posttoday

เล็กพริกขี้หนู

29 เมษายน 2555

ความเจริญก้าวหน้าของสังคมจีนในปัจจุบัน ย่อมมีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวจีนให้ดีกว่าที่ผ่านๆ มา เมื่อผู้คนมีความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตแล้ว จึงหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น การดูแลสุขภาพก็มีด้วยกันหลากหลายทางเลือก ในจำนวนนี้การทานผลไม้ถือเป็นวิธีหนึ่งที่เข้าถึงได้ง่าย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าผลไม้ชนิดนั้นมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายด้วยแล้วละก็ คงเป็นเรื่องที่น่าอภิรมย์มากทีเดียว เรียกว่าทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

ความเจริญก้าวหน้าของสังคมจีนในปัจจุบัน ย่อมมีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวจีนให้ดีกว่าที่ผ่านๆ มา เมื่อผู้คนมีความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตแล้ว จึงหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น การดูแลสุขภาพก็มีด้วยกันหลากหลายทางเลือก ในจำนวนนี้การทานผลไม้ถือเป็นวิธีหนึ่งที่เข้าถึงได้ง่าย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าผลไม้ชนิดนั้นมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายด้วยแล้วละก็ คงเป็นเรื่องที่น่าอภิรมย์มากทีเดียว เรียกว่าทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

วันนี้เราจะมาพูดถึงพุทราจีน หรือลูกจ๊อฃจิๆ ฃฉ ผลไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นจีนได้ดีอย่างหนึ่ง ลองไปดูกันว่ามีเรื่องราวดีๆ อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

แม้ว่าคำกล่าวติดปากอย่าง “กินพุทราจีนทุกวัน ความอ่อนวัยไม่ไกลห่าง” “ทานพุทราจีนวันละ 10 เม็ด ชาตินี้ก็ไม่มีวันแก่” “ธัญพืชทั้งห้ากับพุทราจีน มีประโยชน์กว่าเห็ดหลินจือ” “หากต้องการให้ผิวสวย ใส่จ๊อลงในโจ๊ก” ฟังแล้วอาจรู้สึกเกินจริงไปบ้าง แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าการทานพุทราจีนเป็นประจำช่วยเสริมสร้างสุขภาพและความงาม

พุทราจีนมีประวัติความเป็นมายาวนานและอยู่คู่สังคมจีนมาช้านานแล้ว เป็นที่รู้กันว่าชาวจีนชื่นชอบสีแดงมาก เนื่องจากมองว่าเป็นสีมงคลและเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง เราจึงเห็นผลไม้ชนิดนี้ตามงานรื่นเริงต่างๆ เช่น งานแต่งงาน เทศกาลตรุษจีน งานวันเกิด เป็นต้น ทั้งยังมักนำพุทราจีนสีแดงที่สื่อถึงความเป็นสิริมงคลไปตั้งชื่อเรียกต่างๆ เช่น เมืองเจ่าจวง อ.เจ่าเฉียง เมืองเจ่าหยาง เมืองเจ่าฮู่ เป็นต้น นับแต่อดีตจนปัจจุบัน การมอบพุทราจีนให้แก่กันถือเป็นการมอบความจริงใจ แทนความระลึกถึงและส่งผ่านมิตรภาพที่ดีต่อกัน ที่น่าสนใจก็คือ พุทราจีนมีบทบาทที่หลากหลายในแต่ละยุคสมัย ดังเห็นได้จากมุมมองของบรรดาผู้ครองแคว้นของจีนยุคโบราณที่มีต่อพุทราจีนว่า เป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศ ที่เป็นเช่นนี้เพราะผลไม้ชนิดนี้ถือเป็นเสบียงอาหารหลักในเวลาออกศึก ผู้คนจึงขนานนามผลไม้ชนิดนี้ว่า “ผลไม้แห่งชีวิต” หรือในยามที่บ้านเมืองประสบภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง พุทราจีนเม็ดเล็กๆ เหล่านี้กลับมีอานุภาพในการประทังชีวิตผู้ประสบภัยได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังเช่นเหตุการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในเดือน ก.พ. เรื่อยไปจนถึงเดือน ส.ค.ของปี ค.ศ. 1924 ไม่มีฝนแม้แต่หยดเดียวโปรยปรายลงมายัง อ.หลิ่วหลิน แถบหลู่เหลียง มณฑลซานซี แน่นอนว่าพืชผลที่ปลูกไว้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ มีเพียงพุทราจีนเท่านั้นที่ออกผลภายใต้สภาวะอากาศเช่นนี้ กลายเป็นอาหารในยามทุกข์ยากของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว

เล็กพริกขี้หนู

ผลไม้ชนิดนี้มีประวัติการขยายพันธุ์ในประเทศมานานหลายพันปีแล้ว จากนั้นก็แพร่หลายไปยังนานาประเทศเริ่มจากเกาหลีเหนือ ญี่ปุ่น สหภาพโซเวียต อัฟกานิสถาน อินเดีย พม่า ปากีสถาน และเข้าไปยังดินแดนเปอร์เซียผ่านเส้นทางสายไหมปัจจุบัน พุทราจีนขยายพันธุ์ไปปลูกยังดินแดนต่างๆ กว่า 40 ประเทศทั่วโลก

ในแต่ละปีประเทศจีนสามารถผลิตพุทราจีนนานาพันธุ์ได้มากกว่า 3 ล้านตันต่อปี มีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 99 ของตลาดพุทราจีนโลก นอกจากมณฑลเฮยหลงเจียงที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ดินแดนแห่งอื่นๆ ของประเทศล้วนปลูกผลไม้ชนิดนี้กันทั้งสิ้น ถือเป็นพืชที่ทนทานต่อสภาวะอากาศแล้ง จึงเป็นพืชที่ปลูกง่ายและพบเห็นได้ทั่วไป พุทราจีนสีแดงของหลายพื้นที่ถือว่ามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป เช่น เถียนอวี้ (ซินเกียง) ยั่วเชียง (ซินเกียง) ฮามี่ (ซินเกียง) ชังโจว (เหอเป่ย) จานฮว่า (ซานตง) หลิ่วหลิน (ซานซี) เป็นต้น ด้วยความที่ปลูกในต่างพื้นที่และมีชนิดที่แตกต่างกัน ชื่อเรียกของพุทราจีนสีแดงจึงมีความหลากหลาย ในจำนวนนี้ มณฑลซานซี มณฑลเหอเป่ย และเขตปกครองตนเองซินเกียงถือเป็นแหล่งผลิตพุทราจีนสีแดงที่มีปริมาณมากที่สุดของประเทศ

พุทราจีนได้รับการขนานนามให้เป็น 1 ใน 5 สุดยอดผลไม้ที่มีเม็ดของจีน (ประกอบด้วย ลูกท้อ ลูกพลัม บ๊วย อัลมอนด์และพุทราจีน) มีหลากหลายชนิด ชนิดใหญ่ๆ แบ่งได้เป็นพุทราจีนสีดำฃจบฺิๆ ฃฉ และพุทราจีนสีแดงฃจบ์ิๆ ฃฉ ในส่วนของชนิดแรกนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด สามารถนำไปให้เด็กๆ ทานเพื่อช่วยให้อุจจาระไม่แข็งและเจริญอาหาร ขณะที่พุทราจีนสีแดงยังแบ่งออกเป็นชนิดสดและแห้ง ซึ่งมีความแตกต่างกันมาก โดยที่พุทราจีนสดจะอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด โดยเฉพาะวิตามินซีว่ากันว่ามีปริมาณมากกว่าผลไม้ชนิดใดๆ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “เม็ดวิตามินซีแบบธรรมชาติ” เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินซีให้แก่ร่างกายเป็นอย่างมาก

เนื่องจากพุทราจีนสดก็มักจะเน่าง่าย ดังนั้นจึงมีการนำพุทราจีนสีแดงไปตากแห้ง เพื่อประโยชน์ในการเก็บรักษา รู้จักกันในนาม “พุทราจีนแห้ง” แม้ว่าการนำพุทราจีนไปผ่านกรรมวิธีตากแห้งย่อมส่งผลต่อการสูญเสียวิตามินซี ทว่า ข้อดีของพุทราจีนแห้งอยู่ตรงที่มีปริมาณธาตุเหล็กสูง เหมาะสำหรับสตรีที่ต้องการบำรุงเลือดและเพิ่มธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย ด้วยเหตุนี้พุทราจีนจึงเป็นทั้งผลไม้และอาหารบำรุงสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

พุทราจีนสีแดงที่เราเห็นกันนั้นสามารถทานได้ทั้งสดๆ หรือจะนำไปผ่านการปรุงสุก นำไปเชื่อม อบน้ำผึ้ง ชงชา แช่เหล้า คั้นน้ำผลไม้ เป็นต้น จึงมีนักโภชนาการจำนวนมากส่งเสริมให้ดื่มชาพุทราจีนเพื่อสุขภาพ เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณในการรักษาที่มีราคาไม่แพง นอกจากนี้เรายังสามารถทานลูกพุทราจีนสีแดงร่วมกับอาหารชนิดอื่นๆ เช่น นำไปต้มกับโจ๊ก มีประโยชน์ต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยขับความชื้นออกจากร่างกาย การนำพุทราจีนแห้งไปต้มกับข้าว ข้าวเดือยหรือข้าวเหนียว จะได้เป็นอาหารเสริมสุขภาพที่มีคุณประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากช่วยบำรุงโลหิต ผ่อนคลายเส้นประสาท ทั้งยังเพิ่มเลือดฝาดให้แก่ใบหน้าที่ซีดขาว บรรเทาอาการปวดศีรษะและเหนื่อยล้า เป็นต้น ผลการวิจัยทางการแพทย์ระดับสากลชี้ให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่รับประทานพุทราจีนสีแดงติดต่อกันเป็นเวลานาน จะมีโอกาสฟื้นคืนสู่ภาวะปกติได้ดีกว่าผู้ที่ทานแต่วิตามินเพียงอย่างเดียวมากถึง 3 เท่า

แต่ก็มีข้อจำกัดในการทานอยู่บ้าง เนื่องจากเปลือกพุทราจีนมีกากใยในปริมาณสูงอาจระคายต่อกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่กระเพาะอาหารด้อยประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก สำหรับสตรีที่มีอาการบวมน้ำขณะมีประจำเดือนไม่เหมาะที่จะทานพุทราจีนแห้ง ด้วยความที่มีรสฝาดง่ายต่อการมีเสมหะหรือบวมน้ำ อาจทวีความรุนแรงของอาการดังกล่าวได้ นอกจากนี้การทานพุทราจีนสดในปริมาณมาก อาจทำให้ท้องเสียและระคายลำไส้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหวัด มีไข้ ท้องอืด ควรหลีกเลี่ยงการทานพุทราจีนสดเป็นอย่างยิ่ง หลังทานเสร็จควรรีบบ้วนปากทันที มิเช่นนั้นอาจทำให้ฟันผุและฟันเหลืองได้

นอกจากนี้ พุทราจีนสีแดงไม่เหมาะแก่ผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากมีสัดส่วนของน้ำตาลในปริมาณมาก พุทราจีนแบบสดมีน้ำตาลประมาณร้อยละ 2036 ส่วนพุทราจีนแห้งมีสัดส่วนน้ำตาลสูงถึงร้อยละ 5580 จัดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานความร้อนสูง

บางครั้งของที่มองดูแสนจะธรรมดา อาจมีคุณประโยชน์มากกว่าที่เราคาด เหมือนอย่างพุทราจีนที่เรากำลังพูดถึงนี้ ซึ่งเป็นได้ทั้งพืชเศรษฐกิจ ผลไม้มงคล ผลไม้เพื่อสุขภาพในเม็ดเดียวกัน

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2