ล้ำไปอีกขั้น เสื้อกั๊ก AI ช่วยผู้ป่วยหลอดเลือดสมองขยับแขน

ปัจจุบัน AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่เทคโนโลยีที่เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมที่เราใช้งานในชีวิตประจำวันเริ่มมีการอัปเดตติดตั้งฟีเจอร์ AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ช่วยส่งเสริมทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตให้สะดวกรวดเร็ว จนเริ่มมีการนำไปติดตั้งบนอุปกรณ์สวมใส่ในชีวิตประจำวัน

 

และเรากำลังจะล้ำไปอีกขั้นเมื่อมีการพัฒนา เสื้อกั๊ก AI ที่ช่วยให้ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองกลับมาขยับแขนได้อีกครั้ง

 

 

เสื้อกั๊ก AI สำหรับผู้บกพร่องทางการเคลื่อนไหว

 

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก   John A. Paulson School of Engineering and Applied Sciences แห่ง Havard university กับการคิดค้นเสื้อกั๊ก อุปกรณ์สวมใส่แบบอ่อนนุ่มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่จะช่วยสนับสนุนการขยับให้แก่ผู้บกพร่องทางการเคลื่อนไหว ให้กลับมาขยับแขนตามปกติได้อีกครั้ง

 

ตัวอุปกรณ์ได้รับการออกแบบให้อยู่ในรูปทรงเสื้อกั๊กจากวัสดุผ้า ภายนอกมีรายละเอียดไม่แตกต่างจากเสื้อกั๊กทั่วไปนัก โดยจะขับเคลื่อนและสนับสนุนการเคลื่อนไหวด้วยระบบถุงลมที่ติดตั้วอยู่ในบริเวณข้อพับ ทำหน้าที่เสริมแรงผู้ใช้งานแบบเดียวกับกล้ามเนื้อ เพื่อสนับสนุนการขยับเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ใช้งาน

 

กลไกการทำงานอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวร่วมกับเซ็นเซอร์วัดแรงกด เพื่อวัดทิศทางและน้ำหนักการขยับ จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังโมเดล AI เพื่อให้ตัดสินใจส่งกำลังสนับสนุนผ่านถุงลมที่ติดตั้ง โดยอาศัยการเรียนรู้รูปแบบการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อให้สามารถขยับแขนได้อย่างนุ่มนวลและถูกต้องตามหลักสรีระ

 

ในขั้นตอนทดสอบเสื้อกั๊กช่วยให้ผู้สวมใส่ขยับแขนอย่างเป็นธรรมชาติ สนับสนุนการเคลื่อนไหวให้เป็นไปอย่างลื่นไหล โดยเฉพาะการขยับแขนขึ้น ยกแขนค้าง หรือวางแขนลงก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ด้วยระดับความแม่นยำสูงถึง 94.2% ลดแรงที่ใช้ในการขยับแขน 31.9% และเพิ่มประสิทธิการเคลื่อนไหวของมือถึง 53.8%

 

นี่จึงเป็นเสื้อกั๊ก  AI ที่ละเอียดอ่อนและพร้อมส่งเสริมการเคลื่อนไหวที่ตรวจจับได้แม้ในการขยับเพียงเล็กน้อย

 

 

สู่เสื้ออุปกรณ์สวมใส่ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย

 

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ประเภทนี้ หลายท่านอาจนึกถึงเทคโนโลยี Exoskeleton หรือ โครงกระดูกภายนอก ที่เป็นอุปกรณ์โครงแข็งสำหรับใช้ดูแลรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วย แต่อุปกรณ์เหล่านั้นแข็งเกินไปจนอาจสร้างความเจ็บปวดแก่ผู้ใช้งาน แตกต่างจากเสื้อกั๊ก  AI ที่อ่อนนุ่ม สร้างผลกระทบน้อยกว่าและทำให้สามารถกลับมาขยับได้อย่างราบรื่น

 

อันดับถัดมาคือ โครงกระดูกภายนอกแม้ทนทานมีประสิทธิภาพสูง แต่โดยมากการติดตั้งและใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก ต้องพึ่งพาคนนอกหรือผู้ดูแลจนใช้งานไม่สะดวก ขณะที่เสื้อกั๊ก  AI นี้มีรูปทรงและลักษณะใกล้เคียงเสื้อกั๊กทั่วไป ผู้ป่วยจึงสามารถติดตั้ง สวมใส่ และใช้งานได้เอง ทำให้สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ดูแลตลอดเวลา

 

ระบบสั่งการขับเคลื่อนด้วย AI ก็มีประสิทธิภาพสูง รองรับการเคลื่อนไหวละเอียดอ่อนจากการขยับมุมไหล่เพียง 1.7 องศา และระบบเรียนรู้การเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะโรค ALS ที่อาการอาจทรุดลงต่อเนื่อง หรือผู้ป่วยหลอดเลือดสมองที่แทบไม่เหลือแรงขยับแขน ตัวชุดสามารถปรับแรงสนับสนุนเรียลไทม์เพื่อให้ขยับแขนได้อย่างราบรื่น

 

ตัววัสดุอ่อนนุ่มทั้งชิ้นยังช่วยลดความเสี่ยงบาดเจ็บของผู้ใช้งาน การใช้ Exoskeleton หากมีการขยับหรือเสริมแรงผิดด้าน โครงโลหะที่ใช้งานอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บ แต่สำหรับเสื้อกั๊ก  AI ที่ใช้ถุงพองลมจะไม่ก่อให้เกิดปัญหานี้ และให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมากกว่าอุปกรณ์ภายนอก

 

นอกจากช่วยส่งเสริมการเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ตัวชุดยังมีคุณสมบัติปรับท่าทางและรักษาสรีระการขยับให้ถูกต้อง มุ่งเน้นให้ใช้เพียงแรงจากแขนในการขยับ ป้องกันอาการปวดหลังหรือกระดูกสันหลังคด โรคแทรกซ้อนจากผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่มักเกิดจากการเผลอใช้ลำตัวช่วยเหวี่ยงแขนได้อีกด้วย

 

เสื้อกั๊ก AI นี้จึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาว และลดภาระผู้ดูแลไปพร้อมกัน

 

 

 

 

ปัจจุบันเสื้อกั๊ก AI ยังเป็นเพียงอุปกรณ์ต้นแบบที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ยังต้องผ่านการทดสอบและทดลองทางคลินิกจึงจะสามารถใช้งานจริง แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีแนวโน้มน่าสนใจ และอาจกลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะที่จะช่วยเพิ่มส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก

 

โดยทางทีมวิจัยคาดว่าเสื้อกั๊ก AI อาจถูกผลักดันจนเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027

 

 

 

 

ที่มา

 

https://www.nature.com/articles/s41467-025-62538-8

 

https://seas.harvard.edu/news/2023/02/soft-robotic-wearable-restores-arm-function-people-als

 

https://youtu.be/dFHTyUrAaz0?si=GXjgFTWvfYmj4n42