posttoday

BOJ ยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย! SET แกว่งตัว เน้นย่อสะสมหุ้นกำไรเด่น

22 ธันวาคม 2568

ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 0.75% ลิเบอเรเตอร์ชี้หุ้นไทยไร้ปัจจัยใหม่ ดัชนีแกว่งตัว แนะสะสมหุ้นพื้นฐานดี Valuation น่าสนใจ ชู CPN เด่นรับไฮซีซันปลายปี

KEY

POINTS

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 0.75%
  • ลิเบอเรเตอร์ชี้หุ้นไทยไร้ปัจจัยใหม่ ดัชนีแกว่งตัว
  • แนะสะสมหุ้นพื้นฐานดี Valuation น่าสนใจ ชู CPN เด่นรับไฮซีซันปลายปี

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ผลการประชุมธนาคารกลางต่างๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสอดคล้องกับที่เราคาด โดย กนง. และ BOE ปรับลดดอกเบี้ย 0.25%

ส่วนทางด้าน ECB คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม และช่วงปลายสัปดาห์ BOJ มีมติเอกฉันท์ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% สู่ระดับ 0.75% ตามคาด 

ประเด็นสำคัญของการประชุม BOJ คือ แม้ว่าจะมีการประกาศขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังเน้นย้ำว่าดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Rate) ในปัจจุบันยังคงติดลบมาก ดังนั้นช่วงถัดไปยังมีโอกาสขึ้นแต่น้ำหนักยังเป็นในทิศทางค่อยเป็นค่อยไป โดยจะขึ้นกับสัญญาณของตัวเลขเศรษฐกิจเป็นหลัก

ซึ่งจุดนี้เลยสะท้อนว่า BOJ ยังไม่ได้ส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดมากเกินไปนัก ตลาดจึงสะท้อนออกมาที่ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง 

ล่าสุดหากเทียบกับ USD พบว่าอยู่ที่ระดับ 157.75 เยนต่อดอลลาร์ เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 11 เดือน

สำหรับสัปดาห์นี้ ปัจจัยในประเทศ แนะติดตามยอดการขายรถยนต์, ยอดการส่งออกไทย และความคืบหน้าทางการเมือง โดยติดตามการทยอยประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมือง

ส่วนปัจจัยภายนอกในสัปดาห์นี้ ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯจาก ADP, การรายงานในไตรมาส 3/2568 จีดีพีสหรัฐฯและเงินเฟ้อญี่ปุ่น เป็นต้น 

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นยังคงเน้นย่อสะสมโดยกลยุทธ์ยังเน้นหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไรดี และมี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ

คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,240 - 1,270 จุด ผลประชุม BOJ ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยทำให้เยนอ่อนค่า ส่วนสัปดาห์นี้ตามตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยกลยุทธ์ยังเน้นย่อสะสมหุ้นคาดกำไรดี และมี Valuation น่าสนใจ

วันนี้แนะนำสะสม “CPN” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 68 บาท คาดกำไรในไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มขยายตัว จากทั้ง 1) ธุรกิจ Retail ที่ได้ปัจจัยบวกจากการเปิด Central Park และ Central กระบี่ 

2) ธุรกิจโรงแรม ได้แรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season และมาตรการของภาครัฐฯ เที่ยวดีมีคืน และ 3) ธุรกิจอสังหาฯ มีโอน 3 คอนโด และเปิดเพิ่ม 4 โครงการ

Valuation อยู่ในระดับไม่แพง โดยเทรดเพียง P/E 13 เท่า และคาดปันผลราว 4% ต่อปี.

ข่าวล่าสุด

สหรัฐฯ จี้ไทย-กัมพูชา ยุติสู้รบ-ถอนอาวุธ ยึดข้อตกลงสันติภาพ