การกลับมาของ ‘เครื่องประดับผม’
....สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
แฟชั่นเครื่องประดับผมมีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ก่อนยุคคริสตกาล ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณหรืออาจเก่าแก่ยิ่งกว่านั้น การกำเนิดของเครื่องประดับผมยังไม่มีใครทราบ แต่ในทางประวัติศาสตร์มีการพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการทรงผม อุปกรณ์การทำผมสุดฮิต ก็คือ ปิ่นปักผม เช่นการค้นพบหลักฐานที่ว่าผู้หญิงกรีกและโรมัน ใช้ปิ่นปักผมลักษณะเหมือนเข็มด้ามตรงยาวเป็นเครื่องประดับรูปร่างของปิ่นปักผมนี้ถอดแบบมาจากกระดูกสันหลังของสัตว์และไม้มีหนาม ซึ่งคนยุคดั้งเดิมใช้เหน็บผม และพวกชนเผ่าต่างๆ ในยุคปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่
ในเอเชียก็มีการขุดค้นพบปิ่นปักผมเป็นจำนวนมาก มีทั้งที่ทำขึ้นจากกระดูก เหล็ก สำริด เงิน และทอง บางอันเรียบ บางอันสลักลวดลาย แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ปิ่นปักผมเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า รูปทรงของปิ่นปักผมไม่เปลี่ยนแปลงเลยในช่วงเวลานับหมื่นปี
ปิ่นปักผมตรงยาวได้วิวัฒนาการมาเป็นกิ๊บติดผมรูปตัวยูในช่วงเวลา 2 ศตวรรษ ในช่วงแฟชั่นสวมวิกในศาลฝรั่งเศสสมัยศตวรรษที่ 17 ทำให้คนจำเป็นต้องตัดผมสั้น หรือไม่ก็เก็บผมให้ติดกับศีรษะมากที่สุด กิ๊บติดผมจึงกำเนิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่ คือ หนึ่งตรึงวิกไม่ให้หลุดจากศีรษะ และสองเก็บผมให้เรียบร้อยดูดีเมื่อถอดวิกออก
เมื่อกิ๊บตัวเล็กสองขาทำจากลวดเหล็กชุบสีดำ ผลิตขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสันในศตวรรษที่ 19 กิ๊บดำก็ทำให้ปิ่นปักผมกลายเป็นของล้าสมัยตั้งแต่นั้นมา
อย่างไรก็ตาม ก็มีเครื่องประดับผมแบบใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 1719 ที่ประเทศแถบยุโรป ได้แก่ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สกอตแลนด์ เดนมาร์ก ฯลฯ ผู้คนสมัยนั้นต่างนิยมทำผมทรงสูงและสวมใส่วิกกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบุคคลในแวดวงชั้นสูง
การสวมวิกนอกจากจะเป็นการแบ่งชนชั้นทางสังคมแล้ว การตกแต่งทรงผมของแต่ละคนให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สวยงาม และมีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น ก็เป็นเรื่องที่คนในยุคนั้นต่างคิดสร้างสรรค์ประดิดประดอย หยิบนั่นผสมนี่ จนกลายเป็นเครื่องประดับมากมาย อาทิ มงกุฎ เทียร่า รัดเกล้า ผ้าพันผม ปิ่นปักผม รวมทั้งหวีที่ใช้ตกแต่งผม
เครื่องประดับผมในยุคแรกๆ นั้นทำอย่างง่ายๆ จากวัตถุดิบที่หาง่ายทั่วไปอย่าง ขนนก ดอกไม้ และเริ่มที่จะนำอัญมณีเข้ามาใช้หากเป็นเครื่องประดับของชนชั้นสูง ซึ่งนิยมใช้เพชรเป็นหลักและเสริมความงามด้วยไข่มุกเม็ดเล็กๆ ให้ดูอ่อนหวาน รูปทรงส่วนใหญ่ของเครื่องประดับมักเลียนแบบมาจากธรรมชาติ เช่น ดอกไม้หรือเถาวัลย์
แฟชั่นเครื่องประดับผมโดยเฉพาะการใช้กิ๊บ หรือที่ติดผมขนาดใหญ่ค่อยๆ ซาลงไปพร้อมๆ กับแฟชั่นทรงผมสั้นที่มาแรงแทนในยุคหลังๆ การใช้ที่คาดผม ผ้าคาดผม กิ๊บ หรือหวีประดับค่อยๆ จางหายไป มีบางคนที่ยังชื่นชอบและใช้กันบ้างแต่ไม่ได้แพร่หลายเช่นแต่ก่อน
กระทั่งขณะนี้แฟชั่นเครื่องประดับผมกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เห็นได้จากแฟชั่นของเซเลบริตีทั้งหลายที่ใช้ที่ติดผมขนาดใหญ่ ที่คาดผมไซส์ XL แต่ที่แตกต่างและโดดเด่นจากแต่ก่อน คือการนำดอกไม้ขนาดใหญ่สีสดๆ มาผสมผสานอย่างลงตัว
แต่ทั้งนี้ถ้าเลือกที่จะใช้กิ๊บหรือที่คาดผม รวมทั้งเครื่องตกแต่งผมที่โดดเด่นแล้ว อย่าลืมว่าเครื่องประดับอย่างต่างหูวงใหญ่ก็ไม่ควรใส่ เปลี่ยนเป็นกำไลข้อมือเก๋ๆ หรือสร้อยมุกเส้นยาวจะน่ารักกว่า


