ดื่มด่ำความงามกับภาพจิตรกรรมเอกของรัก ฐิติมา โอภาสวงการ
งานอดิเรกที่ลึกซึ้งและทรงคุณค่าของ ฐิติมาโอภาสวงการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนกลยุทธ์และการสื่อสาร
งานอดิเรกที่ลึกซึ้งและทรงคุณค่าของ ฐิติมาโอภาสวงการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนกลยุทธ์และการสื่อสารการตลาดให้กับแบรนด์ต่างๆ โดยเธอรั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท แบรนด์เอเชีย กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย แอนด์ คอมมูนิเคชั่นและอาจารย์มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ ประเทศไทย คือ การเก็บสะสมของโบราณอย่างมีรสนิยมให้สุนทรียภาพด้านการชมที่สวยงาม
เช่น รูปปั้นต่างๆ ไม่นับรวมภาพงานจิตรกรรมของบุคคลในวงการศิลปกรรมไทยที่มีชื่อเสียงอาทิ ถวัลย์ ดัชนี เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ปัญญาวิจินธนสาร ประทีป คชบัว ชูศักดิ์ อวโต และศิลปินชื่อก้องโลกอย่างเดเมียน เฮิร์ตส์ แอนดี้วอร์ฮอล์ มาร์ค ชากัล เป็นต้น อายุอานามบางภาพมากถึง 40 ปี ที่มาอยู่กับอาจารย์ฐิติมา ไม่นับรวมระยะเวลาที่ภาพอยู่กับศิลปินท่านนั้นๆอีก คอลเลกชั่นภาพจิตรกรรมส่วนตัวของฐิติมามีสะสมมากกว่า 100 ภาพ มีทั้งที่เก็บไว้ที่บ้านหลังสวยย่านบางนา ที่ทำงานของฐิติมาเอง และออฟฟิศของสามีอีกจำนวนหนึ่ง
ฐิติมาเล่าถึงแรงบันดาลใจของการเก็บสะสมภาพจิตรกรรมว่า เริ่มแรกมาจากความรักในงานศิลปะ เธอทำงานเกี่ยวกับโฆษณา แต่เป็นงานศิลปะด้านคอมเมอร์เชียลอาร์ต ซึ่งสมัยก่อนย้อนกลับไปเมื่อกว่า30 ปีที่แล้ว ผู้สร้างสรรค์ภาพโฆษณา ก็คือ ศิลปินที่จบจากรั้วศิลปากรฝีมือระดับรางวัลเหรียญทองหลายคน มาวาดภาพเป็นเรื่องราวจากคำบอกเล่าของอาร์ตไดเรกเตอร์ ผู้สร้างสรรค์งาน ได้แก่ ประทีป คชบัว ซึ่งวาดภาพอธิบายเรื่องราวของโฆษณาให้เจ้าของสินค้าชมอย่างน่าทึ่ง เช่น งานที่ฐิติมารู้สึกประทับใจมากๆ คือ การสร้างสรรค์งานอาร์ตบนกระจก พ่นสีบนกระจก เป็นต้น
"ตอนนั้นดิฉันทำงานบริษัทโฆษณาชื่อลินตัสกับโอกิลวี่ เป็นบริษัทโฆษณาอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ช่วงเวลานั้นคุณประทีปเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ อายุเพียง 20 กว่าๆ แต่คุณประทีปสร้างงานได้สวยงามมากๆ ดิฉันได้ซึมซับความงามของศิลปะจากตรงนั้น 15 ปีที่ดิฉันทำงานอยู่ในวงการโฆษณา ทำให้ได้คลุกคลีกับศิลปินมีชื่อเสียงมากๆ เช่น คุณบุญกว้าง นนท์เจริญ มีชื่อเสียงมากด้านสีน้ำ"
