107 ปี ไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยแห่งแรก
ธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่งเปิดตัวไอคอนิก บรานช์ (Iconic Branch) แห่งใหม่ ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
โดย...พุสดี
ธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่งเปิดตัวไอคอนิก บรานช์ (Iconic Branch) แห่งใหม่ ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นสาขาลำดับที่ 1,182 ของธนาคาร ซึ่งมีความโดดเด่นแตกต่างจากสาขาปกติ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้านการดีไซน์ภายใต้คอนเซปต์ “The Heritage of Trust” ที่ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการส่งต่อประวัติศาสตร์ และเรื่องราวความเชื่อมั่นด้านการให้บริการทางการเงินกว่า 107 ปี ของธนาคารไทยแห่งแรกของประเทศ สู่โฉมใหม่ของการให้บริการทางการเงินในยุคปัจจุบันและการก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง
ด้วยศิลปะการออกแบบภายในสไตล์โบซาร์ตส์ (Beaux Arts) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสำนักงานใหญ่แห่งแรกของธนาคารที่ตลาดน้อย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เคาน์เตอร์ไม้จำลองรูปแบบดั้งเดิม และตู้เอทีเอ็มซึ่งกลายมาเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะตัวที่มีเพียงที่สาขานี้เท่านั้น ก็ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมตะวันตกในยุคนั้นเช่นกัน
ปี 2449 ประวัติศาสตร์หน้าแรกของธนาคารไทยพาณิชย์ สถาบันการเงินแห่งแรกของชาวสยาม เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2447 ในนาม “บุคคลัภย์” โดย พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย (พระบิดาแห่งการธนาคารไทย) ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระทัยอย่างแน่วแน่ ที่จะให้มีสถาบันการเงินของสยามเป็นฐานรองรับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจการเงินของประเทศ จากการที่โลกตะวันตกได้ขยายเส้นทางการค้าทางทะเลมาสู่ดินแดนสยามเป็นอย่างมากในยุคนั้น โดยใช้อาคารของกรมพระคลังข้างที่ ต.บ้านหม้อ เป็นสำนักงาน
กิจการทดลองประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้ตั้งเป็นธนาคารในนาม บริษัท แบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด ในปี 2449 ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์อย่างเป็นทางการ และได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราอาร์มแผ่นดิน เป็นตราประจำบริษัท นับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกของไทยที่กลายมาเป็น “ต้นแบบธนาคารไทย” ในปัจจุบัน
ปี 2448 บุกเบิกการให้บริการเช็คไทย โดยออกเช็คเป็นภาษาไทยทั้งหมดเป็นครั้งแรก เพื่อความสะดวกของผู้ใช้เช็คชาวไทย รวมถึงการให้บริการระบบเงินฝากเดินสะพัดอีกด้วย
ปี 2451 แบงก์สยามกัมมาจล ย้ายที่ทำการมาอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่ ต.ตลาดน้อย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตั้งอยู่ในย่านธุรกิจสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ในยุคสมัยนั้น โดยได้ชาวอิตาเลียนซึ่งเป็นช่างประจำของกรมพระคลังข้างที่เป็นผู้ออกแบบ และให้ห้างยีครูเซอร์ ซึ่งเป็นของชาวเยอรมันเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ออกมาเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว โดดเด่นและสง่างามอยู่เหนือฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตราบจนปัจจุบัน โดยได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยาม และได้รับประกาศจากทางการให้เป็นตึกที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการธนาคารไทย
ปี 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิก ตราอาร์มแผ่นดิน เปลี่ยนมาเป็น ตราครุฑพ่าห์ จึงเป็นธนาคารที่ใช้ตราครุฑพ่าห์เป็นแห่งแรก และเป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้ข้อความกำกับด้านล่างครุฑว่า ตั้งโดยพระบรมราชานุญาต เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากธนาคารและกิจการค้าอื่นๆ ที่มีข้อความ โดยได้รับพระบรมราชานุญาต
ปี 2463 ธนาคารได้วางรากฐานพัฒนาระบบสาขาสู่ภูมิภาค โดยได้จัดตั้งสาขาธนาคารในต่างจังหวัดสาขาแรกที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการขยายการเดินรถไฟภาคใต้
ปี 2470 ภาคเหนือขาดแคลนเงินบาท ประชาชนต้องใช้เงินพม่าเป็นส่วนใหญ่ ธนาคารจึงไปเปิดสาขาที่ จ.เชียงใหม่
ปี 2482 เปลี่ยนชื่อจาก แบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด เป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ราชอาณาจักรไทย”
ปี 2514 ธนาคารไทยพาณิชย์สร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่มุมถนนเพชรบุรีตัดใหม่และชิดลม ตำนาน 65 ปีของสำนักงานใหญ่ตลาดน้อย เปลี่ยนฉากจากความโอ่อ่าคลาสสิกสู่ความทันสมัย ณ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี่เอง
ปี 2522 ธนาคารเริ่มก่อตั้งและพัฒนาเครือข่ายสาขา/สำนักงานต่างประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป โดยสำนักงานตัวแทนนิวยอร์กในมหานครนิวยอร์ก เป็นสาขาแรกที่เปิดดำเนินการในต่างประเทศ
ปี 2526 ธนาคารไทยพาณิชย์ริเริ่มนำบริการเงินด่วนเอทีเอ็ม (ATM) มาให้บริการเป็นรายแรก
ปี 2539 ธนาคารย้ายสำนักงานใหญ่จากชิดลม ไปยังเอสซีบี พาร์ค พลาซ่า อาคารอัจฉริยะแห่งแรกๆ ของประเทศ ใกล้แยกรัชโยธิน เป็นตึกแรกที่ออกแบบสำหรับรับแผ่นดินไหว และวางขอบเขตไว้ไม่ให้เกิดปัญหาไปทำให้บ้านเรือนข้างเคียงเสียหาย
ปี 2542 เปิดบริการ SCB Easy Net โดยเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่นำเสนอบริการทางอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจร
ปี 2556 มุ่งหน้าสู่การเป็น ผู้นำธนาคารแห่งอนาคต (Future Banking) พัฒนารูปแบบการให้บริการทางการเงินด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว “UP2ME” การเงินสไตล์ใหม่ที่นอกจากตอบสนองความต้องการด้านการเงินแล้ว ยังเปลี่ยนมุมมองพร้อมสร้างเทรนด์ใหม่ด้านการเงินในกลุ่มคนยุคดิจิทัลอีกด้วย
พ.ศ. 2557 ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้วยเครือข่ายสาขาและตู้เอทีเอ็มที่มากที่สุดในประเทศไทย


