จูบิลี ออร์แกนิก ฟาร์ม เกษตรอินทรีย์สุขใจย่านรังสิต

โดย ภาดนุ

จูบิลี ออร์แกนิก ฟาร์ม (Jubilee Organic Farm) เริ่มต้นจากเพื่อนๆ หัวใจสีเขียว 4 คนที่มารวมตัวกัน นั่นคือ เหน่ง-พลัง ใหม่-พรเพ็ญ จุ-จุฑารัตน์ และ ป๋อม-ศุภกิต เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คืออยากให้ผู้คนได้บริโภคผลผลิตที่เป็นออร์แกนิก เมื่อคนกินแล้วจะได้สุขภาพดี

 ใหม่-พรเพ็ญ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่ม เล่าว่า เดิมทีเธอเป็นเจ้าของธุรกิจที่เปิดบริษัทออร์แกไนซ์มาก่อน (ปัจจุบันก็ยังทำอยู่) แต่เพราะมีใจรักและอยากให้คนทั่วไปได้รับสิ่งดีๆ เธอกับเพื่อนๆ จึงเริ่มต้นลงมือจับจอบเสียมทำฟาร์มปลูกผักบนที่ดิน 5 ไร่ ที่ จ.นครปฐม แต่หลังจากน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 จึงได้ย้ายมาเริ่มต้นทำอีกครั้งบนที่ดินแถบรังสิต จ.ปทุมธานี

 “ที่รังสิตเราเริ่มทำฟาร์มด้วยแนวทางที่เน้นคุณภาพ พิถีพิถันกับการปรุงดิน ไร้เคมี เป็นระบบออร์แกนิกที่ปลูกผักด้วยดินทั้งหมด โดยวางระบบหมุนเวียนน้ำและพื้นที่ทั้งหมดของฟาร์ม ให้สัมพันธ์กับระบบนิเวศที่เอื้อหนุนกันตามวงจรตามธรรมชาติ เราไม่ได้ทำเกษตรตามกระแสนิยม แต่เราศึกษาและเลือกทำเพื่อให้คนกินมีสุขภาพที่ดีขึ้น”

 ใหม่บอกว่า ช่วงแรกที่ฟาร์มก็ปลูกผักแบบโอเพ่นฟิลด์กว้างๆ แต่ต่อมาก็เริ่มทำเป็นโรงเรือนกรีนเฮาส์ ซึ่งช่วยในเรื่องการจัดการระบบน้ำและการป้องกันแมลง จึงช่วยให้ดูแลพืชผลได้ง่ายขึ้น

 “ช่วงแรกเราเริ่มปลูกผักประเภทที่ใช้ทำสลัดก่อน เช่น กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก คอส บัตเตอร์เฮด บาตาเวีย ร็อกเกต เคล มะเขือเทศ ฯลฯ ซึ่งเป็นผักที่สามารถกินสดได้ โดยปลูกในแปลงดินที่เรายกแปลงกันเอง ช่วงแรกเราปลูก 4-5 ไร่ เมื่อเพื่อนๆ มาเห็นตอนผักเริ่มโตก็จะพากันตื่นเต้นใหญ่ เพราะดูแล้วสวยมาก

 แต่ปัจจุบันเรามีพื้นที่ 50 กว่าไร่ มีการปลูกผักพื้นบ้านตามฤดูกาลต่างๆ เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักโขม ถั่วฝักยาว แตงกวา เป็นต้น มีผลไม้ เช่น กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า มะละกอ มะม่วง รวมทั้งสมุนไพร เช่น กระเจี๊ยบแดง ตะไคร้ อัญชัน มะกรูด ใบบัวบก แก่นตะวัน มะนาว เลมอน รวมถึงข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมปทุมธานี ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีการเลี้ยงเป็ดไข่ ขุดบ่อเลี้ยงปลานิล ปลาสลิด และในร่องน้ำรอบฟาร์มจะเลี้ยงปลาเบญจพันธุ์ด้วย

