'ตลาดแม่สาย' สะอื้น นักท่องเที่ยวหาย-ค้าฝืด
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล
ตลาดแม่สาย จ.เชียงราย เป็นพื้นที่การค้าบริเวณชายแดนที่มีชื่อเสียงมานาน และเป็นตลาดชายแดนที่คึกคักมากเป็นอันดับต้นๆ ของพื้นที่ภาคเหนือ เพราะมีผู้บริโภคจากฝั่งเมียนมาเข้ามาจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจากฝั่งไทยก็นิยมข้ามไปเที่ยวฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็กของเมียนมา
ทว่า ภาพตลาดแม่สายในวันนี้กลับเงียบเหงาลง ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ลดน้อยลง จนทำให้บรรยากาศไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน
สมนึก (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าและชุดกีฬา วัย 54 ปี ในตลาดแม่สาย บอกว่า ช่วงนี้การค้าขายในตลาดแม่สายค่อนข้างเงียบเหงา โดยเฉพาะวันธรรมดาจะเงียบมาก ส่วนช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์จะดีขึ้น แต่ยอดขายสินค้าในแต่ละวันจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ในช่วงนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงไหนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในตลาดแม่สายจำนวนมาก ก็ไม่ใช่สิ่งการันตีได้ว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาดจะสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดินชมสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่มักจะไม่ได้ซื้อสินค้าติดไม้ติดมือกลับไป
ที่สำคัญ ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาในพื้นที่น้อยลงมาก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่ยังมีอยู่คือ ชาวเมียนมาที่ข้ามฝั่งมาซื้อหาของใช้จำเป็น และสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น
“ต้องยอมรับว่าร้านค้าในตลาดแม่สายมีจำนวนมาก สินค้าที่ขายมักจะมีลักษณะคล้ายกัน หรือเป็นสินค้ากลุ่มเดียวกัน จึงขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะชอบหรือถูกใจสินค้าร้านไหน และจะตัดสินใจซื้อหรือไม่” สมนึก ระบุ
เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าและชุดกีฬา บอกด้วยว่า สินค้าส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ในตลาดแม่สายเป็นสินค้าที่รับมาจากจีน และสินค้าพื้นบ้าน หรือจะเรียกว่าตลาดแม่สายเป็น “ตลาดสินค้าจีนและสินค้าโอท็อปของเชียงราย” ก็ว่าได้ ส่วนค่าเช่าพื้นที่ร้านอยู่ที่ประมาณเดือนละ 1 หมื่นบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับทำเล
เมื่อถามว่า การที่ อ.แม่สาย ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในพื้นที่พัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเชียงราย จะช่วยทำให้บรรยากาศการค้าขายในตลาดแม่สายกลับมาคึกคักเหมือนเดิมหรือไม่นั้น เจ้าของธุรกิจรายนี้ มองว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจะส่งผลดีหรือไม่ดีต่อพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแห่งนี้อย่างไร เนื่องจากยังไม่รู้ว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจะมีอะไรบ้าง และจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่มากน้อยเพียงใดในอนาคต อีกทั้งยังคิดว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษน่าจะเน้นการลงทุนอุตสาหกรรมมากกว่า จึงไม่น่าจะส่งผลต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ครั้งที่ 3/2558 มีมติเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ออกประกาศส่งเสริมกิจการที่ส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 ซึ่งมี จ.เชียงราย รวมอยู่ด้วย โดยจะมีการส่งเสริมกิจการพิเศษใน 13 กิจการ ตามประกาศส่งเสริมการลงทุนฉบับที่ 4/2557 ยกเว้น จ.เชียงราย ที่จะไม่ส่งเสริมกิจการอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์
ด้าน ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ได้ฉายภาพการค้าชายแดนในพื้นที่ อ.แม่สาย ว่า ขณะนี้ชะลอลงจากช่วงก่อนหน้านี้พอสมควร หากประเมินเบื้องต้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คาดว่ามูลค่าอาจจะลดลงประมาณ 5% เนื่องจากการค้าขายในตลาดแม่สายส่วนใหญ่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก
สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรแม่สายในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-มี.ค. 2558) มีมูลค่ารวม 5,251.87 ล้านบาท แบ่งเป็นการนำเข้า 87.23 ล้านบาทและส่งออก 5,164.64 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าการค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรแม่สายปี 2557 มีมูลค่ารวม 1.21 หมื่นล้านบาท
“การค้าชายแดนในแม่สายจะกลับมาคึกคักอีกครั้งได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล หากรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้ง อ.แม่สาย มากขึ้น ก็น่าจะช่วยทำให้การค้าขายในตลาดชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก คึกคักกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่หากไม่มีการท่องเที่ยว การค้าขายในพื้นที่ก็จะไม่ดีไปด้วย” ผกายมาศ อธิบาย
ผกายมาศ ยังเสนอด้วยว่า หากต้องการส่งเสริมการค้าชายแดน รัฐบาลจะต้องยกเว้นข้อกำหนดที่ห้ามหน่วยงานราชการเดินทางไปดูงานหรืออบรมสัมมนาต่างประเทศ สำหรับจังหวัดที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนอย่างตลาดชายแดนแม่สายให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
“ผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัว ต้องดูว่าในพื้นที่ขาดอะไร ผู้บริโภคชอบอะไร เพื่อที่จะได้จัดหาสินค้าและบริการที่แตกต่างมาขาย ทำให้ยอดขายของร้านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเท่าที่ดูๆ ในขณะนี้เห็นว่าในพื้นที่แม่สายยังขาดธุรกิจพวกนวดและสปา ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยและคนเมียนมาชอบ” ผกายมาศ แนะนำ
ทั้งนี้ ปัจจุบันใน จ.เชียงราย มีด่านการค้าชายแดนที่สำคัญ 3 ด่าน ได้แก่ ด่านแม่สาย ด่านเชียงแสน และด่านเชียงของ โดยทั้งสามด่านนี้มีมูลค่าการส่งออกรวมกันประมาณ 4 หมื่นกว่าล้านบาท/ปี ซึ่งหากในอนาคตมีการขยายด่านชายแดนให้เพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าย่อมเป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้มูลค่าการส่งออกของแต่ละด่านลดลง เนื่องจากอาจมีการกระจายการนำเข้าและส่งออกไปตามด่านต่างๆ


