posttoday

จีนยันร่วมสนับสนุนเพื่อแก้ไขความเสี่ยงหนี้รัฐบาลท้องถิ่น

21 สิงหาคม 2566

ธนาคารกลางของจีนระบุในถ้อยแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะประสานการสนับสนุนทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายกำลังพยายามฟื้นเศรษฐกิจที่สั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ และสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน

ถ้อยแถลงหลังการประชุมร่วมกันเมื่อวันศุกร์โดยธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินและหลักทรัพย์ของประเทศ มีขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ลุกลามรุนแรงของจีนกำลังเริ่มทะลักเข้าสู่ระบบการเงินของตน

เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลักหลายรายการเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลักในวันจันทร์นี้ แต่นักวิเคราะห์มองว่า การดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ยังน้อยเกินไป สายเกินไป โดยจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้ เพื่อสกัดกั้นการเกิดขาลงของเศรษฐกิจ

ตามคำแถลงของ PBOC แผนกการเงินควรเพิ่มเครื่องมือในการป้องกันและแก้ไขความเสี่ยงด้านหนี้สิน เสริมความแข็งแกร่งในการตรวจสอบความเสี่ยง และยึดมั่นในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเชิงระบบ 

เมื่อปลายเดือนก.ค. สำนักโปลิตบูโรของจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงด้านหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น และกล่าวว่าจะดำเนินการหลายมาตรการ แต่ยังไม่มีการประกาศแผนใดๆ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ว่า จีนจะเสนอโควตาการออกพันธบัตรแก่รัฐบาลท้องถิ่นรวมมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (1.37 แสนล้านดอลลาร์) สำหรับการรีไฟแนนซ์

นักวิเคราะห์เชื่อว่ามาตรการช่วยเหลือที่ประสานกันน่าจะเกี่ยวข้องกับการระดมทุนเพิ่มเติมหรือช่องทางการรีไฟแนนซ์ การแลกเปลี่ยนหนี้และการขยายเวลาการชำระเงิน และการปรับโครงสร้างหนี้

หน่วยงานท้องถิ่นที่มีภาระหนี้ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินของจีน นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า หลังจากลงทุนมากเกินไปในโครงสร้างพื้นฐานหลายปี ผลตอบแทนจากการขายที่ดินลดลง และต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

ฐานะทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งถดถอย หลังจากการตกต่ำอย่างรุนแรงในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเฟื่องฟู ทำให้บริษัทผิดนัดชำระหนี้จำนวนมาก

PBOC ยังย้ำว่าจะปรับนโยบายสินเชื่อให้เหมาะสมสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนบริษัทขนาดเล็ก นวัตกรรมเทคโนโลยี และภาคการผลิตมากขึ้น

แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า ผู้บริโภคและบริษัทจำนวนมากไม่มีอารมณ์ที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายหรือการกู้ยืม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทำให้ในเดือนก.ค. การปล่อยสินเชื่อรายใหม่ของธนาคารต่างๆลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี