posttoday

ณัชพล ไตรวงศ์วรนาถ...ทำงานให้มาก ไม่ใช่ทำงานให้หนัก

11 มีนาคม 2557

ยุคนี้ต้องยอมรับว่า อินสตาแกรม เป็นแอพพลิเคชั่นที่มาแรงแซงทางโค้ง ใครๆ ก็เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร/เตย เพ็ญศรี ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

ยุคนี้ต้องยอมรับว่า อินสตาแกรม เป็นแอพพลิเคชั่นที่มาแรงแซงทางโค้ง ใครๆ ก็เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง และหากจะมีคนใช้ความแรงของอินสตาแกรมมาต่อยอดเป็นเครื่องพรินต์ภาพจากอินสตาแกรม ที่มีชื่อว่า “Insta.printa” ที่เอาไว้ใช้ตามงานอีเวนต์ต่างๆ เพื่อความสนุกสนาน และให้ได้ผลทางการตลาด เชื่อแน่ว่าคนผู้นั้นน่าจะเป็นคนที่มีมุมมองความคิดที่น่าสนใจอยู่มิใช่น้อย

“ณัช-ณัชพล ไตรวงศ์วรนาถ” คือคนผู้นั้นครับ

“ผมเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์ไฟแนนซ์ที่ประเทศออสเตรเลีย พอกลับมาอยู่เมืองไทยผมก็ทำงานที่เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ทำอยู่ได้ 6 เดือน รู้สึกไม่ชอบก็เลยออกมา มาทำอีเวนต์กับรุ่นพี่คนหนึ่ง การที่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้ทำให้ผมได้รู้ว่าการทำงานกับคนเป็นยังไง ดิวงานร่วมกับคนอื่นเป็นยังไง ดิวกับซัพพลายเออร์เป็นยังไง ได้ดูเรื่องการเงิน และได้ทำเกี่ยวกับดิจิตอลด้วยครับ ซึ่งทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่าผมสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่นี้เอามากๆ”

ทำอยู่ได้ 3 ปี อยู่ๆ คุณแม่ของเขาก็เกิดเส้นเลือดแตกในสมอง นี่จึงเป็นเหตุให้เขากลับไปช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัว เหมือนคนเริ่มต้นจากศูนย์เพื่อนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ก็ได้มีเพื่อนที่เคยทำงานจากที่เก่า ชวนเขามาเปิดบริษัททำเครื่องพรินต์อินสตาแกรม เขาเห็นว่าน่าสนใจ เลยตอบตกลง

ณัชพล ไตรวงศ์วรนาถ...ทำงานให้มาก ไม่ใช่ทำงานให้หนัก

 

“หลังจากก่อรูปก่อร่างบริษัทจนเข้าที่ เราก็เริ่มมาทำเครื่องพรินต์อินสตาแกรมกัน ขั้นแรก เราคิดกันว่าจะทำยังไงให้มันมีรูปร่างหน้าตาและสามารถใช้งานได้ ซึ่งใช้เวลาอยู่ประมาณ 5 เดือน จนสามารถพรินต์รูปออกมาได้ พอเอาไปใช้งานในงานอีเวนต์ต่างๆ ผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันมีช่องทางที่สามารถไปได้ต่อ ผนวกกับทีมผมถนัดเรื่องสถิติ เราเลยคิดว่าเราน่าจะทำอะไรเกี่ยวกับข้อมูล สถิติ และตัวเลขที่ได้มาจากเครื่องพรินต์อินสตาแกรม ในส่วนของลูกค้าที่ใช้งานเครื่องพรินต์ของเรา เขาก็ถามนะว่าทำไมไม่ลองทำในลักษณะนี้ดูบ้าง เราเลยตัดสินใจทำให้มันมีความพิเศษมากขึ้น”

ณัชพล เผยว่า ช่วงแรกเขาออกงานอีเวนต์เองทุกคืน กลับบ้านตี 4 ตี 5 ทุกคืน แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือฐานข้อมูล และการที่มีคนเห็นในสิ่งที่เขาทำ เลยมีงานอีเวนต์ที่อยากให้เครื่องพรินต์อินสตาแกรมไปสร้างความสนุกให้คนที่มาในงาน จวบจนวันนี้เครื่องพรินต์อินสตาแกรมเครื่องนี้ก็ไปโผล่ตามงานอีเวนต์ต่างๆ ได้ปีครึ่งแล้ว

“เรายังอยากให้มันมีการพัฒนาต่อไปอีกเรื่อยๆ เพราะมันยังมีช่องทางไปได้อีก ซึ่งเราก็กำลังจะนำเครื่องพรินต์เครื่องนี้ไปใช้ในงานแต่งงาน งานเลี้ยงรุ่น หรืออย่างกระดาษที่ตอนนี้เราใช้เป็นกระดาษธรรมดา อนาคตเราก็อาจจะใช้เป็นกระดาษแข็งแทน ถ้าเป็นแบรนด์ ก็อาจจะทำตัวปั๊มเพิ่ม ทำเป็นคูปอง ทำเป็นบัตรสมาชิกก็ได้ ง่ายสุดก็อาจจะทำเป็นปฏิทินพกในกระเป๋าตังค์ ผมว่ามันยังมีช่องทางไปได้อีก ขอแค่ยังมีคนชอบถ่ายรูปครับ”

แน่นอนว่า เมื่อมีนวัตกรรมที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ ย่อมมีคนที่เดินตามความสำเร็จนั้น ณัชพล เผยว่า คู่แข่งที่มี ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำระบบได้อย่างที่เขาทำ เพราะเขาและทีมงานเขียนระบบกันขึ้นมาเอง นี่จึงเป็นจุดได้เปรียบที่ไม่อาจมีใครไล่ตามได้ทัน

ณัชพล ไตรวงศ์วรนาถ...ทำงานให้มาก ไม่ใช่ทำงานให้หนัก

 

“ผมว่าโลกส่วนนี้ที่ผมได้เข้ามา มันสอนให้ผมก้าวหน้าไปเรื่อยๆ อย่าหยุดนิ่ง และได้เรียนรู้การแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ เพราะในทุกๆ วันมันมีปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอยู่ตลอด อยู่ดีๆ ระบบพังหน้างาน เราก็ต้องหาทางแก้ปัญหาแล้วว่าจะต้องทำยังไง เพราะงานอีเวนต์มันเป็นงานที่เริ่มและจบในเวลาที่กำหนด เราไม่สามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ ถ้าเกิดปัญหาอะไรเราต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าทันที”

ณัชพล เผยว่า หลักในการดำเนินชีวิตของเขา คือ ทำในสิ่งที่ทำอย่างมีความสุข หากเกิดความผิดพลาด ให้ลงมือทำใหม่ แต่อย่าพลาดเรื่องเดิมอีก “ผมมีคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจ ตั้งแต่ก่อนที่ท่านจะเสีย ท่านได้เขียนประวัติชีวิตไว้ก่อน คือท่านรู้ว่าท่านไม่สบายมาตั้งนานแล้ว ท่านก็เริ่มเขียนหนังสือ ซึ่งผมคิดว่าคนที่จะประสบความสำเร็จได้มันต้องลำบากมาก่อน เพราะถ้าไม่ลำบากมาก่อน ผมคิดว่าภูมิคุ้มกันมันจะต่ำ”

นอกจากการทำงานที่เขาถือคติที่ว่า ทำงานให้มาก แต่ไม่ใช่ทำงานให้หนัก ยามว่าง ณัชพล จึงให้เวลากับตัวเองด้วยการเข้าฟิตเนส เตะบอล เล่นดนตรี ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เขามักทำร่วมกับทีมงาน โดยเขามีแนวคิดที่ว่า ไม่อยากให้ทีมงานต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดเวลา มันต้องมีกิจกรรมทำร่วมกันในโลกความจริงด้วย

“ผมคิดว่าเราต้องไปเที่ยวบ้าง เล่นบ้าง ปาร์ตี้บ้าง อย่างผมร้องเพลง เพื่อนก็จะเล่นกีตาร์ เราจะได้ทำอะไรร่วมกันเป็นทีมได้ ถ้าเรามัวแต่อยู่กับสังคมติดหน้าจอ ผมกลัวอย่างเดียวคือมันจะเสียสุขภาพได้ ยิ่งเราไม่ค่อยได้คุยกับใคร มันจะทำให้เราอ่อนด้อยด้านสังคม อีกทั้งนั่งหน้าคอมพิวเตอร์มากๆ หลังเราก็จะเสีย ปวดหลัง เสียสุขภาพครับ”

หลักการใช้ชีวิตของณัชพล

“เราทุกคนมีทางเดินที่เป็นของตัวเอง จงเก่งในแบบของเรา”

ข่าวล่าสุด

"ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์"จากนักวิชาการสู่แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย