วังเอ๋ย วังแดง
บรรยากาศการเมืองร้อนรุ่ม (แอบ) หนีไปเที่ยววังกันดีกว่า (เผื่อว่าใจจะได้ร่มๆ ไง)
โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ หนังสือวังลดาวัลย์+เคทีซี
บรรยากาศการเมืองร้อนรุ่ม (แอบ) หนีไปเที่ยววังกันดีกว่า (เผื่อว่าใจจะได้ร่มๆ ไง)
จุดหมายของเราอยู่ที่ “วังแดง”
หลายคนส่ายหน้า วังอะไรเหรอ แล้วอยู่ตรงไหน
อยู่ในกรุงเทพฯ นี่ละ หาไม่ยาก เข้าได้ 3 ทาง ถนนประชาธิปไตย ถนนลูกหลวง หรือจะเข้าทางถนนราชสีมาก็ได้ สะดวกทางไหน เข้าทางนั้น ถ้าหาไม่เจอจริงๆ ให้ยึดเอาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นที่ตั้ง วังแดงอยู่บนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ
ชื่อเต็มยศวังแดง คือ “วังลดาวัลย์” อันเป็นพระนามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดี “เสด็จตา” ในสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ผู้ได้รับพระราชทานพระตำหนักดังกล่าวจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์
ส่วนชื่อวังแดงนั้นก็มีที่มาด้วยเพราะตัวกำแพงพระตำหนักแห่งนี้ใช้สีแดงทาจนเป็นที่สะดุดตา ประชาชนจึงเรียกขานติดปากในชื่อวังแดงเรื่อยมา
การเข้าเยี่ยมชมวังแดงไม่ได้เปิดตลอด เดินดุ่มๆ ไปแบบฉายเดี่ยว ก็ยากเต็มทนที่จะกระทำได้ ต้องรวมกันเป็นหมู่คณะ หรือบางคราอาจต้องทำจดหมายแสดงความจำนงเพื่อขอเยี่ยมชม ทางวังแดงยินดีที่จะนำชมโดยไกด์กิตติมศักดิ์มาให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในแง่มุมน่าสนใจ
เช่นการไปเยี่ยมชมครั้งนี้ของเรา ก็ได้รับรู้เรื่องราวอันเกี่ยวเนื่องกับวังแดง ชวนให้ทึ่งและปลื้มปริ่มเป็นที่สุด ตั้งแต่ประวัติการก่อสร้าง จวบจนความงดงามที่ปรากฏผ่านงานสถาปัตยกรรม ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นที่เชิดหน้าชูตา ในฐานะเอกลักษณ์แห่งศิลปะโบราณ ซึ่งกาลเวลาเนิ่นนานก็ไม่เคยลบภาพความวิจิตรบรรจงนั้นได้
ก้าวแรกที่ย่างก้าวเข้าไป ก็ไม่ลืมจะยกกล้องขึ้นมาแชะภาพ พระตำหนักสีเหลืองสะดุดใจ ตัดกับท้องฟ้าสีสดและสนามหญ้าเขียวขจี ราวภาพดั่งจินตนาการ ตัวพระตำหนักสร้างด้วยรูปแบบตะวันตก คล้ายอาคารในยุโรปยุควิกตอเรีย และวิลล่าสไตล์อิตาเลียน ความงดงามนี้ขอยกความดีให้แก่นายช่างชาวอิตาเลียน “ยี. บรูโน” ที่รังสรรค์การออกแบบ พ.ศ. 2449 โดยเน้นส่วนโค้งกำแพงเหนือช่องเปิดในผนัง อีกทั้งยังมีการประกับกำแพงด้วยเสาหลอก รวมไปถึงการนำเทคนิคการเซาะร่องผนังปูนฉาบให้แลดูเป็นวัสดุก้อนชิ้นมหึมาและทำให้เกิดลวดลายด้วยเทคนนิคปูนปั้น นำมาซึ่งความตระการตายามพบเห็น
