แดดดี้ จี สโม้ก & บริว นั่งชิลในร้านสุดเท่
เย็นย่ำวันศุกร์ทั้งที ขอมองหาร้านแฮงเอาต์เท่ๆ สักร้านเพื่อนั่งอินกับบรรยากาศยามค่ำคืนที่ไม่ต้องเร่งรีบมากนักสักหน่อย และแดดดี้ จี สโม้ก & บริว
โดย อีตติง อาร์ต ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์
เย็นย่ำวันศุกร์ทั้งที ขอมองหาร้านแฮงเอาต์เท่ๆ สักร้านเพื่อนั่งอินกับบรรยากาศยามค่ำคืนที่ไม่ต้องเร่งรีบมากนักสักหน่อย และแดดดี้ จี สโม้ก & บริว (Daddy G’s Smoke & Brew) ร้านอาหารตะวันตกสไตล์อินดัสเทรียล วินเทจ ย่านพระราม 9 ก็ถือเป็นร้านใหม่ที่น่าแวะมาเช็กอินในค่ำคืนที่อากาศเป็นใจอย่างนี้ซะจริงๆ
ประเสริฐ ศรีตะบวรไพบูลย์ เจ้าของร้านเผยว่า สไตล์การตกแต่งร้านได้นำโครงสร้างของสถาปัตยกรรมในปี 1950 มาประยุกต์ให้ดูร่วมสมัย ผสมผสานกลิ่นอายความคลาสสิกในแบบร้านอาหารตะวันตก การตกแต่งภายในเน้นการเลือกใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความเท่อย่างไม้ อิฐ และเหล็ก พร้อมทั้งเพิ่มความคลาสสิกด้วยหลอดไฟเอดิสันวินเทจ ที่ให้แสงสีส้ม จึงให้บรรยากาศที่เหมาะกับการแฮงเอาต์ในช่วงวันหยุด หรือจะพาครอบครัวมานั่งรับประทานอาหารฟังดนตรีสด ก็ได้เช่นกัน
อาหารที่ร้านขึ้นชื่อในเรื่องเมนูรมควัน ไม่ว่าจะเป็นซี่โครงหมู ซี่โครงวัว หรือเสือร้องไห้ ซึ่งล้วนแต่คัดสรรเนื้อชนิดพิเศษจากสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคเนื้อวากิว จ.สุรินทร์ ที่นำมาปรุงด้วยเครื่องเทศพิเศษสูตรลับเฉพาะของทางร้าน และนำมารมควันในอุณหภูมิต่ำเป็นเวลานานถึง 18 ชั่วโมง เพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่มลิ้นละลายในปาก แต่ยังคงความชุ่มฉ่ำ โดยเลือกใช้ไม้ชนิดพิเศษมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบการรมควัน ทำให้ได้กลิ่นควันอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ทางร้านยังเอาใจคนรักอาหารไทยด้วยสองเมนูฟิวชั่นอย่าง “ไส้หมูรมควัน” ที่ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงสูตรพิเศษ ก่อนนำไปรมควันแบบฝรั่ง เสิร์ฟพร้อมกับซาวเคราท์ หรือกะหล่ำปลีดองที่ออกรสเปรี้ยวๆ เค็มๆ จึงให้รสชาติที่เข้ากันเป็นอย่างดี
อีกเมนูที่พลาดไม่ได้คือ “ลิ้นวัวรมควัน” ที่เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด กินแล้วสัมผัสได้ถึงลิ้นวัวนุ่มๆ แต่มีความแซ่บจากน้ำจิ้มแจ่วสอดแทรกอยู่ หรือจะเป็นเมนูยอดฮิตขายดีประจำร้านอย่าง “ลาบสองทวีป” ที่นำเนื้อปลาแซลมอนและกุ้งมาผสม
เครื่องลาบแบบไทยๆ จนได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อมลงตัว
ที่สำคัญทางร้านยังขึ้นชื่อในเรื่องการคัดสรรและบ่มเนื้ออีกด้วย โดยเนื้อวัวที่ใช้มีทั้งจากที่เลี้ยงในประเทศ และนำเข้ามาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวสายพันธุ์แบล็กแองกัสจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ให้รสชาติเนื้อที่นุ่มนวลหอมอร่อย และจัดเป็นเนื้อคุณภาพเยี่ยมของโลก
หรือจะเป็นเนื้อวัวสายพันธุ์ทาจิมะ วางุ จากประเทศญี่ปุ่น ที่นำมาบ่มเพื่อเพิ่มรสชาติให้เนื้อโดดเด่นขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษ Dry Aging รวมไปถึงเมนูเรียกน้ำย่อยอย่างซีซาร์สลัด และสไปซี่คาโบนาร่า ที่เสิร์ฟพร้อมกับไข่ออนเซน ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกเพียบ (ราคาเมนูเริ่มที่ 150-8,000 บาท) และทุกวันอังคารจะมีบาร์บีคิวเนื้อสัตว์ต่างๆ และซีฟู้ด ซึ่งคลุกเคล้าผงพริกหม่าล่าเตรียมไว้บริการด้วย (ราคาไม้ละ 20 บาท)
นอกเหนือจากเมนูอาหารแล้ว ทางร้านยังตอบโจทย์ผู้ที่ชอบดื่มเบียร์ได้ตรงใจ เพราะที่นี่มีเบียร์สดให้เลือกดื่มมากถึง 17 แท็บ ทั้งเบียร์คราฟต์นานาชาติและเบียร์คราฟต์ไทย แต่ที่พิเศษสุดคงหนีไม่พ้น “Yaksa” Pale Ale คราฟต์เบียร์ฝีมือคนไทยซึ่งเป็นแบรนด์ของทางร้านเอง แล้วยังมีเครื่องดื่มที่สร้างความสดชื่น เช่น Lemon CucumberInfused Water และ Watermelon Slush ไว้เป็นตัวเลือกให้กับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย
แดดดี้ จี สโม้ก & บริว อยู่ที่ชั้นจีโรงแรมออนนิกซ์ โฮเทล แบงค็อก (Onyx Hotel Bangkok) ซอยพระรามเก้า 53 เปิดบริการทุกวัน 11.00-24.00 น. (เมนูรมควันเริ่มเสิร์ฟ 17.00 น.) ดูข้อมูลได้ที่ FB : Daddy G’s Smoke & Brew หรือโทร.02-118-3422, 09-3059-2713 และ 06-3231-2411


