posttoday

ดอนญ่า (ใบต่างดอก) (2)

06 กรกฎาคม 2557

ดอนญ่าไม่ว่าจะเป็นดอกแดงหรือดอกขาว ดอกชมพู ควรได้รับการดูแลตัดแต่งกิ่งเป็นประจำทุกปี

โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม

ดอนญ่าไม่ว่าจะเป็นดอกแดงหรือดอกขาว ดอกชมพู ควรได้รับการดูแลตัดแต่งกิ่งเป็นประจำทุกปี นอกเหนือจากการปรับปรุงบำรุงดิน เช่น การใส่ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักเพิ่มเติม การดูแลรักษาโรคแมลงซึ่งชุกชุมในเขตร้อนชื้น เช่น เพลี้ยแป้ง ซึ่งชอบแอบอาศัยใต้ใบดูดกินน้ำเลี้ยง เพลี้ยหอยพบตามกิ่ง ดูดกินน้ำเลี้ยงและแพร่พันธุ์ได้รวดเร็ว ต้นใบต่างดอกหรือดอนญ่านั้นชอบการตัดแต่งกิ่งให้สูงกว่าระดับดินประมาณ 50 ซม. โดยตัดในระยะต้นฤดูฝน สำหรับการปลูกดอนญ่าเป็นไม้กระถางหรือไม้ดอกในภาชนะขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะแก่การตั้งประดับในบริเวณเฉลียงหน้าบ้าน แมลงศัตรูดอนญ่าที่กล่าวไปแล้วคือ เพลี้ยหอย สามารถกำจัดได้โดยการใช้ไวท์ออยล์ (White oil) ฉีดพ่นให้ตามอัตราที่แนะนำไว้ข้างภาชนะบรรจุ แต่ถ้าละเลยเป็นเวลานานอาจต้องใช้การตัดแต่งกิ่งอย่างหนักจนเหลือแต่ตอไม้เนื้อแข็ง สูงพื้นราวหนึ่งฟุตเท่านั้น

ในฉบับที่แล้ว กล่าวถึงเรื่องของดอนญ่าดอกแดง (Mussaenda Erythrophylla) ไปบ้างแล้ว ฉบับนี้จะกล่าวถึงดอนญ่าชนิดอื่นต่อไป

มุสซาเอนดานี้เป็นสกุลที่เราพบเป็นไม้ป่าในเมืองไทยและมาเลเซียก็จริง แต่สามชนิดที่ปลูกกันอยู่ในกรุงเทพฯ กลับหาดูต้นที่สวยงามสมบูรณ์ได้ค่อนข้างยาก ทั้งนี้เนื่องจากขาดการบำรุงรักษานั่นเอง ดูเหมือนเราจะขาดหน่วยงานที่เอาจริงเอาจังกับการปลูกดูแลรักษาต้นไม้ ในหน่วยงานกองสวนของ กทม. หรือหน่วยงานอื่นใดของกระทรวงเกษตรฯ ก็ตาม ต่างจากประเทศเพื่อนบ้านที่ดูเหมือนเราอยากจะเข้าร่วมวงไพบูลย์กับเออีซีเหลือเกิน ดอนญ่าป่าราวสิบกว่าชนิดที่พบได้ในเมืองไทยล้วนแต่มีขนาดดอกและใบประดับเล็กเป็นส่วนใหญ่ แต่มีดอนญ่านำเข้าชื่อ “ช่อสุวรรณ” ซึ่งเป็นที่เรียกกันในกรุงเทพฯ ดอนญ่าชนิดนี้คือ M.flava ซึ่งเป็นชื่อพ้องของ M.luteola ซึ่งให้พูกลีบเลี้ยง (Calyx Lobe) ขนาดใหญ่มากและออกสีครีมสวยงามดูเหมือนพบเป็นไม้ป่าอยู่ในมาเลเซีย อย่างไรก็ตามดอนญ่าจากฟิลิปปินส์ที่เข้าสู่ประเทศไทยจะมีพูกลีบเลี้ยงขนาดใหญ่ 2 x 3 นิ้ว ทำให้ไม้ดอกเหล่านี้ดูสวยงามแปลกตา เหมาะที่จะเลี้ยงเป็นไม้กระถาง ซึ่งดูแลได้ง่ายกว่าปลูกลงสวนเสียด้วยซ้ำ

ดอนญ่า (ใบต่างดอก) (2)

