี 2560 ภาพรวมเศรษฐกิจ ของไทยจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ สำหรับค่ายหนังฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่าง โซนี่ พิคเจอร์ส กลับไม่ได้รับผลกระทบ

โดย...จะเรียม สำรวจ

แม้ว่าปี 2560 ที่ผ่านมา ภาพรวมเศรษฐกิจ ของไทยจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ สำหรับค่ายหนังฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่าง โซนี่ พิคเจอร์ส กลับไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบดังกล่าว เห็นได้จากรายได้ที่ได้รับ ในปี 2560 ที่เกินเป้าหมาย จากเดิม วางไว้ 800 ล้านบาท แต่ทำได้จริง 806 ล้านบาท จากผลประกอบการที่ดีดังกล่าว ทำให้รายได้ในปี 2560 ลบสถิติรายได้สูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2555 ที่ประมาณ 773 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้โซนี่ พิคเจอร์ส สามารถสร้างรายได้เติบโตสูงกว่าเป้าหมาย ที่วางไว้ ปัจจัยหลักน่าจะมาจากจำนวนภาพยนตร์ที่นำเข้าฉายในปี 2560 ที่ผ่านมามีมากถึง 19 เรื่อง ซึ่งหลายเรื่องยังทำเงินได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสไปเดอร์แมน : โฮมคัมมิ่ง ที่ทำรายได้สูงกว่า 270 ล้านบาท หรือ จูแมนจี้ เกมดูดโลก..บุกป่ามหัศจรรย์ ที่สามารถกวาดรายได้บอกซ์ออฟฟิศ ทั่วประเทศได้สูงถึง 165 ล้านบาท

นอกจากนี้ การที่โซนี่ พิคเจอร์ส นำภาพยนตร์ทางเลือกอีกประมาณ 6 เรื่อง ไปฉายภายในโรงภาพยนตร์เฮ้าส์อาร์ซีเอ และได้ผลการตอบรับที่ดี เพราะสามารถฉายภาพยนตร์ได้นานขึ้น และการที่โรงภาพยนตร์มีการขยายสาขาไปในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ควบคู่ไปกับทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายกันอย่าง ต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งโปรโมชั่น ที่ทำแล้วได้ผลดีสามารถกระตุ้นความสนใจ ให้ผู้บริโภคเข้ามาดูภาพยนตร์ได้ คือ การปรับลดราคาตั๋วชมภาพยนตร์

จากกลยุทธ์การตลาดดังกล่าวทำให้ปี 2560 ที่ผ่านมา ราคาตั๋วชมภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150 บาทเท่านั้น ขณะที่ต่างจังหวัดมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100-120 บาท และบางวันมีการปรับลดราคาลงเหลืออยู่ที่ประมาณ 70-80 บาท

รชต ธีระบุตร กรรมการและ ผู้อำนวยการใหญ่ โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ถ้ามองตลาดภาพยนตร์ในประเทศไทยขณะนี้ ตลาดในกรุงเทพฯ อยู่ในภาวะค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากมีโรงภาพยนตร์เปิดใหม่ค่อนข้างน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดต่างจังหวัด จึงทำให้ตลาดภาพยนตร์ปีที่ผ่านมาตลาดต่างจังหวัดมีอัตราการเติบโตสูงถึง 7% ขณะที่ตลาดกรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ ติดลบที่ประมาณ 3%

สำหรับภาพรวมตลาดภาพยนตร์ ในปี 2561 นี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 4-5% ใกล้เคียงกับปี 2560 ที่ผ่านมา โดยตลาดที่ขับเคลื่อนให้ภาพรวมธุรกิจภาพยนตร์มีการเติบโตที่ดียังคงเป็นตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากผู้ประกอบการ โรงภาพยนตร์ยังคงเดินหน้าขยายสาขาในต่างจังหวัดกันอย่างต่อเนื่อง

รชต กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการทำตลาดปีนี้ บริษัทจะนำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเข้ามาฉายในประเทศไทยประมาณ 7 เรื่อง ประกอบด้วย INSIDIOUS : THE LAST KEY, HOTEL TRANSYLVANIA 3 : MONSTER'S VACATION, THE EQUALIZER 2, ALPHA, VENOM และ THE GIRL IN THE SPIDER'S WEB เป็นต้น จากจำนวนภาพยนตร์ที่น้อยกว่าปีก่อน ทำให้บริษัทวางเป้าหมายรายได้สิ้นปีนี้ไว้เพียง 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้รายได้จะลดลง แต่พอก้าวเข้าสู่ปี 2562 โซนี่ พิคเจอร์ส มั่นใจว่าจะกลับมามีรายได้ใกล้เคียงกับปี 2560 อีกครั้ง เพราะปีดังกล่าว จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องเข้าฉาย