posttoday

‘เจเนอเรชันที่ 3 ดุสิตธานี’ ศิรเดช โทณวณิก

18 กุมภาพันธ์ 2556

ทายาทรุ่นที่ 3 โรงแรมดุสิตธานี ศิรเดช โทณวณิก ปัจจุบันรั้งตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงานและพัฒนาผลประกอบการบริษัท ดุสิตธานี

โดย...วราภรณ์ ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ทายาทรุ่นที่ 3 โรงแรมดุสิตธานี ศิรเดช โทณวณิก ปัจจุบันรั้งตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงานและพัฒนาผลประกอบการบริษัท ดุสิตธานี อันเป็นโรงแรมหนึ่งที่เก่าแก่ ก่อตั้งโดยคนไทยผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้สร้างดุสิตธานี โรงแรมแบรนด์ไทยที่ปัจจุบันสยายปีกไปมัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ ดูไบ อาบูดาบี ไคโร เกาะกวม และสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเซ็นสัญญาทำโรงแรมจอยส์เวนเจอร์กับโรงแรมที่อินเดียอีก 6 แห่ง และ 2 แห่งที่จีน สิ่งที่ทำให้ดุสิตธานีกลายเป็นโรงแรมไทยที่ได้รับการยอมรับ เพราะบริหารภายใต้หลักพัฒนาแบรนด์อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังชูความเป็นไทยคือ มีพนักงานที่ต้อนรับแขกด้วยรอยยิ้ม การให้บริการที่ประทับใจ และอาหารไทยที่ติดอันดับ 1 ใน 5 อาหารโลกที่อร่อยที่สุด

ศิรเดช เป็นบุตรชายของ ชนินทธ์ กับ วิภาดา โทณวณิก ความใฝ่ฝันของเขาคือหวังนำพาดุสิตธานีก้าวสู่การเป็นอันดับต้นๆ ของโรงแรมระดับโลกให้ได้ หน้าที่หลักๆ ของ ศิรเดช คือดูแลผลประกอบการของโรงแรมทั้งหมด ทั้งโรงแรมเดิมและโรงแรมที่เปิดใหม่

“เช่น เศรษฐกิจเป็นแบบนี้เราควรปรับค่าห้องหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ผมยังดูด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ในตลาด เราควรดึงเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้บริหารโรงแรมอย่างไร แม้ดุสิตธานีจะเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ แต่ก็ต้องพัฒนาให้มีรูปแบบที่ทันสมัย ผมอยากผลักดันให้โรงแรมไปโตในต่างประเทศ พัฒนาแบรนด์และดูแบรนด์โรงแรมของเราว่าเหมาะจะไปโตในตลาดไหนของโลก”

ในการบริหารงานที่มีการแข่งขันสูง สิ่งที่ท้าทายความสามารถของนักบริหารการโรงแรมรุ่นใหม่มากที่สุด คือ การหารายได้จากตลาดใหม่ ทำการตลาดแบบใหม่ เช่น ขายทางออนไลน์เอเยนซี เพราะการบริหารช่องทางขายแบบนี้สำคัญมากกับรายได้ของโรงแรม หากเขาไม่ดูหรือคว้าโอกาสตรงจุดนี้ การทำการตลาดของโรงแรมก็จะไม่โตและจำกัดอยู่ในตลาดแบบเดิม อยู่ในวงแคบๆ ดูจากเทรนด์ตัวอย่างโรงแรมระดับโลกก็มาบริหารช่องทางการตลาดตรงนี้แล้ว ซึ่งช่องทางตรงนี้หากเจาะได้และไปได้ทั่วถึงก็จะนำรายได้มากมายเข้าสู่โรงแรม

“ในช่วงเทศกาลเราจำเป็นต้องคิดแพ็กเกจเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาพักที่โรงแรมของเรา อย่างปีนี้เรามุ่งไปตลาดที่จีนกับอินเดียเพิ่มมากขึ้น งานด้านการตลาดเป็นสิ่งที่ผมต้องเรียนรู้อีกเยอะ คนที่บริหารตรงนี้ได้มาจากงานขายเป็นหลัก ตอนนี้เรากำลังสร้างเครือข่ายการบริหารงานโรงแรมด้วย เช่น โรงแรมใหม่ๆ อยากหานักบริหารโรงแรม เราก็มีองค์กรตรงนี้ไปช่วยบริหารได้ เพราะเราเชื่อมั่นว่า เรามีการบริการและมีพนักงานที่ดีมีคุณภาพ ”

ในฐานะเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาบริหารงาน เขามีวิสัยทัศน์คือนำความทันสมัยของเทคโนโลยีมาช่วยทำการตลาด

“ตอนนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่โตเร็วมากและเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แม้ผมเป็นคนรุ่นใหม่แต่ยอมรับว่ายังตามระบบใหม่ๆ ไม่ค่อยทัน เช่น บางโรงแรมทันสมัยขนาดแขกสามารถเช็กอินได้ก่อนที่ตัวเขาจะเดินทางเข้ามาที่โรงแรมซะอีก ลูกค้าสามารถใช้โทรศัพท์เป็นคีย์การ์ดโดยไม่ต้องเซ็นเอกสารอะไรเลย ตัวเราเองก็ต้องพัฒนาไปให้ทันเขา ไม่อย่างนั้นเราจะถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลัง” ศิรเดชยังมองว่าถึงแม้โรงแรมจะประสบความสำเร็จได้ต้องพัฒนาสิ่งเหล่านี้ด้วย แต่ในทางกลับกันก็ยังต้องพึ่งพาสิ่งเก่า เช่น ตัวโรงแรมและการบริการ ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกดีๆ โรงแรมตั้งอยู่ในโลเกชันที่ดี สิ่งเหล่านี้ก็ยังสำคัญละเลยไม่ได้

“คุณย่าบอกเสมอว่าการพัฒนาพนักงานกับพัฒนาโรงแรมต้องไปคู่กัน ธุรกิจโรงแรมเราขายประสบการณ์การให้บริการ คุณย่าสอนว่าการฝึกสอนพนักงานให้มีเซอร์วิส มายด์ เป็นเป้าหมายในการสอนเด็กนักเรียนการโรงแรมของวิทยาลัยดุสิตธานีที่มีกว่า 6 แห่ง 2 แห่งที่เมืองไทย อีก 4 แห่งที่ต่างประเทศ เป็นโรงเรียนสอนด้านการโรงแรมซึ่งเกิดจากแนวคิดของคุณย่า ด้วยท่านไปเห็นการให้บริการในโรงแรมทั้งฝั่งยุโรปและอเมริกาที่ดีและมีคุณภาพ นี่คือจุดเริ่มต้นของโรงแรมดุสิตธานีในปัจจุบัน เรามีการส่งเด็กไปฝึกงานที่โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ ซึ่งอยู่ข้างๆ กับวิทยาลัยการทำธุรกิจโรงแรม คุณย่าสอนผมเรื่องการรักพนักงานให้เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ตอนที่คุณย่าเริ่มทำธุรกิจโรงแรมใหม่ๆ คุณย่าทำความสะอาดสระว่ายน้ำเอง คุณพ่อก็เสิร์ฟเอง เปิดประตู ผมเคยทำงานในครัว เคยขัดเตา ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ตอนเรียนที่อังกฤษก็ทำงานช่วงปิดภาคเรียนด้วย ผมเติบโตมาจากครอบครัวที่ปลูกฝังให้ลูกรู้จักทำงานหนัก เมื่อต้องมาบริหารโรงแรมแม้งานจะหนักแค่ไหนผมก็ไม่กลัว”

แม้ประสบการณ์ในตำแหน่งแมนเนเจอร์ โอเปอเรชัน สายโรงแรมโดยตรงศิรเดชยังใหม่มาก และเขาต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่รู้สึกกดดัน ผิดก็แก้ไข ตอนนี้เขาพยายามเปิดโลกของตัวเองให้กว้างขึ้น อาศัยการมอง การฟัง ได้พูดคุยกับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหนก็ตาม ล้วนเป็นการหาข้อมูลที่ดี ช่วยในการทำงานได้เยอะ

การบริหารโรงแรมไทยให้ก้าวไปสู่อันดับแถวหน้า วิสัยทัศน์ของศิรเดชมีหลักคือ แม้จะมีผู้บริหารที่เขาจ้างมาช่วยดูแลซึ่งล้วนมาจากโรงแรมชั้นนำของโลก ไม่ใช่นักบริหารไทยไม่เก่ง แต่โรงแรมตอนนี้เป็นระบบเวิลด์ไวด์ทั่วโลกหมดแล้ว ถ้าเราไม่เดินตามการบริหารโรงแรมแบบสากล เราก็จะตามเขาไม่ทัน เพราะเขาจะมีการบริหาร วิธีใช้ระบบข้อมูลมาบริหารโรงแรม ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวไกล

“ยุคนี้เราจะอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ เราต้องยื่นมือไปหาเขา เราจ้างเขามาเพื่อให้เขามาสอนเราบริหารจัดการ สอนพนักงาน มุมมองเราจะได้เปิดกว้าง เราจะได้เปิดตัวสู่ตลาดเมืองนอกได้ จุดแข็งของเรามีคือ ความอ่อนน้อม การให้บริการที่ดี ถ้าเราเสริมอะไรเข้าไป เช่น การหาตลาดใหม่ๆ ที่ต่างประเทศ เราก็จะก้าวไปได้ไกลขึ้น ให้เขารู้ว่าเรามีสันทนาการในโรงแรมดีแค่ไหน อีกทั้งเราจะดึงความเป็นไทย เช่น อาหารอร่อย ทุกโรงแรมของเราในต่างประเทศมีร้านอาหารไทยเกือบทั้งหมด เป็นทั้งการสร้างงานให้คนไทยและประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปด้วยครับ”

ชื่อ ศิรเดช โทณวณิก

ตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงานและพัฒนาผลประกอบการบริษัท ดุสิตธานี

การศึกษา เศรษฐศาสตรบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์การเมือง) จาก University of Exeter ประเทศอังกฤษ

ประสบการณ์การทำงาน เคยทำงานด้านไฟแนนซ์ ที่ บล.ทรีนีตี้ เป็นผู้ช่วยนักวิเคราะห์

ทำงานด้านแมนเนจเมนต์ที่เอชเอสบีซี

และมาช่วยบริหารงานที่โรงแรมดุสิตธานี ดูเกี่ยวกับอินเวสต์เมนต์ ไฟแนนซ์

ต้นแบบ คุณพ่อและคุณย่าท่านสอนให้เขาติดดินให้มากที่สุด เพราะหากทำตัวเป็นนายคนอื่นตลอดเวลา ก็ไม่สามารถจะเรียนรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าได้เลย อีกทั้งการจะเป็นโฮเต็ล ลีดเดอร์ได้ ต้องเปิดหูเปิดตา เพราะโรงแรมเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่รอบโลก ประสบการณ์ของแต่ละที่ย่อมไม่เหมือนกัน

ข่าวล่าสุด

กนง. เปิดเกมผ่อนคลายเต็มรูปแบบ ดอกเบี้ยขาลงรับเศรษฐกิจแผ่ว จับตาลดอีกเหลือ 1.0% ต้นปี 2569