เปิดรายละเอียดคดีค้ายาข้ามชาติ! เชื่อมโยง 3 บริษัทร่วมฟอกเงินหมื่นล้าน
ตำรวจปส.แถลงรายละเอียดปฏิบัติการเครือข่าย Black Mirror TKP ค้ายาข้ามชาติใน 5 จังหวัด พบเชื่อมโยง 3 บริษัทร่วมกันฟอกเงินนับหมื่นล้านบาท
KEY
POINTS
- ตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ “Black Mirror TKP” ซึ่งลักลอบค้ายาเสพติดและใช้บริษัทบังหน้าเพื่อฟอกเงิน
- การสืบสวนขยายผลพบความเชื่อมโยงทางการเงินกับ 3 บริษัท ที่ร่วมกันฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด โดยมีเงินหมุนเวียนในเครือข่ายนับหมื่นล้านบาท
- ปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย รวมถึงผู้สมัคร สส. พรรคดังซึ่งมีข่าวเปลี่ยนตัวผู้สมัครเมื่อเช้านี้
พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นประธานแถลงผลการปฏิบัติการ จากกรณีที่ บช.ปส. ได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส., สำนักงาน ปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการเชิงรุกในการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดและการฟอกเงินรายสำคัญ ภายใต้ปฏิบัติการทลายรัง เครือข่าย “Black Mirror TKP” ซึ่งเป็นเครือข่ายการค้ายาเสพติด เปิดบริษัทบังหน้าใช้เป็นช่องทางรับ–โอนเงินค่ายาเสพติด มีกลุ่มเครือข่ายที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติ มีทรัพย์สินและเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ก.พ.68 กองร้อยทหารพรานที่ 2101 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ทำการจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติลาว จำนวน 3 ราย ได้แก่ ท้าวพง, ท้าวลี่ และท้าวดำ ได้ที่บริเวณบ้านปากห้วยม่วง ต.นาเข อ.บ้านแพง จว.นครพนม พร้อมของกลางไอซ์น้ำหนักประมาณ 658 กิโลกรัม ยาบ้า 116,000 เม็ด เรือกีบหางยาว 2 ลำ และรถตู้ 1 คัน ซึ่งใช้เป็นพาหนะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ
ขยายผลพบเชื่อมโยงผ่านบริษัท ทีเคพีฯ 7 คดีสำคัญ
จากนั้น บช.ปส.ได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมาพบว่า กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวใช้เส้นทางการเงินจากการค้ายาเสพติดเชื่อมโยงผ่าน บริษัท ทีเคพี ฯ เกี่ยวเนื่องกัน อีก 7 คดี ดังนี้
- เมื่อวันที่ 18 มี.ค.68 บช.ปส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 3 ราย ได้แก่ นายจีระพงษ์, นายเอกภพ และ น.ส.ขนิษฐา พร้อมของกลางคีตามีน น้ำหนักประมาณ 199 กิโลกรัม และรถยนต์ 2 คัน ภายในห้องพักของรีสอร์ทในพื้นที่ อ.เอราวัณ จว.เลย และขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มจำนวน 2 คน ซึ่งเป็นผู้สั่งการ
- เมื่อวันที่ 9 พ.ค.68 บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายสิทธิศักดิ์ และนายกฤษฎา พร้อมของกลางยาบ้า 196,000 เม็ด และรถยนต์ 2 คัน โดยขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่โอนเงินตนเองผ่านบัญชีบริษัท ทีเคพี ฯ ได้อีก 2 ราย คือ นายณัฐพงษ์ และนายกิตติศักดิ์
- เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.68 ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ จว.แพร่ จับกุมนายอารีย์ พร้อมของกลางยาบ้า 10,000,000 เม็ด
- เมื่อวันที่ 19 พ.ย.67 ตำรวจ สภ.วังสะพุง จว.เลย จับกุม นายวิเชียร พร้อมของกลาง ยาบ้า 60,000 เม็ด
- เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.67 ศุลกากรไต้หวัน ตรวจยึดพัสดุซุกซ่อนเฮโรอีน ในขวดโลชั่น น้ำหนัก 3.23 กก. ที่ไต้หวัน ซึ่งถูกส่งจากต้นทาง อ.ท่าบ่อ จว.หนองคาย
- เมื่อวันที่ 6 เม.ย.68 ตำรวจ สปพ.(191) จับกุม นายนพดล หรือดล พร้อมของกลาง ยาบ้า 10,000,000 เม็ด
- เมื่อวันที่ 10 พ.ย.68 ตำรวจ สภ.บ้านดู่ ภ.จว.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 10,000,000 เม็ด
พบเชื่อมโยง 4 บริษัท เงินหมุนเวียนระดับหมื่นล้านบาท
การขยายผลดังกล่าว พบการเชื่อมโยงทางการเงินกับอีก 3 บริษัท หมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท เอ็มทีซีฯ, บริษัท ทีเคพี ปิโตรเลียมฯ และบริษัท มาสเตอร์ เทรดฯ จึงได้ประสานข้อมูลกับ สำนักงาน ปปง. พบข้อมูลรายการเดินบัญชีของกลุ่มบริษัทฯ ดังกล่าว มีลักษณะเป็นการทำธุรกรรม ซึ่งต้องสงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกันในหลายท้องที่ จากการสืบสวนและขยายผลเชิงลึกในครั้งนี้ บช.ปส. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงินฯ” กรรมการและผู้ถือหุ้น รวม 7 ราย
ในวันนี้ 29 ธ.ค.68 (เวลา 06.00 น.) จึงได้เปิดปฏิบัติการ ปิดล้อมตรวจค้นทลายรังเครือข่าย “Black Mirror TKP” พร้อมกัน 22 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ลพบุรี และตรัง สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาฟอกเงิน ได้ 4 คน และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่าย อาทิ เงินสด 1,562,000 บาท, ทองคำ น้ำหนักรวม 43 บาท (655 กรัม), บ้านพร้อมที่ดิน 8 หลัง, อาคารชุด 12 ห้อง, รถยนต์ รวม 6 คัน, รถจักรยานยนต์ 1 คัน, อาวุธปืน 18 กระบอก และโฉนดที่ดิน 1 แปลง ฯลฯ อายัดเงินในบัญชี 30 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์ 246,604,500 บาท
พล.ต.ท.อาชยนฯ กล่าวว่า เครือข่าย “Black Mirror TKP” นี้เป็นเครือข่ายที่ลักลอบค้ายาเสพติดทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ มีผู้ร่วมขบวนการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เปิดบริษัทบังหน้าเพื่อฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด ซึ่งในเครือข่ายนี้สามารถตรวจยึดยาบ้าได้รวม 30.37 ล้านเม็ด, ไอซ์ 658 กิโลกรัม, เฮโรอีน 3.23 กิโลกรัม และคีตามีน 199 กิโลกรัม ผู้ต้องหารวม 24 คน ทรัพย์สินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการลดระดับอิทธิพลของกลุ่มอาชญากร และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
สส.พรรคดังถูกเปลี่ยนตัวผู้สมัครทันที!
คดีนี้มีกระแสตั้งแต่เช้าวันนี้ เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนคดีนี้ พบว่า มีผู้สมัคร สส. พรรคดัง ถูกจับกุมด้วย เพราะมีพฤติการณ์อยู่ในขบวนการฟอกเงินเครือข่ายยาเสพติด เนื่องจากมีลักษณะการรับเงินเป็นรายเดือน ซึ่งตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด มาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
ภายหลัง เมื่อเวลาประมาณ 09.40 น. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน แถลงข่าวเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย เนื่องจากพรรคประชาชนตรวจสอบพบว่าผู้สมัครถูกออกหมายจับในคดีอาญาดังกล่าว.