แต่นั่นคือ การสร้างงานแบบคอมเมอร์เชียลอาร์ต ที่ไม่มีมนต์ขลังเหมือนศิลปินสร้างงานจากแรงบันดาลใจที่อยู่ในจิตใจของพวกเขาอย่างแท้จริง แต่เมื่อประทีปและบุญกว้างกลับไปเป็นศิลปิน เธอรู้สึกชื่นใจเพราะศิลปินระดับฝีมือจะได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีจิตวิญญาณ ไม่ใช่การต้องผลิตงานศิลปะแบบเร่งด่วน โดยสร้างผลงานศิลปะเพื่อจรรโลงสังคมต่อไป
"คนที่รักงานศิลปะ มีจิตวิญญาณด้านศิลปะ เราอยากให้ไปทำงานสืบสานด้านนี้ต่อไป เรียกว่าคุณประทีปเป็นแรงบันดาลใจทำให้ดิฉันชอบงานศิลปะ งานที่คุณประทีปสร้างสรรค์ในฐานะวิชวลไลเซอร์เพื่อพรีเซนต์ดิฉันเก็บไว้หมด แต่น่าเสียดายที่น้ำท่วม ทำให้ภาพเสียหายทั้งหมด"
เมื่อฐิติมาซึมซับความงามของงานศิลปะแล้วสถานที่เธอเสพงานศิลป์อยู่บ่อยๆ คืออาร์ตแกลเลอรี่แห่งหนึ่งตรงอาคารเพลินจิตหรือโซโก้เก่า กินข้าวมื้อกลางวันเสร็จเธอชอบมายืนดูภาพจิตรกรรมของศิลปินอย่าง ประเทืองเอมเจริญ เพราะชื่นชอบตรงงานมีไอเดียที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ทำให้เธอได้เข้าใกล้งานศิลปะเข้าไปอีก
"ดิฉันชอบงานที่ศิลปินมีสไตล์เป็นของตัวเอง หรือถ้าไม่ใช่ที่ฝีแปรงก็ต้องที่ไอเดีย หรือแนวเส้นที่มีมูฟเมนต์ ดิฉันจึงชอบงานของอาจารย์ประเทืองที่มีกรรมวิธีการใช้สี ใช้แปรงที่น่าทึ่ง ยืนดูทุกวันแต่ไม่มีโอกาสได้ซื้อ เพราะราคาค่อนข้างสูง แต่ดิฉันได้ภาพหนึ่งมาจากแกลเลอรี่แห่งนี้ คือภาพผู้หญิง ราคาไม่ค่อยแพงนัก เป็นภาพให้อารมณ์คล้ายๆ โมเน่ต์ แต่เป็นสีชอล์ก ซึ่งดิฉันชอบงานสีชอล์กอยู่แล้วเพราะมีเสน่ห์ตรงภาพที่ดูนุ่ม แต่ใช้ฝีแปรงที่ตัดสินใจเด็ดขาด เพราะการผสมสีที่ยาก แก้ลำบาก แต่ภาพนี้ดูนุ่มราวกับมีชีวิต มารู้ภายหลังว่าภาพนี้เป็นภาพรีโปรดักต์ของโมเน่ต์เป็นผลงานของศิลปินชื่อคุณชูศักดิ์ อวโต แต่ยุคนั้นเรายังไม่รู้จักเขา ก็เก็บภาพไว้ราว 30 ปี ไม่เคยเห็นศิลปินท่านนี้เลย แต่หากศึกษาไปลึกๆจะรู้ว่าท่านโด่งดังด้านฟิกเกอร์เรทีฟ รูปร่างผู้หญิง ปัจจุบันท่านเป็นอาจารย์สอนศิลปะอยู่ที่
มหาวิทยาลัยราชภัฏวลัยอลงกรณ์ ซึ่งอาจารย์สมศักดิ์ รักษ์สุวรรณ เป็นคนแนะนำให้ดิฉันรู้จักท่าน แล้วก็มีโอกาสได้โทรคุยกัน ท่านเล่าว่ายุคนั้นท่านเดินทางไปดูงานภาพวาดที่ต่างประเทศเยอะ แล้วร้านแกลเลอรี่ที่โซโก้อยากให้ท่านทำงานรีโปรดักต์ เพราะคนต้องการเยอะ เราก็ได้ภาพนั้นมาเก็บ รู้สึกดีใจมากๆ"
