posttoday

ไทยเบฟเดินตามเป้าวิชั่น 2020 ปูพรมเพิ่มรายได้ทุกหมวดสินค้า

23 พฤศจิกายน 2559

หลังจากออกมาประกาศแผนการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ 2020 เมื่อปี 2557 จากวันนั้นถึงวันนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ได้เดินตามวิสัยทัศน์ที่ได้ประกาศไปได้ครบ 1 ปี 9 เดือนแล้ว

โดย...จะเรียม สำรวจ

หลังจากออกมาประกาศแผนการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ 2020 เมื่อปี 2557 จากวันนั้นถึงวันนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ได้เดินตามวิสัยทัศน์ที่ได้ประกาศไปได้ครบ 1 ปี 9 เดือนแล้ว ซึ่งแผนการดำเนินงานทุกอย่างยังคงเดินไปตามขั้นตอนที่ได้เคยประกาศไว้ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าแอลกอฮอล์หรือนันแอลกอฮอล์ 

ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า จากวิชั่น 2020 ที่ได้ประกาศไว้เมื่อปี 2557 ขณะนี้บริษัทได้เดินมาถึง 1 ปี 9 เดือนแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ไปบริษัทก็จะเริ่มวางวิชั่นการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีที่เหลือแล้วว่าจะเดินไปในทิศทางไหน โดยในส่วนของธุรกิจหลักที่ทำบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศ ขณะเดียวกันก็จะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่างซีแอลเอ็มวี หรือกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ยังได้มีการปรับรอบบัญชีใหม่ จากเดิมจะใช้รอบบัญชีเหมือนปีปฏิทินปกติเป็นเริ่มต้นรอบบัญชีจากเดือน ต.ค.-ก.ย. โดยได้เริ่มรอบบัญชีใหม่ของปี 2560 ตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้มีความสะดวกต่อการบริหารจัดการองค์กร

ประภากร ทองเทพไพโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจสุรา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลุ่มสุราสีในปี 2560 นี้ ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดด้วยการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของตลาดต่างประเทศก็ยังคงมีการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีตลาดหลักอยู่ในประเทศอเมริกา เมียนมา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ทั้งนี้ ยังมีการเปิดตัวโซดาใหม่ ร็อค เมาเท็น เข้ามาช่วยขยายตลาดกลุ่มธุรกิจสุราสี ด้วยการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน พร้อมกันนี้ยังได้มีการปรับแผนการทำตลาดในส่วนของ เบลนด์ 285 ในเรื่องของรูปแบบและการใช้อินโนเวชั่นให้เหมาะสมกับการทำตลาด เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ขณะที่กลุ่มสุราสีเริ่มมีการปรับกลยุทธ์ในการทำตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มีการเติบโตมากขึ้น ในส่วนของกลุ่มธุรกิจเบียร์เองก็ได้มีการปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดเช่นกัน ด้วยการปรับภาพลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ใหม่โดยใช้ขวดสีเขียว พร้อมปรับโลโก้ให้มีความทันสมัย

เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจเบียร์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเบียร์ช้างให้อยู่ภายในขวดบรรจุภัณฑ์สีเขียว พร้อมกับนำนวัตกรรมมาปรับปรุงในตัวสินค้า เพื่อให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของเบียร์ช้างมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสอบถามไปยังกลุ่มผู้บริโภคก่อนที่จะมีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ผู้บริโภคมีความสนใจเบียร์ช้างเพียง 33% เท่านั้น ขณะที่เบียร์ลีโอมีความสนใจมากถึง 63% แต่หลังจากปรับโฉมใหม่เบียร์ช้างมีผู้บริโภคให้ความสนใจเพิ่มเป็น 60% ส่วนเบียร์ลีโอมีความสนใจอยู่ 36%

จากความสนใจในสินค้าที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายเบียร์ช้างปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปกติ และเริ่มมีส่วนแบ่งการตลาดปรับตัวขึ้นมาเป็น 38-39% จากเดิมมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 29-30% เท่านั้น ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดี คาดการณ์ว่าภายในปี 2020 หรือปี 2563 จะมีส่วนแบ่งการตลาดเบียร์ช้างเพิ่มขึ้นเป็น 46% ได้อย่างแน่นอน

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจกลุ่มเครื่องดื่มนันแอลกอฮอล์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเครื่องดื่มของโออิชิ หรือกลุ่มเครื่องดื่มของบริษัท เสริมสุข ซึ่งจะมีน้ำดื่มคริสตัล และน้ำอัดลมเอส เป็นสินค้าหลักในการทำตลาด

วิเวก ชาห์บรา กรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการวางตำแหน่งสินค้าเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ให้มีความเหมาะสม ส่วนแผนการทำธุรกิจรอบบัญชีใหม่ปีนี้บริษัทจะเน้นการขยายกำลังการผลิต เพื่อให้สินค้าเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

ดูจากแนวทางการทำธุรกิจที่ประกาศออกมาในแต่ละปี น่าจะทำให้มีรายได้รวมเติบโต 2 หลักตามวิชั่น 2020 ที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน