posttoday

ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ บาลานซ์การใช้ชีวิตให้ลงตัว

05 กรกฎาคม 2560

น้องสาวคนสวยของนักแสดงสาวชื่อดัง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ -- แจนนิส-ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ สาวเก่งมากความสามารถวัย 31 ปี

โดย...ภาดนุ ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

น้องสาวคนสวยของนักแสดงสาวชื่อดัง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ -- แจนนิส-ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ สาวเก่งมากความสามารถวัย 31 ปี ผู้รั้งตำแหน่ง Central Portfolio Management & Marketing จากบริษัทเอสซีจี (SCG) เรามาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นดีกว่า

“แจนเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบก็สมัครเข้าทำงานในบริษัทเอสซีจี ในฝ่ายเอสซีจี เทรดดิ้ง ดูแลการซื้อขายระหว่างประเทศอยู่ 4 ปี จากนั้นจึงขอทุนไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาบริหารการค้าปลีก (Retail Management) มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ ประเทศอังกฤษ พอจบโทก็กลับมาทำงานที่เอสซีจีอีกครั้งค่ะ

หน้าที่ในเรื่องงานที่แจนต้องรับผิดชอบก็คือ ดูแลบริหารพอร์ตสินค้าและผลิตภัณฑ์ในร้านเอสซีจี ซึ่งบริษัทลงทุนเปิดเองเป็นร้านแรกในตัวเมือง จ.พิษณุโลก ว่าทำอย่างไรถึงจะขายสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างให้ได้กำไร หรือทำให้เกิดการหมุนเวียนสินค้าในร้านได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสินค้าในร้านส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ของเอสซีจีทั้งหมด อาทิ ซีเมนต์ เหล็ก หลังคา ฯลฯ หากสินค้าตัวไหนขายดี เราก็จะนำมาขายให้ได้ยอดขายสูงๆ รวมทั้งสินค้าบางอย่าง แม้ไม่ได้อยู่ภายใต้แบรนด์ของเอสซีจี เราก็จะนำมาขายด้วยเช่นกัน แล้วจะคอยติดตามดูว่าวัสดุแบบไหนขายดี ทำรายได้ดี หรือสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้านได้มาก เราก็จะโปรโมทวัสดุหรือสินค้านั้นเยอะหน่อย”

ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ บาลานซ์การใช้ชีวิตให้ลงตัว

แจนบอกว่า ร้านนี้ถือเป็นร้านต้นแบบของร้านค้าวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรแห่งแรกของเอสซีจีเลยก็ว่าได้ ซึ่งบริษัทถือว่าเป็นการทดลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากการเป็นตัวแทนขายส่งวัสดุก่อสร้างให้กับร้านค้าวัสดุในท้องถิ่นเท่านั้น

“ที่ร้านนอกจากขายวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรแล้ว ยังมีการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า มีบริการติดตั้ง ฯลฯ ซึ่งจะคล้ายกับว่าร้าน SCG Experience ไปตั้งอยู่ที่ตัวเมืองพิษณุโลกเลยละ โดยร้านเปิดไปเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2559 จึงถือว่าเป็นโปรเจกต์ใหม่ที่แจนได้รับโอกาสในการเข้ามาดูแลบริหารร้านเลยก็ว่าได้ โดยมีโจทย์ว่าแจนจะต้องผลักดันโปรเจกต์นี้ให้เกิดให้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับแจน

นอกจากจะต้องดูว่าวัสดุตัวไหนขายดีแล้ว ยังต้องลงไปสำรวจดูด้วยว่า คนในพื้นที่ของพิษณุโลกต้องการอะไร หรืออยากได้วัสดุอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งจุดแข็งของร้านเราก็คือ มีสินค้าที่หลากหลาย
บวกกับบริการออกแบบและติดตั้งให้ฟรี ซึ่งเราเต็มใจทำให้ลูกค้า และรับประกันความพอใจอีกด้วย ดังนั้นลูกค้าที่เข้ามาในร้านจะได้รับบริการตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว”

แจนบอกว่า ช่วงแรกๆ ที่เปิดร้านเธอต้องบินไปที่พิษณุโลกอยู่บ่อยๆ โดยต้องไปเช็กฟีดแบ็กทุกอย่าง ว่าวัสดุประเภทไหนขายดี ประเภทไหนขายไม่ดี ลูกค้าที่นั่นชอบร้านและบริการหรือเปล่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สนุกสำหรับเธอ

ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ บาลานซ์การใช้ชีวิตให้ลงตัว

“แจนคิดว่าความท้าทายสำหรับงานนี้ อยู่ตรงที่เอสซีจีไม่เคยทำโปรเจกต์โดยเปิดร้านวัสดุค้าปลีกเองมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บริษัทลงทุนเอง จึงเป็นหน้าที่ของแจนที่จะต้องทำให้ร้านนี้ไปรอด มียอดขายวัสดุเพิ่มขึ้น มีรายรับเข้ามาหล่อเลี้ยงพนักงานทั้งร้านให้อยู่ได้ เพราะถ้ารายได้จากการขายสินค้าครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วเหลือกำไรนิดหน่อย ก็ถือว่าร้านอยู่ได้ค่ะ

อีกส่วนหนึ่งคือการสร้างการรับรู้ของลูกค้าหรือผู้คนในพื้นที่ ว่าจะทำยังไงให้แบรนด์เอสซีจีเป็นที่รู้จักให้ได้มากที่สุด ด้วยความที่เป็นโปรเจกต์ใหม่ แจนจึงเริ่มต้นจากศูนย์ ตั้งแต่คิดว่าจะนำวัสดุประเภทไหนเข้ามาขายในร้าน และควรมีสัดส่วนเท่าไร เพราะพื้นที่ในร้านกว้างมากถึง 6,000 ตร.ม. มีลานจอดรถที่ใหญ่มาก จึงถือว่าเป็นภารกิจที่ยากอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมีโอกาสได้ทำโปรเจกต์นี้ ทางทีมเราจึงต้องทำให้เต็มที่ค่ะ”

แจนเสริมว่า ตั้งแต่เธอเรียนปริญญาตรีด้านวิศวฯ อยู่ที่จุฬาฯ เธอก็ได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรของเอสซีจีแล้วว่า น่าจะเหมาะกับเธอมากที่สุด

“ที่แจนคิดว่าเหมาะกับตัวเอง เพราะเอสซีจีมักจะให้โอกาสนักศึกษาที่เรียนดี แล้วที่นี่ยังสนับสนุนในเรื่องของทุนการศึกษาต่อปริญญาโทด้วย เมื่อเรียนจบปริญญาตรีแจนจึงสมัครเข้ามาทำงานที่นี่ จากนั้นจึงขอทุนไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารร้านค้าปลีกอย่างที่บอกไป แล้วพอเรียนจบกลับมาทำงาน ผู้บริหารก็ให้โอกาสในการริเริ่มทำโปรเจกต์ใหม่ๆ อีก

ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ บาลานซ์การใช้ชีวิตให้ลงตัว

แจนจึงคิดว่าเอสซีจีเป็นบริษัทที่ดีมากๆ ในหลายด้าน ทั้งให้โอกาสคนรุ่นใหม่ที่เก่งๆ ได้ทำงานแบบไม่เครียดเกินไป เราจึงสามารถบาลานซ์การทำงาน และการใช้ชีวิตของตัวเองได้เป็นอย่างดี อีกอย่างสถานที่ทำงานอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีผู้ร่วมงานที่ดี ซึ่งก่อนหน้านี้แจนก็เคยทำงานแผนกอื่นของเอสซีจีมาก่อน จึงทราบดีว่าที่นี่มีความก้าวหน้า เจ้านายเปิดกว้าง ถ้าอยากจะทำโปรเจกต์ใหม่ๆ ก็สามารถปรึกษาได้ตลอดเวลา แจนคิดว่าตัวเองเลือกองค์กรที่ถูกต้องแล้ว เพราะที่นี่ให้โอกาสเราแสดงความสามารถได้เต็มที่แบบไม่ตีกรอบความคิดคนทำงาน ซึ่งบอกได้เลยว่าตัวเองเลือกถูก ทำงานแล้วแฮปปี้มากค่ะ”

สาวเก่งบอกว่า สำหรับคนรุ่นใหม่เจเนอเรชั่นวาย ที่อยากจะเข้ามาร่วมงานกับเอสซีจี ข้อแรกให้ถามตัวเองก่อนว่า ตำแหน่งงานที่นี่เป็นงานที่เราชอบไหม ถ้าใช่ก็ให้พยายามเลือกงานที่ตัวเองชอบเป็นอันดับแรกและพยายามให้เต็มที่

“แจนว่าการทำงานอะไรก็ตาม ถ้างานนั้นคือสิ่งที่เราชอบ เราก็จะอินกับมัน ทำงานแล้วสนุก แม้แต่เสาร์-อาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดก็อยากทำงานนั้น มันเหมือนกับว่าเราได้เล่นสนุกอยู่ตลอดเวลา ส่วนเหตุผลข้อสอง การเลือกที่ทำงานก็เหมือนกับการเลือกบ้านที่อยู่อาศัย แจนมองว่าบริษัทก็เปรียบเสมือนบ้านดังนั้นคนทำงานจึงต้องเลือกให้ถูกที่ถูกทาง เพราะถ้าไปเลือกองค์กรที่ไม่เปิดกว้างทางความคิด เลือกสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีก็จบ เพราะเราจะไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองคิด หรืออยากนำเสนอสิ่งที่ดีๆ สิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นได้

ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ บาลานซ์การใช้ชีวิตให้ลงตัว

แต่ถ้าได้องค์กรที่ดี เราก็จะได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ อยู่เสมอ เหมือนอย่างที่เอสซีจีส่งไปเรียนหรือไปอบรมเสริมความรู้และศักยภาพอยู่ตลอด ตัวแจนจึงเหมือนกับได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ทั้งเรียนรู้จากหน้าที่ที่เรารับผิดชอบด้วย และที่องค์กรส่งไปเรียนด้วย เรียกว่าได้เรียนรู้แบบไม่มีสิ้นสุด”

แจนบอกอีกว่า องค์กรที่ดีต้องส่งเสริมให้คนทำงานมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็จะนำมาซึ่งชื่อเสียงขององค์กรในอนาคต และยังช่วยดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของคนทำงานออกมาได้อีกด้วย

“แจนวางอนาคตในเรื่องการทำงานไว้ว่า จะทำงานกับเอสซีจีไปอีกนานๆ และนำความรู้ความสามารถที่เราได้รับมาจากการเรียนรู้และการทำงาน ไปเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าให้มากยิ่งขึ้น แจนอยากให้องค์กรนี้อยู่ไปได้อีกนานๆ และทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยไปเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันนี้เอสซีจีก็อยู่มาได้ 104 ปีแล้ว คาดว่าองค์กรน่าจะเติบโตควบคู่ไปกับคนทำงานในเจนใหม่ๆ และเติบโตไปในอนาคตได้อย่างรุ่งเรือง

ชาลิสา เทียนโพธิ์สุวรรณ บาลานซ์การใช้ชีวิตให้ลงตัว

สำหรับทัศนคติในการทำงาน โดยส่วนตัวแจนจะมีหลักง่ายๆ คือ เวลาทำงานก็ทำเต็มที่ เวลาพักผ่อนหรือเล่นก็เล่นเต็มที่ พูดง่ายๆ ว่าใช้ชีวิตให้คุ้มค่าทุกวินาทีน่าจะดีที่สุด (ยิ้ม) อย่างวันทำงานจันทร์-ศุกร์ แจนก็จะยุ่งจริงๆ แต่พอเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุด แจนก็จะสวิตช์ออฟจากงานไปเลย เพราะไม่อยากให้เวลางานมากินเวลาที่เราควรพักผ่อนเลยค่ะ”

แจนทิ้งท้ายว่า สำหรับวันว่างเธอมักจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส ไนน์วันวัน บาย เจที (911 by JT) ซึ่งเจนี่พี่สาวเธอเป็นเจ้าของ ส่วนใหญ่แล้วจะไปเข้าคลาสเต้นซุมบ้าและเข้าคลาสชกมวย

“บางครั้งแจนก็นัดไปเจอกับเพื่อนๆ ที่ฟิตเนสบ้าง ถ้าช่วงไหนมีเวลาว่าง ก็จะลาพักร้อนแล้วนัดกันไปเที่ยวสไตล์โรดทริปที่ต่างประเทศกับเพื่อนๆ ตอนนี้จึงถือว่าแจนสามารถบาลานซ์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว และน่าพอใจแล้วละค่ะ”

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025