 

ดอนญ่าออโรรา (Mussaenda Philippica var. Dona Aurora) แพร่พันธุ์เข้าจากฟิลิปปินส์เข้ามาในสิงคโปร์ เมื่อปี พ.ศ. 2496 และเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2500 และกลายเป็นไม้ดอกที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปในหลายจังหวัดในประเทศไทย ดอนญ่าออโรรานี้เราพบว่ามันเป็นไม้ป่าอยู่ในแถบเทือกเขามาคิลิง (Mt.Makiling) ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตร (U.P.Los Bunos) ที่ออสบันโยส ซึ่งมีนักเรียนไทยไปเรียนกันอยู่มากมายทีเดียว ชาวฟิลิปปินส์บางคนกล่าวว่ามันเป็นไม้กลายพันธุ์ โพลีพลอยด์ของ M.philippica แม้ชาวฟิลิปปินส์จะปลูกกันทั่วประเทศ แต่รู้จักกันน้อยในประเทศอื่น จนกระทั่งเข้ามาในสิงคโปร์ มาเลเซีย สู่ประเทศไทยในที่สุด คนไทยตั้งชื่อดอนญ่าชนิดนี้ว่า “คุณหญิงอรุณขาว” หรือดอนญ่าขาว แต่ดูเหมือนไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะผู้คนยังเรียกว่าดอนญ่าออโรรามากกว่า

ดอนญ่าดอกขาวแปลกอยู่ที่กลีบรองทุกลีบขยายตัวขึ้นจนมีขนาดใหญ่สะดุดตา กลีบรองซึ่งดูเหมือนกลีบดอกขนาดใหญ่นี้มีลักษณะคล้ายใบมากกว่าดอก จึงได้ชื่อในภาษาไทยว่า “ใบต่างดอก” มีสีขาวเจือ สีเขียวอ่อน ส่วนปลายวงกลีบดอกมีรูปร่างคล้ายดาว 5 แฉกสีส้มขึ้นโดดเด่น

ดอนญ่า “ควีนสิริกิติ์” เป็นลูกผสมดอนญ่าของฟิลิปปินส์ มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ดูคล้ายกลีบดอก ขนาด 5 x 7 ซม. โดนกลีบสีชมพูเข้มปลายกลีบสีอ่อน กลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอด (Corolla Tube) ปลายแยกเป็นรูปดาว 5 แฉก สีส้มอมเหลือง กลางกลีบมีลักษณะเป็นสัน ปลายกลีบแหลม

ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ เป็นลูกผสมที่เกิดขึ้นจากการใช้ M. (Dona Luz) ผสมกับ M.philippica var. Aurorae และผ่านการคัดเลือกพันธุ์จนได้ต้นดีที่สุด และขอพระราชทานพระนามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มาตั้งเป็นชื่อเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี พ.ศ. 2506 นับเป็นดอนญ่าที่สวยงามทรงคุณค่าที่สุดในปัจจุบัน

ดอนญ่า (ใบต่างดอก) (2)

 

พืชในสกุลมุสซาเอนดาในประเทศไทยมีหลากหลายไม่แพ้เพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือแม้แต่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นไม้ป่าที่ปราศจากการนำมาพัฒนาพันธุ์ บางชนิดเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย (Scanden Shrub) เช่น ต้นใบต่างดอก (M.angustifolia) พบในป่าดิบชื้นแถบยะลา ปัตตานี นราธิวาส ในหลายจังหวัดภาคเหนือ มีไม้ป่าชื่อ “แก้มอ้นสองสี” (M.calycina) เป็นไม้พุ่มขึ้นตามป่าละเมาะ ส่วนชายแดนไทยเขมร แถบ จ.ตราดและกาญจนบุรี มีไม้พุ่มรอเลื้อย เช่น M.cambodiana สำหรับชนิดที่กระจายพันธุ์ทั่วทุกภาคของไทย ได้แก่ M.cardifolia ซึ่งเรียกกันว่าต่างดอกหรือใบต่างดอก เช่นเดียวกับ M.glabra ซึ่งพบทางภาคใต้ มาเลเซีย

ไม้ป่าสกุลมุสซาเอนดาหรือดอนญ่านี้กำลังรอการพัฒนาพันธุ์เพื่อเป็นไม้ดอกพันธุ์ใหญ่ๆ สำหรับคนไทยในอนาคต

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี