posttoday

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก

09 กันยายน 2562

สแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอนมีอะไรให้ชื่นชมมากว่าความเป็นบ้านเกิดเของกวีเอก ที่นี่มีอาคารโบราณยุคทิวดอร์หลายหลัง มีอายุระหว่างศตวรรษที่ 15 - 16

สแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอนมีอะไรให้ชื่นชมมากว่าความเป็นบ้านเกิดเของกวีเอก ที่นี่มีอาคารโบราณยุคทิวดอร์หลายหลัง มีอายุระหว่างศตวรรษที่ 15 - 16  โดยกรกิจ ดิษฐาน

เมืองสแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอน (Stratford-upon-Avon) บ้านเกิดของวิลเลียม เชกสเปียร์ กวีเอกและนักแต่งบทละครชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ เมืองนี้จึงเป็นสถานที่ที่ผู้สนใจในบทกวีต้องมาเยือนกันสักครั้งหากผ่านมายังอังกฤษ

เมืองนี้ห่างจากลอนดอนแค่ 2 ชั่วโมง และมีขนาดย่อมสามารถเดินชมอย่างละเอียดได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่สำหรับคนเดินทางผ่านเพื่อที่จะได้ชื่อว่ามาถึงเมืองของเชคสเปียร์ อาจใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็คงรู้สึกว่าเพียงพอแล้ว

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก ลวดลายแกะสลักที่บ้านไม้โบราณ Harvard House

แต่สแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอนมีอะไรให้ชื่นชมมากว่าความเป็นบ้านเกิดเของกวีเอก ที่นี่มีอาคารโบราณยุคทิวดอร์หลายหลัง มีอายุระหว่างศตวรรษที่ 15 - 16 อาคารเหล่านี้เป็นสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Timber framing หรือตึกโครงไม้ซุง หรือบางครั้งเรียกว่าตึกกึ่งไม้ซุง (half-timbered) ลักษณะเด่นคือมีโครงสร้างเป็นไม้ท่อนสลับกับปูนพลาสเตอร์สีขาว

อาคารเล่านี้มีอายุราว 400 - 500 ปี หรือมีอายุร่วมสมัยกับกรุงศรีอยุธยา ขณะที่อาคารไม้สมัยอยุธยาในประเทศไทยหาชมยากเย็นมาก แต่ที่อังกฤษยังคงหลงเหลืออยู่หลายหลัง แถมยังใช้งานป็นบ้าน โรงแรม และผับอย่างมั่นคงถาวร

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก โบสถ์และโรงเรียนที่เชกสเปียร์เคยเรียนหนังสือ

หากได้มีโอกาสได้ไปเยือนเมืองสแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอนแล้ว และมีความคิดที่จะสำรวจอาคารไม้ซุง ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่ Henley Street ตรงกลางของถนนสายนี้คือ อาคารสมัยทิวดอร์ที่มีไปเยี่ยมชมมากที่สุด เพราะเป็นบ้านเกิดของวิลเลียม เชกสเปียร์ (Shakespeare's Birthplace)

เชื่อกันว่าวิลเลียมเชกสเปียร์เกิดและเติบโตที่บ้านหลังนี้ในปี 1564 ตอนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่เปิดให้สาธารณชนและผู้มาเยือนได้ชม และเรียกกันว่าเป็น "เมกกะสำหรับคนรักวรรณกรรม" ตัวบ้านเองนั้นค่อนข้างเรียบง่าย แต่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ถือเป็นบ้านที่มีระดับหลังหนึ่ง จอห์น เชกสเปียร์ พ่อของวิลเลียม เป็นผู้ผลิตถุงมือและตัวแทนจำหน่ายขนสัตว์ และบ้านถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน เพื่อให้จอห์นสามารถดำเนินธุรกิจไปพร้อมๆ กับพักอาศัย

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 1. บ้านเกิดของวิลเลียม เชกสเปียร์ (Shakespeare's Birthplace)

จากบ้านของเชกสเปียร์ เดินตรงไปตามถนน Henley Street จนถึงวงเวียน ให้เดินอ้อมเข้าไปที่ถนน High Street ก็จะเริ่มเห็นบ้านไม้ซุงหลายหลังเรียงรายไปตามถนนสายนี้ หนึ่งในนั้นที่สำคัญที่สุดคือ Harvard House บ้านเลขที่ 26 สร้างขึ้นเมื่อปี 1596 โดยโทมัส โรเจอร์ ปู่ของจอห์น ฮาร์วาร์ด (John Harvard) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยซาบซึ้งในความดีของเขาจึงตั้งชื่อมหาวิทยาลัยตามนามสกุลของเขา

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 2. อาคาร Harvard House

ข้างๆ กับ Harvard House คือ The Garrick Inn โรงแรมโบราณสร้างเมื่อปี 1596 แต่บางส่วนเก่าแก่ถึงศตวรรษที่ 14 จึงถือเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองนี้ และลือกันว่าผับและที่พักแรมทางแห่งนี้มีผีสิง สมัยก่อนที่นี่มีชื่อว่า Greyhound แต่ในปี 1795 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น The Garrick Inn ตามชื่อของนักแสดงชื่อดัง เดวิด แกร์ริก ซึ่งโด่งดังจากการรับบทบาทในบทละครที่เขียนโดยเชกสเปียร์

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 3.The Garrick Inn กับ Tudor House 


ต่อจาก The Garrick Inn คือห้องแถวที่มีชื่อว่า Tudor House สร้างขึ้นราวปี 1595-6 และใกล้ๆ กันเป็นบ้านเลจที่ 19 และ 20 ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 1610

เมื่อพ้นจาก Tudor House มาแล้วจะเป็นถนน Chapel Street อาคารที่สำคัญอยู่ที่ปลายถนนอีกด้าน ทางฝั่งหนึ่งคือ Nash's House ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อราวปี 1600 เป็นบ้านของโทมัส แนช หลานเขยของเชกสเปียร์ ปัจจุบันป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนข้างๆ บ้านหลังนี้ คือบ้านอีกหลังของเชกสเปียร์ ที่เรียกว่า New Place เป็นบ้านที่กวีเอกเสียชีวิตลงในปี 1616 แต่ปัจจุบันตัวบ้านไม่หลงเหลืออยู่แล้ว กลายเป็นสวนที่ระลึกของเขา

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 4. Nash's House

ฝั่งตรงข้าม New Place คืออาคารสมัยทิวดอร์ที่มีขนาดใหญ่มาก นั่นคือ The Falcon Hotel มีความเก่าแก่ที่สุดหลังหนึ่ง เพราะสร้างราวปี 1500 แต่เนื่องจากให้บริการเป็นโรงแรม จึงมีการตกแต่งอาคารภายในเป็นแบบสมัยใหม่ไม่เหลือเค้าเดิม ส่วนภายนอกยังงดงามในแบบศตวรรษที่ 16

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 5. The Falcon Hotel

ที่หัวมุมถนนคือ Guild Chapel โบสถ์สมัยศตวรรษที่ 13 เมื่อเดินต่อไปสักนิดหนึ่งจะเป็นถนน National Cycle ต่อกับตัวโบสถ์คืออาคารสมาคมอาชีพแห่งเมือง (Stratford-upon-Avon Guildhall) เป็นที่ชุมนุมทางศาสนาของผู้มีอาชีพพ่อค้า อาคารนี้มีความเก่าแก่มาก เพราะสร้างขึ้นในปี 1417 และเป็นสถานที่ที่เชกสเปียร์เรียนหนังสือในราวปี 1570 (พ่อของเชกสเปียร์เป็นพ่อค้าคนหนึ่งในเมือง)

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 6. อาคารสมาคมอาชีพแห่งเมือง (Stratford-upon-Avon Guildhall)

เมื่อพ้นจากอาคารหลังนี้ไป ให้เดินต่อไปเรื่อยๆ จนสุดทางถนน เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปสักพักหนึ่ง จะพบอาคารสำคัญอีกหลัง เป็นบ้านส่วนบุคคลที่มีชื่อว่า Hall's Croft สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 บ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัยของลูกสาวของเชกสเปียร์คือ ซูแซนนา ฮอลล์ กับสามีคือจอห์น ฮอลล์ ในส่วนของลูกเขยคนนี้ ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพ่อตา โดยมีหลักฐานเรื่องการปรึกษาหารือและเดินทางไปลอนดอนด้วยกัน หลังจากเชกสเปียร์เสียชีวิตแล้ว ครอบครัวฮอลล์ย้ายจาก New Place มาอาศัยที่บ้านหลังนี้

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 7. Hall's Croft

เมื่อผ่าน Hall's Croft แล้วจะไม่มีบ้านแบบโบราณอีก แต่จะพบกับโบสถ์ Church of Holy Trinit สมัยศตวรรษที่ 13 ภายในคือสถานที่ฝังศพของเชกสเปียร์กับครอบครัว บรรยายกาศเงียบสงบและขรึมขลังแบบศิลปะกอธิก แม้ว่าแต่ละปีจะมีผู้มาเยือนและไว้อาลัยเชกสเปียร์ถึง 200,000 คนแต่ก็ยังรักษาบรรยากาศที่สงบร่มรื่นเอาไว้ได้

คู่มือชมอาคารไม้โบราณ500ปี ที่บ้านเกิดเชกสเปียร์กวีเอกของโลก 8. สถานที่ฝังศพของเชกสเปียร์

นอกเหนือจากอาคารเหล่านี้แล้ว ยังมีบ้านโบราณอีกจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่นอกเส้นทาง ที่สำคัญที่สุดคือบ้านของแอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway's Cottage) ภรรยาของเชกสเปียร์ ห่างจากตัวเมืองราว 1.6 กิโลเมตร เป็นกระท่อมมุงหญ้าที่กระทัดรัดท่ามกลางสวนดอกไม้ที่สวยงาม

(ขอขอบคุณธนาคารออมสิน ที่เอื้อเฟื้อการเดินทางในครั้งนี้)