 อย่างผักสลัดของฟาร์มนี้จะสามารถเก็บไว้ในช่องแช่ผักได้นานกว่าปกติ เนื่องจากผักแข็งแรง ไม่มีสารเคมี อีกอย่างเราจะแนะนำวิธีเก็บที่ถูกต้อง ผักก็จะเสียช้ากว่าปกติ เรียกว่าคนกินจะได้กินผักที่ดีและแข็งแรงจากธรรมชาติจริงๆ”

 ใหม่บอกว่า ถ้าจะเปรียบเทียบการทำงานออร์แกไนซ์กับการทำเกษตร มันก็เป็นงานคนละประเภทกัน ซึ่งเธอก็เข้าใจดี เพราะทุกอย่างมันต้องมีจุดเริ่มต้น แรกๆ อาจจะเหนื่อยหนัก แต่ถ้ามันเป็นเพียงความฝัน ฟาร์มออร์แกนิกแห่งนี้ก็จะไม่อาจเกิดขึ้นได้

 “ต้องบอกว่าการที่พวกเราหันมาทำฟาร์มปลูกผักออร์แกนิกนั้น เราไม่ได้แค่เอาทฤษฎีมาชี้นิ้วหรือสั่งให้คนสวนทำเท่านั้น แต่เราจะลงมือทำแปลงปลูกผัก พรวนดิน หว่านเมล็ดพืชเอง ตั้งแต่แรกเลย พูดง่ายๆ ว่า เราต้องทำให้เป็นก่อน ไม่งั้นจะไปสอนคนสวนต่อไม่ได้ ถ้าไม่รู้จริง

 การที่เราเคยทำออร์แกไนซ์มาก่อน มันช่วยให้เรามีการวางแผนจัดการที่ดินที่มีอยู่ได้ ว่าจะทำอะไรบ้าง พื้นที่ไหนปลูกข้าว พื้นที่ไหนปลูกผัก พื้นที่ไหนปลูกพืชล้มลุก ตรงไหนเลี้ยงเป็ด ตรงไหนเลี้ยงปลา และจะหมุนเวียนระบบน้ำในฟาร์มอย่างไร เป็นต้น โดยนำหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ ซึ่งก็ได้ผลที่ดีมากๆ

 ในช่วงปีแรกที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เราได้นำไปแบ่งปันให้เพื่อนๆ และเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้บริโภคพืชผลที่ดีก่อน จากนั้นเขาก็บอกกันปากต่อปาก จนเริ่มมีลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ หรือนำไปมอบให้กับมูลนิธิต่างๆ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นร้านอาหาร ร้านขายของอินทรีย์ต่างๆ และโรงเรียน ซึ่งเรามองว่าทุกคนคือเพื่อนเรา คุยกันได้เสมอ

 บางครั้งก็มีคนมาเยี่ยมชมฟาร์มบ้าง ซึ่งเขาก็จะแนะนำต่อๆ กันไป โดยมีทั้งลูกค้าที่เปิดร้านอาหาร มีร้านขายผักออร์แกนิกมาสั่งผักไปขายบ้าง หรืออาจเป็นโรงเรียนทางเลือกที่จะส่งกรรมการสหกรณ์เข้ามาตรวจคุณภาพของผักที่ฟาร์ม ก่อนจะสั่งไปอีกที ซึ่งพวกเขาก็เข้าใจดีว่าพืชผลจากฟาร์มเราเป็นออร์แกนิก ฉะนั้นราคาก็อาจจะสูงกว่าพืชผักทั่วไป แต่ลูกค้าก็เลือกที่จะใช้ผลผลิตจากฟาร์มเรา ซึ่งเราจะส่งผักผลไม้ให้แบบเดลิเวอรี่ถึงบ้านหรือออฟฟิศเลย”

 ใหม่ทิ้งท้ายว่า นอกจากนี้ยังมีการสอนวิถีเกษตรปลูกผักให้กับนักเรียนในพื้นที่ กลุ่มคน หรือหน่วยงานต่างๆ ที่มาเยี่ยมชมฟาร์มอีกด้วย ซึ่งเป็นเหมือนการคืนสิ่งดีๆ ให้กับสังคมนั่นเอง...

 สนใจเยี่ยมชมฟาร์ม หรือสั่งผลผลิต โทร.08-6376-5600, 08-1555-1525 Page FB : Jubilee Organic Farm หรือ IG : jubilee.organic.farm และ Line : @lmh4564c