ฐิติมา ยังเล่าอีกว่า งานศิลปะหลายๆ ชิ้นเธอเก็บสะสมร่วมกับสามี เพราะโชคดีที่ชื่นชอบงานศิลปะเหมือนๆกัน บางครั้งก็ชักชวนกันไปหาศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทยเช่น ถวัลย์ ดัชนี หรือ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์จนมีความสนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างดี
"อย่างภาพของพี่เฉลิมชัยก็จะเป็นภาพสวยงามแฝงความงดงามทางพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นแนวที่ดิฉันชอบ ดิฉันจะเก็บสะสมภาพของพี่ทั้งสองคนเยอะมากๆ เพราะชอบที่ภาพมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว" ฐิติมารู้สึกหลงใหลงานศิลปะโดยเฉพาะภาพจิตรกรรมซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจ แต่ละภาพเธอรักและจดจำที่มาที่ไปได้เกือบทุกภาพ นอกจากนี้ประเภทของงานศิลปะที่ฐิติมาชื่นชอบคือ งานรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ งานแกะสลักไม้ แต่เธอจะเก็บผลงานเฉพาะชิ้นที่ตนเองชื่นชอบ
ศิลปินเจ้าของภาพจิตรกรรมที่เป็นอันดับต้นๆ ในดวงใจ ฐิติมายกให้อาจารย์ถวัลย์ เพียงแค่พบครั้งแรกก็สร้างความประทับใจต่อตัวศิลปินท่านนี้แล้ว "ภาพแรกที่ได้มาเป็นฝีมือของพี่ถวัลย์ คือได้มาเมื่อ20 ปีที่แล้ว สามีชวนดิฉันไปหาพี่ถวัลย์ที่บ้านในกรุงเทพฯ เห็นพี่ถวัลย์วาดรูปอยู่ที่โรงรถ และมีชุดหนังเอลวิสแขวนอยู่ เห็นครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมากบอกพี่ถวัลย์ไปว่า เราชื่นชอบผลงานของเขามากๆและชอบมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ พี่ถวัลย์จึงชวนไปชมภาพที่ติดอยู่ที่ฝาผนังกับในห้องนอน พี่ถวัลย์ก็ให้เลือกภาพที่เราชอบซึ่งเราเลือกภาพที่เป็นลายเส้น คือ ภาพลายเส้นพระศิวะเต้นระบำอายุราว 39 ปีได้แล้ว ที่เลือกภาพนี้เพราะชื่นชอบที่ลายเส้นซึ่งปัจจุบันติดประดับอยู่ที่โถงบันไดขึ้นชั้น 2 พี่ถวัลย์ก็ชวนไปดูภาพที่ติดอยู่ที่ห้องนอนของแกเป็นภาพลายเส้น เขียนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 สวยงามมากๆ" พูดแล้วจะหาว่าคุย แต่มันเป็นความภาคภูมิใจของนักสะสม ฐิติมาบอกว่าเธอมีผลงานของอาจารย์ถวัลย์ในยุคแรกๆ ของแท้ออริจินัล ช่วงที่เขาศึกษาจบจากรั้วศิลปากรใหม่ๆ เช่น งานเพนต์ เธอได้มาจากการประมูลซึ่งนับเป็นภาพที่มีคุณค่ายิ่ง
ไม่เพียงศิลปินเอกชาวไทยที่ฐิติมามีไว้ในครอบครอง ศิลปินเอกระดับโลกเธอก็มีเก็บเป็นคอลเลกชั่นส่วนตัวเช่นกัน
"ศิลปินอีกท่านหนึ่งที่ดิฉันชอบมากๆ คือคีฟ เคยอยู่วงโรลลิ่ง สโตน เราเคยไปดูงานของเขา ศิลปินท่านนี้ฝีแปรงมีพลังมากๆ เป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึงว่านอกจากเป็นนักร้องแล้วยังเป็นนักวาดภาพที่เก่งด้วย งานต่างประเทศที่ชอบแต่แพงที่สามีค่อยๆ เก็บสะสมคือ ภาพของ Damien Hirst หรือศิลปินชื่อชากัลผลงานของแวนโก๊ะก็ชอบมากๆ แต่เราไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของ แวนโก๊ะงานของเขาส่วนใหญ่เป็นงานอิมเพรสชั่นนิสม์ มีเอกลักษณ์ในการใช้แปรง อาจารย์ประทีปก็เป็นศิลปินที่ใช้แปรงแล้วดูมีเสน่ห์"
หรืองานแกะสลักไม้ ของศิลปิน ธีรพันธุ์ดวงแก้ว ที่เก็บมานานกว่า 10 ปี โดดเด่นด้วยงานแกะสลักมีเทกเจอร์ที่ทิ้งร่องรอยสิวเป็นของตัวเอง ดูแล้วได้อารมณ์ให้ความรู้สึกความรักระหว่างความเป็นแม่และลูกเป็นงานอีกชิ้นหนึ่งที่ฐิติมารักมากๆ
มีงานเก็บที่หลากหลายคล้ายเป็นมิวเซียมแกลเลอรี่ แหล่งซื้อหาผลงานศิลปะของฐิติมาคือ แกลเลอรี่ขายงานศิลปะ หรือคุยกับเจ้าของผลงานโดยตรง หรือคุยกับผู้รู้สอบถามว่ามีผลงานของใครบ้างที่น่าสนใจ และน่าสะสมเรียกว่าต้องอาศัยการสืบเสาะ อีกแหล่งหนึ่งที่น่าสนใจคือแกลเลอรี่เมืองนอก ขณะที่ฐิติมากำลังเรียนทำปริญญาเอกอยู่ที่ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยGrenoble Ecole de Management เธอต้องบินไปเรียนแทบทุกเดือน จึงมีโอกาสได้เดินทางบ่อย ก็มีโอกาสได้ไปแกลเลอรี่ขายงานศิลปะที่หลากหลาย
"ในแต่ละครั้งเราจะแวะปารีสกับลอนดอนมีแกลเลอรี่ที่มีงานดีๆ เยอะ และมีพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะซึ่งไม่เหมือนกันให้เราดู ทำให้เรารู้จักศิลปินมากขึ้น ลอนดอนก็ต้องไปที่Saatchi แกลเลอรี่ ไปดูประจำเพราะมีงานแสดงเรื่อยๆแม้ซื้อไม่ได้ แต่ทำให้เราเห็นผลงานของศิลปินดังๆ หรือไปฝรั่งเศสต้องไปที่พิพิธภัณฑ์ปอมบิดัวร์เป็นโมเดิร์นอาร์ต ชอบเข้าไปดูเพราะจะให้เราได้แนวคิดว่า ความคิดของเราไม่มีลิมิต ทำให้เราไม่บล็อกตัวเอง เช่นศิลปินบางท่านเอาโถส้วมมาตั้ง แม้เราเคยเห็นโถส้วมอยู่แล้ว แต่เขาคือคนคิดคนแรก หรืองานบางภาพมีเส้นขีดแค่สองเส้น ซึ่งเราแปลกใจว่าเขาคิดได้อย่าง แต่เราก็ทำไม่ได้เพราะเราไม่ได้คิดคนแรก หรือหากอยากซื้อจริงๆ ต้องบอกสามี หรือติดต่อซื้อจากห้างแฮร์รอดส์ลอนดอน ถือเป็นแหล่งอาร์ตที่น่าสนใจ มีศิลปินเด็ดๆ เยอะอย่าง Andy Warhol อีกทั้งได้งานศิลป์จากงานประมูลทั้งไทยและต่างประเทศ ภาพของ Marc Chagall ก็ได้มาจากแฮร์รอดส์และเก็บอยู่ที่บ้านในลอนดอน เราชอบมากๆ งานดูโมเดิร์นฝันๆ เพราะเราชอบสีน้ำ และสีชอล์กด้วย"