เห็นภายนอกว่าสวยแล้ว ภายในก็ยิ่งสวย ค่อยๆ ใช้สายตาไต่ระดับขึ้นไป 2 ชั้น บวกกับชั้นย่อยอีกหนึ่งชั้น ซึ่งดัดแปลงเป็นมุขที่จอดรถ ก่อนจะถึงหอคอยสูง 4 ชั้น หน้าต่างเป็นรูปโค้ง มีดาดฟ้ารับลมเย็นตรงระเบียง พื้นที่ภายในยังแบ่งประโยชน์ใช้สอยเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องเสวย ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องพระ ห้องบรรทม ห้องพักสำหรับเจ้านายพระองค์อื่น เชื่อมต่อกันโดยบันไดเวียน
เป็นที่กล่าวขานกันเมื่ออดีตว่าเจ้าของพระตำหนัก สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล โปรดงานศิลปะ โดยเฉพาะดนตรีไทยจะโปรดมากเป็นพิเศษ ถึงขั้นก่อตั้งปีพาทย์ขึ้น และถูกขนานนามให้เป็นปี่พาทย์วังแดงอันโด่งดัง ยามเสด็จฯ ไปทรงงานและเสด็จฯ กลับก็มักจะมีปี่พาทย์บรรเลงส่งและรับเสด็จเสมอ
ครั้นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ สิ้นพระชนม์ กอปรกับมีสงครามมหาเอเชียบูรพา พระตำหนักแห่งนี้จึงถูกรัฐบาลญี่ปุ่นเช่าเป็นหอวัฒนธรรมญี่ปุ่นและเคยใช้เป็นที่พำนักของกองกำลังทหารจากสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน เสียงดนตรีจากปี่พาทย์วังแดง ก็เงียบหายไปในที่สุด
ช่วงปลายสงคราม พ.ศ. 2488 สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ติดต่อขอซื้อวังลดาวัลย์จากพระทายาท เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นของต่างชาติและได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่ เสมือนเป็นการชุบชีวิตวังแดงอีกครั้ง จวบปัจจุบันวังแดงก็ยังงดงามมิรู้คลาย สมราคาพระตำหนักอันเลอค่า
ความงดงามในงานสถาปัตยกรรมของวังแดงนั้น ใช่จะงดงามเพียงแค่ศิลปะที่สายตามองเห็น แต่ยังการันตีด้วยรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น พ.ศ. 2525
วังแดงสร้างบนเนื้อที่ 17 ไร่ 80 ตารางวา ทั้งยังตั้งปณิธานว่าจะทำให้ที่นี่เป็นโบราณสถานที่ไม่ได้มีไว้เพื่อ “ปิดตาย” หรือ “ตั้งโชว์” แต่พร้อมจะเป็นความงดงามทางศิลปะที่ผู้คนสามารถจับต้องและจับจ้องได้จริง
ภายในวังแดง ซ่อนไว้ซึ่งงานออกแบบและตกแต่งที่น่าชม ทั้งแบบตะวันตกและจีน เช่น ชั้นล่างประดับด้วยงานประติมากรรมหินอ่อนรูปพระนางมารีและพระบุตร ติดกระจกสีลายดอกไม้ ชั้นบนมีรูปเขียน ห้องโถงกลางตั้งชุดรับแขกแบบจีน ขณะที่ห้องพระก็ประดิษฐานพระพุทธรูปในตู้ไม้แบบจีน ลงรักปิดทองทั้งตู้ บานตู้เขียนลายเรื่องพระพุทธประวัติ งดงามมากๆ
อีกหนึ่งห้องที่ผู้เยี่ยมชมจะได้ความรู้ไปเต็มๆ นั่นคือ ห้องสมุดมั่นพัฒนา ที่รวบรวมแนวคิดพระราชดำริและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้อย่างครบถ้วน
(สอบถามรายละเอียดการเยี่ยมชม สำนักงานทรัพย์สินฯ โทร. 02-787-7000)