สำหรับวิธีเลือกซื้อมีหลักเกณฑ์อย่างไร กูรูนักสะสมอย่างฐิติมาแนะนำว่า โดยส่วนตัวเธอเลือกจากงานดูมีสไตล์และมีความเป็นยูนีคสูงร่วมทั้งงานแพตติ้งที่ใช้สีชอล์ก หรือภาพแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ คือมีหลากหลายแนวที่ชอบที่สำคัญคือต้องเป็นชิ้นงานที่ค่อนข้างสมบูรณ์สีไม่แตกลายงา ยกเว้นงานภาพวาดของเกาหลีจีน ญี่ปุ่น อายุนับ 100 ปี ก็ต้องชำรุดเป็นธรรมดา ถือเป็นเสน่ห์ของภาพอย่างหนึ่ง
"เราชอบงานนี้ เราเห็นเราชอบเราก็ซื้อ ไม่มีขอบเขตในการสะสม เราเก็บวาไรตี้ ที่สะสมงานศิลป์เพราะรักจริงๆ ค่ะ แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญเราแค่รู้สึกดื่มด่ำกับงานศิลปะค่ะซึ่งถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เมื่อได้ยืนได้ดูภาพจิตรกรรมที่มีความงดงามค่ะ" ฐิติมาเล่าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มr
วิธีเก็บรักษาภาพเก่าทรงคุณค่า
หลักการเก็บรักษาภาพโบราณล้ำค่าให้สวยคงคุณค่าไปได้นานๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฐิติมามีความกังวลและเป็นห่วง
"ดิฉันเคยคุยกับสามีว่า ถ้าจะเก็บภาพไว้ให้สวยงามได้ ต้องมีมิวเซียมแกลเลอรี่เพื่อเก็บภาพโดยเฉพาะ ซึ่งเราค่อนข้างมีปัญหา คือ มีพื้นที่ไม่พอติดโชว์ภาพ ต้องเก็บไว้ที่ออฟฟิศ ซึ่งมีอากาศค่อนข้างร้อน มีผลต่อภาพทำให้สีซีดจาง อย่างภาพที่เก็บไว้ที่บ้านต้องเปิดบ้านเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาน้อยที่สุดแต่หากเรามีพิพิธภัณฑ์ เราสามารถควบคุมอุณหภูมิห้องได้ โดยใช้เครื่องปรับอากาศช่วยซึ่งช่วยได้เยอะ"
แน่นอนแสงที่จะเข้ามาเราต้องควบคุมหมดเลย และต้องมีการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญในการรักษาภาพ ขณะนี้ฐิติมาจึงเก็บรักษาภาพให้ดีเท่าที่ทำได้ "แต่ภาพที่วาดจากสีอะครีลิกของอาจารย์เฉลิมชัย ดิฉันก็เป็นห่วง เพราะสีอะครีลิกค่อนข้างดูแลรักษายากกว่าสีชนิดอื่นๆแต่ภาพลายเส้นก็ดูแลยาก แต่โชคดีที่ลูกชายกับลูกสาวตอนเด็กๆ วัยซนเขาก็ไม่ซน ไม่นำดินสอมาขีดเขียนที่ภาพเลย เพราะลูกๆ ก็รู้ถึงคุณค่าของภาพจิตรกรรมเหล่านี้เช่นเดียวกัน โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องสอนเลยค่ะ แค่บอกเล่าว่า ภาพเหล่านี้มีคุณค่าอย่างไร


